เขียนว่า สอ-สา-ลาพยัญชนะตัวที่ ๓๘ เป็นพวกอักษรสูง ใช้ได้ทั้งเป็นพยัญชนะตัวต้นและเป็นตัวสะกดในแม่กดในคําที่มาจากภาษาสันสกฤตและภาษาอื่น เช่น ศาลา อากาศ ไอศกรีม วงศ์. พยัญชนะตัวที่ ๓๘ เป็นพวกอักษรสูง ใช้ได้ทั้งเป็นพยัญชนะตัวต้นและเป็นตัวสะกดในแม่กดในคําที่มาจากภาษาสันสกฤตและภาษาอื่น เช่น ศาลา อากาศ ไอศกรีม วงศ์.
ศก เขียนว่า สอ-สา-ลา-กอ-ไก่ ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ผม เช่น พระศกพระพุทธรูป. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร .ศก ๑ น. ผม เช่น พระศกพระพุทธรูป. (ข.).
ศก เขียนว่า สอ-สา-ลา-กอ-ไก่ ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ระบบการคํานวณนับเวลาเรียงลําดับกันเป็นปี ๆ โดยถือเอาเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเป็นจุดเริ่มต้น ดังในคําว่า รัตนโกสินทรศก ซึ่งถือเอาปีเริ่มสร้างกรุงรัตนโกสินทร์เป็นจุดเริ่มต้น, บางทีก็ใช้เป็นคําย่อของศักราช เช่น พุทธศก คริสต์ศก; คําเรียกปีหนึ่ง ๆ ของจุลศักราช เพื่อให้ทราบว่าเป็นปีที่ลงท้ายด้วย ๑ ๒ ... หรือ ๐ เช่น ถ้าลงท้ายด้วย ๑ เรียกว่า เอกศก ลงท้ายด้วย ๒ เรียกว่า โทศก ... ลงท้ายด้วย ๐ เรียกว่า สัมฤทธิศก; ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก หมายถึง ปี เช่น ศกนี้ ศกหน้า วันเถลิงศก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศก ๒ น. ระบบการคํานวณนับเวลาเรียงลําดับกันเป็นปี ๆ โดยถือเอาเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเป็นจุดเริ่มต้น ดังในคําว่า รัตนโกสินทรศก ซึ่งถือเอาปีเริ่มสร้างกรุงรัตนโกสินทร์เป็นจุดเริ่มต้น, บางทีก็ใช้เป็นคําย่อของศักราช เช่น พุทธศก คริสต์ศก; คําเรียกปีหนึ่ง ๆ ของจุลศักราช เพื่อให้ทราบว่าเป็นปีที่ลงท้ายด้วย ๑ ๒ ... หรือ ๐ เช่น ถ้าลงท้ายด้วย ๑ เรียกว่า เอกศก ลงท้ายด้วย ๒ เรียกว่า โทศก ... ลงท้ายด้วย ๐ เรียกว่า สัมฤทธิศก; (ปาก) ปี เช่น ศกนี้ ศกหน้า วันเถลิงศก. (ส.).
ศกฏะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-ตอ-ปะ-ตัก-สะ-หระ-อะ[สะกะตะ] เป็นคำนาม หมายถึง เกวียน. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สกฏ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ตอ-ปะ-ตัก.ศกฏะ [สะกะตะ] น. เกวียน. (ส.; ป. สกฏ).
ศกละ เขียนว่า สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อะ[สะกะละ] เป็นคำนาม หมายถึง ส่วน, ซีก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สกล เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ลอ-ลิง.ศกละ [สะกะละ] น. ส่วน, ซีก. (ส.; ป. สกล).
ศกุน เขียนว่า สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง นก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สกุณ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-นอ-เนน.ศกุน น. นก. (ส.; ป. สกุณ).
ศกุนต์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู-ตอ-เต่า-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง นก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สกุนฺต เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู-พิน-ทุ-ตอ-เต่า.ศกุนต์ น. นก. (ส.; ป. สกุนฺต).
ศกุนิ เขียนว่า สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู-สะ-หระ-อิ เป็นคำนาม หมายถึง นก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สกุณิ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-นอ-เนน-สะ-หระ-อิ.ศกุนิ น. นก. (ส.; ป. สกุณิ).
ศกุนี เขียนว่า สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู-สะ-หระ-อี เป็นคำนาม หมายถึง นกตัวเมีย. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สกุณี เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-นอ-เนน-สะ-หระ-อี.ศกุนี น. นกตัวเมีย. (ส.; ป. สกุณี).
ศงกา เขียนว่า สอ-สา-ลา-งอ-งู-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง ความสงสัย. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศงฺกา เขียนว่า สอ-สา-ลา-งอ-งู-พิน-ทุ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา และมาจากภาษาบาลี สงฺกา เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-พิน-ทุ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา.ศงกา น. ความสงสัย. (ส. ศงฺกา; ป. สงฺกา).
ศจี เขียนว่า สอ-สา-ลา-จอ-จาน-สะ-หระ-อี เป็นคำนาม หมายถึง ชายาพระอินทร์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศจี น. ชายาพระอินทร์. (ส.).
ศฐะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ถอ-ถาน-สะ-หระ-อะ[สะ–] เป็นคำนาม หมายถึง คนโกง, คนล่อลวง; คนโอ้อวด. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี ส เขียนว่า สอ-เสือ-ถอ-ถาน.ศฐะ [สะ–] น. คนโกง, คนล่อลวง; คนโอ้อวด. (ส.; ป. ส).
ศดก เขียนว่า สอ-สา-ลา-ดอ-เด็ก-กอ-ไก่[สะดก] เป็นคำนาม หมายถึง หมวด ๑๐๐. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศตก เขียนว่า สอ-สา-ลา-ตอ-เต่า-กอ-ไก่ และมาจากภาษาบาลี สตก เขียนว่า สอ-เสือ-ตอ-เต่า-กอ-ไก่.ศดก [สะดก] น. หมวด ๑๐๐. (ส. ศตก; ป. สตก).
ศต–, ศตะ ศต– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ตอ-เต่า ศตะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อะ [สะตะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ร้อย (๑๐๐). ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สต เขียนว่า สอ-เสือ-ตอ-เต่า.ศต–, ศตะ [สะตะ–] น. ร้อย (๑๐๐). (ส.; ป. สต).
ศตบาท, ศตปที ศตบาท เขียนว่า สอ-สา-ลา-ตอ-เต่า-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-อา-ทอ-ทะ-หาน ศตปที เขียนว่า สอ-สา-ลา-ตอ-เต่า-ปอ-ปลา-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อี เป็นคำนาม หมายถึง ตะขาบ, ตะเข็บ, กิ้งกือ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศตบาท, ศตปที น. ตะขาบ, ตะเข็บ, กิ้งกือ. (ส.).
ศตภิษัช, สตภิสชะ ศตภิษัช เขียนว่า สอ-สา-ลา-ตอ-เต่า-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ไม้-หัน-อา-กาด-ชอ-ช้าง สตภิสชะ เขียนว่า สอ-เสือ-ตอ-เต่า-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อิ-สอ-เสือ-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ [–พิสัด, –พิดสะชะ] เป็นคำนาม หมายถึง ดาวฤกษ์ที่ ๒๔ มี ๔ ดวง เห็นเป็นรูปทิมทองหรือมังกร, ดาวพิมพ์ทอง หรือ ดาวยักษ์ ก็เรียก.ศตภิษัช, สตภิสชะ [–พิสัด, –พิดสะชะ] น. ดาวฤกษ์ที่ ๒๔ มี ๔ ดวง เห็นเป็นรูปทิมทองหรือมังกร, ดาวพิมพ์ทอง หรือ ดาวยักษ์ ก็เรียก.
ศตวรรษ, ศตพรรษ ศตวรรษ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ตอ-เต่า-วอ-แหวน-รอ-เรือ-รอ-เรือ-สอ-รือ-สี ศตพรรษ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ตอ-เต่า-พอ-พาน-รอ-เรือ-รอ-เรือ-สอ-รือ-สี [สะตะวัด, –พัด] เป็นคำนาม หมายถึง รอบ ๑๐๐ ปี. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศตวรรษ, ศตพรรษ [สะตะวัด, –พัด] น. รอบ ๑๐๐ ปี. (ส.).
ศตสังวัตสร์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ตอ-เต่า-สอ-เสือ-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู-วอ-แหวน-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-สอ-เสือ-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง เวลานานชั่ว ๑๐๐ ปี. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศตสังวัตสร์ น. เวลานานชั่ว ๑๐๐ ปี. (ส.).
ศตัฆนี เขียนว่า สอ-สา-ลา-ตอ-เต่า-ไม้-หัน-อา-กาด-คอ-ระ-คัง-นอ-หนู-สะ-หระ-อี[สะตักคะนี] เป็นคำนาม หมายถึง อาวุธอย่างร้ายแรงฆ่าคนได้ทีละ ๑๐๐ คน. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศตัฆนี [สะตักคะนี] น. อาวุธอย่างร้ายแรงฆ่าคนได้ทีละ ๑๐๐ คน. (ส.).
ศตกะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ตอ-เต่า-กอ-ไก่-สะ-หระ-อะ[สะตะกะ] เป็นคำนาม หมายถึง หมวด ๑๐๐, มีจํานวน ๑๐๐, ใช้ ศดก ก็มี. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สตก เขียนว่า สอ-เสือ-ตอ-เต่า-กอ-ไก่.ศตกะ [สะตะกะ] น. หมวด ๑๐๐, มีจํานวน ๑๐๐, ใช้ ศดก ก็มี. (ส.; ป. สตก).
ศตัฆนี เขียนว่า สอ-สา-ลา-ตอ-เต่า-ไม้-หัน-อา-กาด-คอ-ระ-คัง-นอ-หนู-สะ-หระ-อีดู ศต–, ศตะ ศต– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ตอ-เต่า ศตะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อะ .ศตัฆนี ดู ศต–, ศตะ.
ศนิ เขียนว่า สอ-สา-ลา-นอ-หนู-สะ-หระ-อิ[สะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ดาวพระเสาร์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศนิ [สะ–] น. ดาวพระเสาร์. (ส.).
ศนิวาร เขียนว่า สอ-สา-ลา-นอ-หนู-สะ-หระ-อิ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ เป็นคำนาม หมายถึง วันเสาร์, โสรวาร ก็ว่า. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศนิวาร น. วันเสาร์, โสรวาร ก็ว่า. (ส.).
ศพ เขียนว่า สอ-สา-ลา-พอ-พาน เป็นคำนาม หมายถึง ซากผี, ร่างคนที่ตายแล้ว. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศว เขียนว่า สอ-สา-ลา-วอ-แหวน และมาจากภาษาบาลี ฉว เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-วอ-แหวน.ศพ น. ซากผี, ร่างคนที่ตายแล้ว. (ส. ศว; ป. ฉว).
ศพละ เขียนว่า สอ-สา-ลา-พอ-พาน-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อะ[สะพะละ] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง หลายสี, ด่าง, ลาย, พร้อย, กระ; วุ่น, รําคาญ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สพล เขียนว่า สอ-เสือ-พอ-พาน-ลอ-ลิง.ศพละ [สะพะละ] ว. หลายสี, ด่าง, ลาย, พร้อย, กระ; วุ่น, รําคาญ. (ส.; ป. สพล).
ศมะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อะ[สะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ความสงบ, ความนิ่ง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สม เขียนว่า สอ-เสือ-มอ-ม้า.ศมะ [สะ–] น. ความสงบ, ความนิ่ง. (ส.; ป. สม).
ศมนะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-มอ-ม้า-นอ-หนู-สะ-หระ-อะ[สะมะนะ] เป็นคำนาม หมายถึง การทําให้สงบ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สมน เขียนว่า สอ-เสือ-มอ-ม้า-นอ-หนู.ศมนะ [สะมะนะ] น. การทําให้สงบ. (ส.; ป. สมน).
ศยะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อะ[สะ–] เป็นคำกริยา หมายถึง นอน; หลับ; อยู่, พักผ่อน, มักใช้เป็นส่วนท้ายสมาส. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศยะ [สะ–] ก. นอน; หลับ; อยู่, พักผ่อน, มักใช้เป็นส่วนท้ายสมาส. (ส.).
ศยนะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ยอ-ยัก-นอ-หนู-สะ-หระ-อะ[สะยะ–] เป็นคำนาม หมายถึง การนอน, การหลับ; ที่นอน, ฟูก, เบาะ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สยน เขียนว่า สอ-เสือ-ยอ-ยัก-นอ-หนู.ศยนะ [สะยะ–] น. การนอน, การหลับ; ที่นอน, ฟูก, เบาะ. (ส.; ป. สยน).
ศยาม เขียนว่า สอ-สา-ลา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า[สะหฺยาม] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ดํา, คลํ้า. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศยาม [สะหฺยาม] ว. ดํา, คลํ้า. (ส.).
ศยามล เขียนว่า สอ-สา-ลา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-ลอ-ลิง[สะหฺยามน] เป็นคำนาม หมายถึง สีดํา. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ผิวคลํ้า, ดํา. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศยามล [สะหฺยามน] น. สีดํา. ว. ผิวคลํ้า, ดํา. (ส.).
ศร เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ[สอน] เป็นคำนาม หมายถึง อาวุธชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยคันสำหรับยิง เรียกว่า คันศร กับลูกที่มีปลายแหลม เรียกว่า ลูกศร, เรียกสายคันศรว่า สายศร, เรียกอาการที่ยิงลูกศรออกไปว่า แผลงศร หรือ ยิงศร; ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ หมายถึง ปืน. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศร [สอน] น. อาวุธชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยคันสำหรับยิง เรียกว่า คันศร กับลูกที่มีปลายแหลม เรียกว่า ลูกศร, เรียกสายคันศรว่า สายศร, เรียกอาการที่ยิงลูกศรออกไปว่า แผลงศร หรือ ยิงศร; (โบ) ปืน. (ส.).
ศรศิลป์ไม่กินกัน เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-ทัน-ทะ-คาด-สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-มอ-ม้า-ไม้-เอก-กอ-ไก่-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-กอ-ไก่-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ทําอันตรายกันไม่ได้ เช่น ถ้อยทีศรศิลป์ไม่กินกัน. ในวงเล็บ มาจาก บทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และ บ่อเกิดรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ฉบับโรงพิมพ์ประจักษ์วิทยา พ.ศ. ๒๕๑๒; ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นสำนวน หมายถึง ไม่ถูกกัน, ไม่ลงรอยกัน, ไม่ชอบหน้ากัน, เช่น พี่น้องคู่นี้ศรศิลป์ไม่กินกัน เจอหน้ากันเมื่อใดต้องทะเลาะกันเมื่อนั้น.ศรศิลป์ไม่กินกัน (กลอน) ก. ทําอันตรายกันไม่ได้ เช่น ถ้อยทีศรศิลป์ไม่กินกัน. (รามเกียรติ์ ร. ๖); (สำ) ไม่ถูกกัน, ไม่ลงรอยกัน, ไม่ชอบหน้ากัน, เช่น พี่น้องคู่นี้ศรศิลป์ไม่กินกัน เจอหน้ากันเมื่อใดต้องทะเลาะกันเมื่อนั้น.
ศรายุธ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อุ-ทอ-ทง[สะรายุด] เป็นคำนาม หมายถึง อาวุธคือศร. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศร เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ + อายุธ เขียนว่า ออ-อ่าง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อุ-ทอ-ทง .ศรายุธ [สะรายุด] น. อาวุธคือศร. (ส. ศร + อายุธ).
ศราวรณ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-รอ-เรือ-นอ-เนน-ทัน-ทะ-คาด[สะราวอน] เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องกําบังลูกศร คือ โล่. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศราวรณ์ [สะราวอน] น. เครื่องกําบังลูกศร คือ โล่. (ส.).
ศราสน์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-ทัน-ทะ-คาด[สะราด] เป็นคำนาม หมายถึง คันศร. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศราสน์ [สะราด] น. คันศร. (ส.).
ศรนารายณ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-นอ-เนน-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้พุ่มแตกกอชนิด Agave sisalana Perrine ในวงศ์ Agavaceae ใบใหญ่หนาและแข็ง ปลายเป็นหนามแหลม ใบให้ใยใช้ทําสิ่งทอได้.ศรนารายณ์ น. ชื่อไม้พุ่มแตกกอชนิด Agave sisalana Perrine ในวงศ์ Agavaceae ใบใหญ่หนาและแข็ง ปลายเป็นหนามแหลม ใบให้ใยใช้ทําสิ่งทอได้.
ศรภะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อะ[สะระพะ] เป็นคำนาม หมายถึง สัตว์ในนิยาย ว่ากันว่ามี ๘ เท้า มีแรงมากกว่าช้างและสิงโต. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศรภะ [สะระพะ] น. สัตว์ในนิยาย ว่ากันว่ามี ๘ เท้า มีแรงมากกว่าช้างและสิงโต. (ส.).
ศรมณะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-มอ-ม้า-นอ-เนน-สะ-หระ-อะ[สะระมะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ผู้ปฏิบัติบําเพ็ญพรต, พระสงฆ์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สมณ เขียนว่า สอ-เสือ-มอ-ม้า-นอ-เนน.ศรมณะ [สะระมะ–] น. ผู้ปฏิบัติบําเพ็ญพรต, พระสงฆ์. (ส.; ป. สมณ).
ศรรกรา เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-รอ-เรือ-กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา[สักกะรา] เป็นคำนาม หมายถึง ก้อนกรวด; นํ้าตาลกรวด. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศรฺกรา เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-พิน-ทุ-กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา และมาจากภาษาบาลี สกฺกร เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-พิน-ทุ-กอ-ไก่-รอ-เรือ.ศรรกรา [สักกะรา] น. ก้อนกรวด; นํ้าตาลกรวด. (ส. ศรฺกรา; ป. สกฺกร).
ศรวณะ, ศระวณะ, สาวนะ ศรวณะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-วอ-แหวน-นอ-เนน-สะ-หระ-อะ ศระวณะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-วอ-แหวน-นอ-เนน-สะ-หระ-อะ สาวนะ ความหมายที่ ๑ เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-นอ-หนู-สะ-หระ-อะ [สะระวะนะ, สาวะนะ] เป็นคำนาม หมายถึง ดาวฤกษ์ที่ ๒๒ มี ๓ ดวง เห็นเป็นรูปหามผีหรือโลง, ดาวหลักชัย หรือ ดาวพระฤๅษี ก็เรียก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศรวณะ, ศระวณะ, สาวนะ ๑ [สะระวะนะ, สาวะนะ] น. ดาวฤกษ์ที่ ๒๒ มี ๓ ดวง เห็นเป็นรูปหามผีหรือโลง, ดาวหลักชัย หรือ ดาวพระฤๅษี ก็เรียก. (ส.).
ศรวณีย์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-วอ-แหวน-นอ-เนน-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด[สะระวะนี] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง พึงได้ยิน, ควรได้ยิน; น่าฟัง, น่าชม. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สวนีย เขียนว่า สอ-เสือ-วอ-แหวน-นอ-หนู-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก.ศรวณีย์ [สะระวะนี] ว. พึงได้ยิน, ควรได้ยิน; น่าฟัง, น่าชม. (ส.; ป. สวนีย).
ศรวิษฐา เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ถอ-ถาน-สะ-หระ-อา[สะระวิดถา] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์ธนิษฐา มี ๔ ดวง, ดาวไซ ดาวเศรษฐี หรือ ดาวธนิษฐะ ก็เรียก.ศรวิษฐา [สะระวิดถา] น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์ธนิษฐา มี ๔ ดวง, ดาวไซ ดาวเศรษฐี หรือ ดาวธนิษฐะ ก็เรียก.
ศรัณย์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-เนน-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด[สะรัน] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ซึ่งเป็นที่พึ่ง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศรณฺย เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-นอ-เนน-พิน-ทุ-ยอ-ยัก.ศรัณย์ [สะรัน] ว. ซึ่งเป็นที่พึ่ง. (ส. ศรณฺย).
ศรัณยู เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-เนน-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อู[สะรันยู] เป็นคำนาม หมายถึง ผู้เป็นที่พึ่ง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศรณฺยุ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-นอ-เนน-พิน-ทุ-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อุ.ศรัณยู [สะรันยู] น. ผู้เป็นที่พึ่ง. (ส. ศรณฺยุ).
ศรัถนะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-ถอ-ถุง-นอ-หนู-สะ-หระ-อะ[สะรัดถะนะ] เป็นคำนาม หมายถึง การปล่อย, การหย่อน. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศรัถนะ [สะรัดถะนะ] น. การปล่อย, การหย่อน. (ส.).
ศรัท เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-ทอ-ทะ-หาน[สะรัด] เป็นคำนาม หมายถึง ฤดูสารท. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศรท เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-ทอ-ทะ-หาน และมาจากภาษาบาลี สรท เขียนว่า สอ-เสือ-รอ-เรือ-ทอ-ทะ-หาน.ศรัท [สะรัด] น. ฤดูสารท. (ส. ศรท; ป. สรท).
ศรัทธา เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-ทอ-ทะ-หาน-ทอ-ทง-สะ-หระ-อา[สัดทา] เป็นคำนาม หมายถึง ความเชื่อ, ความเลื่อมใส, เช่น สิ้นศรัทธา ฉันมีศรัทธาในความดีของเขา บางทีก็ใช้เข้าคู่กับคำ ประสาทะ เป็น ศรัทธาประสาทะ. เป็นคำกริยา หมายถึง เชื่อ, เลื่อมใส, เช่น เขาศรัทธาในการรักษาแบบแพทย์แผนโบราณ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศฺรทฺธา เขียนว่า สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-รอ-เรือ-ทอ-ทะ-หาน-พิน-ทุ-ทอ-ทง-สะ-หระ-อา และมาจากภาษาบาลี สทฺธา เขียนว่า สอ-เสือ-ทอ-ทะ-หาน-พิน-ทุ-ทอ-ทง-สะ-หระ-อา.ศรัทธา [สัดทา] น. ความเชื่อ, ความเลื่อมใส, เช่น สิ้นศรัทธา ฉันมีศรัทธาในความดีของเขา บางทีก็ใช้เข้าคู่กับคำ ประสาทะ เป็น ศรัทธาประสาทะ. ก. เชื่อ, เลื่อมใส, เช่น เขาศรัทธาในการรักษาแบบแพทย์แผนโบราณ. (ส. ศฺรทฺธา; ป. สทฺธา).
ศรัย เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยัก[ไส] เป็นคำนาม หมายถึง ที่พักพิง, ที่พึ่ง, ที่อาศัย, ที่ร่มเย็น. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศฺรย เขียนว่า สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-รอ-เรือ-ยอ-ยัก.ศรัย [ไส] น. ที่พักพิง, ที่พึ่ง, ที่อาศัย, ที่ร่มเย็น. (ส. ศฺรย).
ศราทธ–, ศราทธ์ ศราทธ– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-ทอ-ทะ-หาน-ทอ-ทง ศราทธ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-ทอ-ทะ-หาน-ทอ-ทง-ทัน-ทะ-คาด [สาดทะ–, สาด] เป็นคำนาม หมายถึง การทําบุญให้แก่ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศราทธ–, ศราทธ์ [สาดทะ–, สาด] น. การทําบุญให้แก่ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว. (ส.).
ศราทธพรต เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-ทอ-ทะ-หาน-ทอ-ทง-พอ-พาน-รอ-เรือ-ตอ-เต่า[สาดทะพฺรด] เป็นคำนาม หมายถึง พิธีทําบุญให้แก่ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศฺราทฺธ เขียนว่า สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-ทอ-ทะ-หาน-พิน-ทุ-ทอ-ทง + วฺรต เขียนว่า วอ-แหวน-พิน-ทุ-รอ-เรือ-ตอ-เต่า .ศราทธพรต [สาดทะพฺรด] น. พิธีทําบุญให้แก่ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว. (ส. ศฺราทฺธ + วฺรต).
ศราพ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-พอ-พาน[สะราบ] เป็นคำนาม หมายถึง การได้ยิน, การฟัง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศฺราว เขียนว่า สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน.ศราพ [สะราบ] น. การได้ยิน, การฟัง. (ส. ศฺราว).
ศราพก, ศราวก ศราพก เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-พอ-พาน-กอ-ไก่ ศราวก เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-กอ-ไก่ [สะราพก, –วก] เป็นคำนาม หมายถึง สาวก, ศิษย์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศฺราวก เขียนว่า สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-กอ-ไก่ และมาจากภาษาบาลี สาวก เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-กอ-ไก่.ศราพก, ศราวก [สะราพก, –วก] น. สาวก, ศิษย์. (ส. ศฺราวก; ป. สาวก).
ศรายุธ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อุ-ทอ-ทงดู ศร เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ.ศรายุธ ดู ศร.
ศราวณะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-นอ-เนน-สะ-หระ-อะ[สะราวะนะ] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเดือนที่ ๙ แห่งจันทรคติ. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เกี่ยวกับดาวศรวณะ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศราวณะ [สะราวะนะ] น. ชื่อเดือนที่ ๙ แห่งจันทรคติ. ว. เกี่ยวกับดาวศรวณะ. (ส.).
ศราวรณ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-รอ-เรือ-นอ-เนน-ทัน-ทะ-คาดดู ศร เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ.ศราวรณ์ ดู ศร.
ศราสน์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-ทัน-ทะ-คาดดู ศร เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ.ศราสน์ ดู ศร.
ศรี เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี ความหมายที่ [สี] เป็นคำนาม หมายถึง มิ่ง, สิริมงคล, ความรุ่งเรือง, ความสว่างสุกใส, ความงาม, ความเจริญ, เช่น ศรีบ้าน ศรีเรือน ศรีเมือง, ใช้นำหน้าคำบางคำเป็นการยกย่อง เช่น พระศรีรัตนตรัย วัดพระศรีรัตนศาสดาราม. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศฺรี เขียนว่า สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี และมาจากภาษาบาลี สิริ เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ สิรี เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี .ศรี ๑ [สี] น. มิ่ง, สิริมงคล, ความรุ่งเรือง, ความสว่างสุกใส, ความงาม, ความเจริญ, เช่น ศรีบ้าน ศรีเรือน ศรีเมือง, ใช้นำหน้าคำบางคำเป็นการยกย่อง เช่น พระศรีรัตนตรัย วัดพระศรีรัตนศาสดาราม. (ส. ศฺรี; ป. สิริ, สิรี).
ศรี เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี ความหมายที่ [สี] เป็นคำนาม หมายถึง พลู. ในวงเล็บ มาจากภาษามลายู ; ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในราชาศัพท์ หมายถึง หมากพลู เรียกว่า พระศรี.ศรี ๒ [สี] น. พลู. (ม.); (ราชา) หมากพลู เรียกว่า พระศรี.
ศรี เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี ความหมายที่ [สี] เป็นคำนาม หมายถึง ผู้หญิง. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร สี เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อี.ศรี ๓ [สี] น. ผู้หญิง. (ข. สี).
ศรี เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี ความหมายที่ [สี] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำนาม หมายถึง ลักษณนามใช้แก่คน เช่น พระปิตุราชมาตุรงค์ทรงพระสรวล เห็นสมควรคู่ครองกันสองศรี. ในวงเล็บ มาจาก พระอภัยมณีคำกลอน ของ สุนทรภู่ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๗.ศรี ๔ [สี] (กลอน) น. ลักษณนามใช้แก่คน เช่น พระปิตุราชมาตุรงค์ทรงพระสรวล เห็นสมควรคู่ครองกันสองศรี. (อภัย).
ศรีตรัง เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้ต้นชนิด Jacaranda filicifolia D. Don ในวงศ์ Bignoniaceae สูงประมาณ ๑๐ เมตร ใบเป็นฝอยเล็ก ดอกสีนํ้าเงินปนม่วง.ศรีตรัง น. ชื่อไม้ต้นชนิด Jacaranda filicifolia D. Don ในวงศ์ Bignoniaceae สูงประมาณ ๑๐ เมตร ใบเป็นฝอยเล็ก ดอกสีนํ้าเงินปนม่วง.
ศรีสังคีต เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี-สอ-เสือ-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู-คอ-ควาย-สะ-หระ-อี-ตอ-เต่า เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.ศรีสังคีต น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.
ศรุตะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อุ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อะ[สะรุตะ] เป็นคำกริยา หมายถึง ได้ยิน, ได้ฟัง; มีชื่อเสียง, มีผู้รู้จัก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศรุตะ [สะรุตะ] ก. ได้ยิน, ได้ฟัง; มีชื่อเสียง, มีผู้รู้จัก. (ส.).
ศรุติ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อุ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ[สะรุติ] เป็นคำนาม หมายถึง สิ่งที่ได้ยิน, กิตติศัพท์; พระเวท. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศรุติ [สะรุติ] น. สิ่งที่ได้ยิน, กิตติศัพท์; พระเวท. (ส.).
ศฤคาล, สฤคาล ศฤคาล เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-รึ-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง สฤคาล เขียนว่า สอ-เสือ-รอ-รึ-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง [สฺริคาน] เป็นคำนาม หมายถึง หมาจิ้งจอก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศฤคาล, สฤคาล [สฺริคาน] น. หมาจิ้งจอก. (ส.).
ศฤงค์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-รึ-งอ-งู-คอ-ควาย-ทัน-ทะ-คาด[สฺริง] เป็นคำนาม หมายถึง เขาสัตว์; ยอดของสถานที่ต่าง ๆ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศฤงค์ [สฺริง] น. เขาสัตว์; ยอดของสถานที่ต่าง ๆ. (ส.).
ศฤงคาร เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-รึ-งอ-งู-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ[สิงคาน, สะหฺริงคาน] เป็นคำนาม หมายถึง สิ่งให้เกิดความรัก, บริวารหญิงผู้บําเรอความรัก เช่น สาวศฤงคารคนใช้. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ ทานกัณฑ์ ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศฺฤงฺคาร เขียนว่า สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-รอ-รึ-งอ-งู-พิน-ทุ-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ ว่า ความใคร่ .ศฤงคาร [สิงคาน, สะหฺริงคาน] น. สิ่งให้เกิดความรัก, บริวารหญิงผู้บําเรอความรัก เช่น สาวศฤงคารคนใช้. (ม. คำหลวง ทานกัณฑ์). (ส. ศฺฤงฺคาร ว่า ความใคร่).
ศฤงคารรส เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-รึ-งอ-งู-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-รอ-เรือ-สอ-เสือ[สะหฺริงคานระรด] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในวรรณกรรม เป็นคำนาม หมายถึง รส ๑ ใน ๙ รสของวรรณคดี มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับความรัก เช่น เรื่องลิลิตพระลอมีเนื้อเรื่องเป็นศฤงคารรส.ศฤงคารรส [สะหฺริงคานระรด] (วรรณ) น. รส ๑ ใน ๙ รสของวรรณคดี มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับความรัก เช่น เรื่องลิลิตพระลอมีเนื้อเรื่องเป็นศฤงคารรส.
ศฤงคาริน, ศฤงคารี ศฤงคาริน เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-รึ-งอ-งู-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู ศฤงคารี เขียนว่า สอ-สา-ลา-รอ-รึ-งอ-งู-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ผู้มีศฤงคาร. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศฺฤงฺคาริน เขียนว่า สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-รอ-รึ-งอ-งู-พิน-ทุ-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู.ศฤงคาริน, ศฤงคารี ว. ผู้มีศฤงคาร. (ส. ศฺฤงฺคาริน).
ศลภะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ลอ-ลิง-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อะ[สะละพะ] เป็นคำนาม หมายถึง แมลงมีปีก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศลภะ [สะละพะ] น. แมลงมีปีก. (ส.).
ศลัถ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-ถอ-ถุง[สะลัด] เป็นคำนาม หมายถึง ลุ่ย, หลุด; หลวม, ไม่แน่น. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศลัถ [สะลัด] น. ลุ่ย, หลุด; หลวม, ไม่แน่น. (ส.).
ศลิษฏ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ตอ-ปะ-ตัก-ทัน-ทะ-คาด[สะหฺลิด] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ติด, แนบ, เกี่ยวข้อง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศลิษฏ์ [สะหฺลิด] ว. ติด, แนบ, เกี่ยวข้อง. (ส.).
ศลิษา เขียนว่า สอ-สา-ลา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อา[สะลิ–] เป็นคำนาม หมายถึง การกอดรัด. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศลิษา [สะลิ–] น. การกอดรัด. (ส.).
ศวะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-สะ-หระ-อะ เป็นคำนาม หมายถึง ศพ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี ฉว เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-วอ-แหวน.ศวะ น. ศพ. (ส.; ป. ฉว).
ศวศุระ เขียนว่า สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ เป็นคำนาม หมายถึง พ่อตา, พ่อผัว. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศฺวศุร เขียนว่า สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-วอ-แหวน-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-รอ-เรือ และมาจากภาษาบาลี สสฺสุร เขียนว่า สอ-เสือ-สอ-เสือ-พิน-ทุ-สอ-เสือ-สะ-หระ-อุ-รอ-เรือ.ศวศุระ น. พ่อตา, พ่อผัว. (ส. ศฺวศุร; ป. สสฺสุร).
ศวัส เขียนว่า สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ไม้-หัน-อา-กาด-สอ-เสือ[สะวัด] เป็นคำนาม หมายถึง วันพรุ่งนี้. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศฺวสฺ เขียนว่า สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-วอ-แหวน-สอ-เสือ-พิน-ทุ และมาจากภาษาบาลี เสฺว เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-เสือ-พิน-ทุ-วอ-แหวน.ศวัส [สะวัด] น. วันพรุ่งนี้. (ส. ศฺวสฺ; ป. เสฺว).
ศวัสนะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ไม้-หัน-อา-กาด-สอ-เสือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อะ เป็นคำนาม หมายถึง การหายใจ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศฺวสน เขียนว่า สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-วอ-แหวน-สอ-เสือ-นอ-หนู.ศวัสนะ น. การหายใจ. (ส. ศฺวสน).
ศวา, ศวาน ศวา เขียนว่า สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา ศวาน เขียนว่า สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-นอ-หนู [สะวา, สะวาน] เป็นคำนาม หมายถึง หมา. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศฺวา เขียนว่า สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา ศฺวานฺ เขียนว่า สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-พิน-ทุ .ศวา, ศวาน [สะวา, สะวาน] น. หมา. (ส. ศฺวา, ศฺวานฺ).
ศวาสะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-สะ-หระ-อะ เป็นคำนาม หมายถึง การหายใจ, ลมหายใจ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศฺวาส เขียนว่า สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ.ศวาสะ น. การหายใจ, ลมหายใจ. (ส. ศฺวาส).
ศศ–, ศศะ ศศ– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-สา-ลา ศศะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อะ [สะสะ–] เป็นคำนาม หมายถึง กระต่าย, รอยดําที่ปรากฏในดวงจันทร์ ซึ่งถือกันว่าคล้ายกระต่าย. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สส เขียนว่า สอ-เสือ-สอ-เสือ.ศศ–, ศศะ [สะสะ–] น. กระต่าย, รอยดําที่ปรากฏในดวงจันทร์ ซึ่งถือกันว่าคล้ายกระต่าย. (ส.; ป. สส).
ศศธร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-สา-ลา-ทอ-ทง-รอ-เรือ เป็นคำนาม หมายถึง ทรงไว้ซึ่งรูปกระต่าย คือ ดวงจันทร์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศศธร น. ทรงไว้ซึ่งรูปกระต่าย คือ ดวงจันทร์. (ส.).
ศศพินทุ์, ศศลักษณ์ ศศพินทุ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-สา-ลา-พอ-พาน-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อุ-ทัน-ทะ-คาด ศศลักษณ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-สา-ลา-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-นอ-เนน-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง ดวงจันทร์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศศพินทุ์, ศศลักษณ์ น. ดวงจันทร์. (ส.).
ศศิ ๑, ศศิน, ศศี ศศิ ความหมายที่ ๑ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ ศศิน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู ศศี เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี [สะสิ, สะสิน, สะสี] เป็นคำนาม หมายถึง “ซึ่งมีกระต่าย” คือ ดวงจันทร์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศศิ ๑, ศศิน, ศศี [สะสิ, สะสิน, สะสี] น. “ซึ่งมีกระต่าย” คือ ดวงจันทร์. (ส.).
ศศิกษัย เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยัก เป็นคำนาม หมายถึง พระจันทร์แรม. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศศิกษัย น. พระจันทร์แรม. (ส.).
ศศิขัณฑ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ขอ-ไข่-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-เนน-ทอ-มน-โท-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง เสี้ยวพระจันทร์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศศิขัณฑ์ น. เสี้ยวพระจันทร์. (ส.).
ศศิเคราะห์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สะ-หระ-เอ-คอ-ควาย-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ-หอ-หีบ-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง จันทรคราส. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศศิคฺรห เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-คอ-ควาย-พิน-ทุ-รอ-เรือ-หอ-หีบ.ศศิเคราะห์ น. จันทรคราส. (ส. ศศิคฺรห).
ศศิธร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทง-รอ-เรือ เป็นคำนาม หมายถึง ดวงจันทร์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ว่า พระอิศวรผู้มีพระจันทร์เป็นปิ่น .ศศิธร น. ดวงจันทร์. (ส. ว่า พระอิศวรผู้มีพระจันทร์เป็นปิ่น).
ศศิมณฑล เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-มอ-ม้า-นอ-เนน-ทอ-มน-โท-ลอ-ลิง เป็นคำนาม หมายถึง ดวงพระจันทร์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศศิมณฑล น. ดวงพระจันทร์. (ส.).
ศศิวิมล เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อิ-มอ-ม้า-ลอ-ลิง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง บริสุทธิ์เพียงจันทร์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศศิวิมล ว. บริสุทธิ์เพียงจันทร์. (ส.).
ศศิ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ ความหมายที่ [สะสิ] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในโหราศาสตร์ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อยาม ๑ ใน ๘ ยามในเวลากลางคืน. ในวงเล็บ ดู ยาม เขียนว่า ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า.ศศิ ๒ [สะสิ] (โหร) น. ชื่อยาม ๑ ใน ๘ ยามในเวลากลางคืน. (ดู ยาม).
ศสา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สอ-เสือ-สะ-หระ-อา[สะ–] เป็นคำนาม หมายถึง แตงกวา. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศสา [สะ–] น. แตงกวา. (ส.).
ศอ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ออ-อ่าง เป็นคำนาม หมายถึง คอ, ราชาศัพท์ ว่า พระศอ.ศอ น. คอ, ราชาศัพท์ ว่า พระศอ.
ศอก เขียนว่า สอ-สา-ลา-ออ-อ่าง-กอ-ไก่ เป็นคำนาม หมายถึง ส่วนของแขน ตรงข้ามกับข้อพับ, ข้อศอก ก็ว่า; ช่วงของแขนตั้งแต่ปลายสุดของข้อพับไปถึงปลายนิ้วกลาง; มาตราวัดตามวิธีประเพณี ๑ ศอก เท่ากับ ๒ คืบ.ศอก น. ส่วนของแขน ตรงข้ามกับข้อพับ, ข้อศอก ก็ว่า; ช่วงของแขนตั้งแต่ปลายสุดของข้อพับไปถึงปลายนิ้วกลาง; มาตราวัดตามวิธีประเพณี ๑ ศอก เท่ากับ ๒ คืบ.
ศอกกลับ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ออ-อ่าง-กอ-ไก่-กอ-ไก่-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-บอ-ไบ-ไม้ เป็นคำกริยา หมายถึง หมุนตัวตีศอกทางด้านหลัง เป็นท่ามวยไทยท่าหนึ่ง; โดยปริยายหมายความว่า ย้อนว่าสวนคํา, พูดตอบสวนควัน, เช่น พอเขาว่ามาก็ศอกกลับไป.ศอกกลับ ก. หมุนตัวตีศอกทางด้านหลัง เป็นท่ามวยไทยท่าหนึ่ง; โดยปริยายหมายความว่า ย้อนว่าสวนคํา, พูดตอบสวนควัน, เช่น พอเขาว่ามาก็ศอกกลับไป.
ศอกกำ, ศอกกำมา, ศอกตูม ศอกกำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ออ-อ่าง-กอ-ไก่-กอ-ไก่-สะ-หระ-อำ ศอกกำมา เขียนว่า สอ-สา-ลา-ออ-อ่าง-กอ-ไก่-กอ-ไก่-สะ-หระ-อำ-มอ-ม้า-สะ-หระ-อา ศอกตูม เขียนว่า สอ-สา-ลา-ออ-อ่าง-กอ-ไก่-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อู-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง ระยะตั้งแต่ข้อศอกจนสุดกํามือ โบราณใช้เป็นหน่วยวัดระยะ เช่น ๔ ศอกกับศอกกํามาหนึ่ง.ศอกกำ, ศอกกำมา, ศอกตูม น. ระยะตั้งแต่ข้อศอกจนสุดกํามือ โบราณใช้เป็นหน่วยวัดระยะ เช่น ๔ ศอกกับศอกกํามาหนึ่ง.
ศอกคู้ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ออ-อ่าง-กอ-ไก่-คอ-ควาย-สะ-หระ-อู-ไม้-โท เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์หัสตะ มี ๕ ดวง, ดาวศีรษะช้าง ดาวหัสต หรือ ดาวหัฏฐะ ก็เรียก.ศอกคู้ น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์หัสตะ มี ๕ ดวง, ดาวศีรษะช้าง ดาวหัสต หรือ ดาวหัฏฐะ ก็เรียก.
ศักดา เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อา ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำนาม หมายถึง อํานาจ เช่น อวดศักดา แผลงศักดา. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศักดา (ปาก) น. อํานาจ เช่น อวดศักดา แผลงศักดา. (ส.).
ศักดิ–, ศักดิ์ ศักดิ– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อิ ศักดิ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อิ-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง อํานาจ, ความสามารถ, เช่น มีศักดิ์สูง ถือศักดิ์; กำลัง; ฐานะ เช่นมีศักดิ์และสิทธิแห่งปริญญานี้ทุกประการ; หอก, หลาว. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศกฺติ เขียนว่า สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-พิน-ทุ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ และมาจากภาษาบาลี สตฺติ เขียนว่า สอ-เสือ-ตอ-เต่า-พิน-ทุ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ.ศักดิ–, ศักดิ์ น. อํานาจ, ความสามารถ, เช่น มีศักดิ์สูง ถือศักดิ์; กำลัง; ฐานะ เช่นมีศักดิ์และสิทธิแห่งปริญญานี้ทุกประการ; หอก, หลาว. (ส. ศกฺติ; ป. สตฺติ).
ศักดินา เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง (โบ) อํานาจปกครองที่นา คิดเป็นจำนวนไร่ต่างกันตามศักดิ์ของแต่ละคน เช่น พระโหราธิบดี เจ้ากรมโหรหน้า มีศักดินา ๓,๐๐๐ ไร่ ยาจก วรรณิพก ทาษ ลูกทาษ มีศักดินา ๕ ไร่. ในวงเล็บ มาจาก กฎหมายตราสามดวง; ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก หมายถึง คำประชดเรียกชนชั้นสูงหรือผู้ดีมีเงินว่าพวกศักดินา.ศักดินา น. (โบ) อํานาจปกครองที่นา คิดเป็นจำนวนไร่ต่างกันตามศักดิ์ของแต่ละคน เช่น พระโหราธิบดี เจ้ากรมโหรหน้า มีศักดินา ๓,๐๐๐ ไร่ ยาจก วรรณิพก ทาษ ลูกทาษ มีศักดินา ๕ ไร่. (สามดวง); (ปาก) คำประชดเรียกชนชั้นสูงหรือผู้ดีมีเงินว่าพวกศักดินา.
ศักดิ์ศรี เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อิ-ทัน-ทะ-คาด-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี เป็นคำนาม หมายถึง เกียรติศักดิ์ เช่น ประพฤติตนไม่สมศักดิ์ศรี.ศักดิ์ศรี น. เกียรติศักดิ์ เช่น ประพฤติตนไม่สมศักดิ์ศรี.
ศักดิ์สิทธิ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อิ-ทัน-ทะ-คาด-สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทะ-หาน-ทอ-ทง-สะ-หระ-อิ-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ที่เชื่อถือว่ามีอำนาจอาจบันดาลให้สำเร็จได้ดังประสงค์, ขลัง, เช่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์.ศักดิ์สิทธิ์ ว. ที่เชื่อถือว่ามีอำนาจอาจบันดาลให้สำเร็จได้ดังประสงค์, ขลัง, เช่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์.
ศักติ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อนิกายใหญ่นิกายหนึ่งใน ๓ นิกายของศาสนาฮินดู (คือ นิกายไวษณพ ไศวะ และศักติ) บูชาเทวีซึ่งโดยมากหมายเอาพระทุรคาผู้เป็นศักติ เป็นศรี หรือเป็นชายาของพระศิวะ.ศักติ น. ชื่อนิกายใหญ่นิกายหนึ่งใน ๓ นิกายของศาสนาฮินดู (คือ นิกายไวษณพ ไศวะ และศักติ) บูชาเทวีซึ่งโดยมากหมายเอาพระทุรคาผู้เป็นศักติ เป็นศรี หรือเป็นชายาของพระศิวะ.
ศักย– เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ยอ-ยัก ความหมายที่ [สักกะยะ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อาจ, สามารถ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศักย– ๑ [สักกะยะ–] ว. อาจ, สามารถ. (ส.).
ศักยภาพ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ยอ-ยัก-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อา-พอ-พาน[สักกะยะพาบ] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในปรัชญา เป็นคำนาม หมายถึง ภาวะแฝง, อํานาจหรือคุณสมบัติที่มีแฝงอยู่ในสิ่งต่าง ๆ อาจทําให้พัฒนาหรือให้ปรากฏเป็นสิ่งที่ประจักษ์ได้ เช่น เขามีศักยภาพในการทำงานสูง น้ำตกขนาดใหญ่มีศักยภาพในการให้พลังงานได้มาก.ศักยภาพ [สักกะยะพาบ] (ปรัชญา) น. ภาวะแฝง, อํานาจหรือคุณสมบัติที่มีแฝงอยู่ในสิ่งต่าง ๆ อาจทําให้พัฒนาหรือให้ปรากฏเป็นสิ่งที่ประจักษ์ได้ เช่น เขามีศักยภาพในการทำงานสูง น้ำตกขนาดใหญ่มีศักยภาพในการให้พลังงานได้มาก.
ศักย– เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ยอ-ยัก ความหมายที่ [สักกะยะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ศากยะ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศากฺย เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-พิน-ทุ-ยอ-ยัก และมาจากภาษาบาลี สกฺย เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-พิน-ทุ-ยอ-ยัก.ศักย– ๒ [สักกะยะ–] น. ศากยะ. (ส. ศากฺย; ป. สกฺย).
ศักย์, ศักยะ ศักย์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด ศักยะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อะ [สัก, สักกะยะ] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในวิชาไฟฟ้า เป็นคำนาม หมายถึง พลังงานที่ใช้ดันกระแสไฟฟ้า ณ จุดใดจุดหนึ่ง มีหน่วยเป็นโวลต์.ศักย์, ศักยะ [สัก, สักกะยะ] (ไฟฟ้า) น. พลังงานที่ใช้ดันกระแสไฟฟ้า ณ จุดใดจุดหนึ่ง มีหน่วยเป็นโวลต์.
ศักร– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-รอ-เรือ[สักกฺระ–] เป็นคำนาม หมายถึง พระอินทร์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สกฺก เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-พิน-ทุ-กอ-ไก่.ศักร– [สักกฺระ–] น. พระอินทร์. (ส.; ป. สกฺก).
ศักรภพน์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-รอ-เรือ-พอ-สำ-เพา-พอ-พาน-นอ-หนู-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง โลกพระอินทร์, สวรรค์ชั้นดาวดึงส์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศักรภพน์ น. โลกพระอินทร์, สวรรค์ชั้นดาวดึงส์. (ส.).
ศักรินทร์, ศักเรนทร์ ศักรินทร์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด ศักเรนทร์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สะ-หระ-เอ-รอ-เรือ-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง พระอินทร์ผู้เป็นใหญ่. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศกฺร เขียนว่า สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-พิน-ทุ-รอ-เรือ + อินฺทฺร เขียนว่า ออ-อ่าง-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-พิน-ทุ-ทอ-ทะ-หาน-พิน-ทุ-รอ-เรือ .ศักรินทร์, ศักเรนทร์ น. พระอินทร์ผู้เป็นใหญ่. (ส. ศกฺร + อินฺทฺร).
ศักราช เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-ชอ-ช้าง[สักกะหฺราด] เป็นคำนาม หมายถึง อายุเวลาซึ่งกําหนดตั้งขึ้นเป็นทางการ เริ่มแต่จุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นที่หมายเหตุการณ์สําคัญ เรียงลําดับกันเป็นปี ๆ ไป เช่น พุทธศักราช ๑, ๒, ๓, ... จุลศักราช ๑, ๒, ๓, ... (ตามความนิยมที่ใช้เป็นธรรมเนียมกันมา, คํา ศักราช ในคําเช่น พุทธศักราช คริสต์ศักราช จะใช้ว่า ศก เป็น พุทธศก คริสต์ศก ก็ได้ แต่คําเช่น มหาศักราช จุลศักราช ไม่นิยมใช้ว่า มหาศก จุลศก ส่วนคําว่า รัตนโกสินทรศก ไม่นิยมใช้ว่า รัตนโกสินทรศักราช), ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก หมายถึง โดยปริยายหมายความว่า ช่วงใดช่วงหนึ่งซึ่งเริ่มต้นเหตุการณ์สำคัญในชีวิตบุคคล เช่น เริ่มศักราชแห่งชีวิตใหม่ พอเรียนหนังสือจบก็เริ่มศักราชของการทำงาน.ศักราช [สักกะหฺราด] น. อายุเวลาซึ่งกําหนดตั้งขึ้นเป็นทางการ เริ่มแต่จุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นที่หมายเหตุการณ์สําคัญ เรียงลําดับกันเป็นปี ๆ ไป เช่น พุทธศักราช ๑, ๒, ๓, ... จุลศักราช ๑, ๒, ๓, ... (ตามความนิยมที่ใช้เป็นธรรมเนียมกันมา, คํา ศักราช ในคําเช่น พุทธศักราช คริสต์ศักราช จะใช้ว่า ศก เป็น พุทธศก คริสต์ศก ก็ได้ แต่คําเช่น มหาศักราช จุลศักราช ไม่นิยมใช้ว่า มหาศก จุลศก ส่วนคําว่า รัตนโกสินทรศก ไม่นิยมใช้ว่า รัตนโกสินทรศักราช), (ปาก) โดยปริยายหมายความว่า ช่วงใดช่วงหนึ่งซึ่งเริ่มต้นเหตุการณ์สำคัญในชีวิตบุคคล เช่น เริ่มศักราชแห่งชีวิตใหม่ พอเรียนหนังสือจบก็เริ่มศักราชของการทำงาน.
ศักรินทร์, ศักเรนทร์ ศักรินทร์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด ศักเรนทร์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สะ-หระ-เอ-รอ-เรือ-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด ดู ศักร– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-รอ-เรือ.ศักรินทร์, ศักเรนทร์ ดู ศักร–.
ศังกร เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู-กอ-ไก่-รอ-เรือ[สังกอน] เป็นคำนาม หมายถึง นามพระอิศวรผู้ประสาทความสุขเกษม. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศังกร [สังกอน] น. นามพระอิศวรผู้ประสาทความสุขเกษม. (ส.).
ศังกา เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง ความสงสัย, ความลังเล. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สงฺก เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-พิน-ทุ-กอ-ไก่.ศังกา น. ความสงสัย, ความลังเล. (ส.; ป. สงฺก).
ศังกุ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ เป็นคำนาม หมายถึง หลาว, หอก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศังกุ น. หลาว, หอก. (ส.).
ศัตรู เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-สะ-หระ-อู[สัดตฺรู] เป็นคำนาม หมายถึง ข้าศึก, ปรปักษ์, เช่น ศัตรูจากภายนอกประเทศ เพลี้ยเป็นศัตรูพืช, ผู้จองเวร เช่น ๒ ตระกูลนี้เป็นศัตรูกันมาหลายชั่วคนแล้ว. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศตฺรุ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ตอ-เต่า-พิน-ทุ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อุ และมาจากภาษาบาลี ตฺตุ เขียนว่า ตอ-เต่า-พิน-ทุ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อุ.ศัตรู [สัดตฺรู] น. ข้าศึก, ปรปักษ์, เช่น ศัตรูจากภายนอกประเทศ เพลี้ยเป็นศัตรูพืช, ผู้จองเวร เช่น ๒ ตระกูลนี้เป็นศัตรูกันมาหลายชั่วคนแล้ว. (ส. ศตฺรุ; ป. ตฺตุ).
ศัทธนะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-ทอ-ทะ-หาน-ทอ-ทง-นอ-หนู-สะ-หระ-อะ[สัดทะนะ] เป็นคำกริยา หมายถึง พัด (ใช้แก่ลม), มีลมพัดมา. ในวงเล็บ มาจากภาษาเบงกาลี .ศัทธนะ [สัดทะนะ] ก. พัด (ใช้แก่ลม), มีลมพัดมา. (บ.).
ศันสนะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-สอ-เสือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อะ[สันสะ–] เป็นคำนาม หมายถึง การสรรเสริญ, การบอกเล่า. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศํสน เขียนว่า สอ-สา-ลา-นิก-คะ-หิด-สอ-เสือ-นอ-หนู.ศันสนะ [สันสะ–] น. การสรรเสริญ, การบอกเล่า. (ส. ศํสน).
ศันสนีย์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-สอ-เสือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด[–สะนี] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง พึงสรรเสริญ, พึงชม. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศํสนีย เขียนว่า สอ-สา-ลา-นิก-คะ-หิด-สอ-เสือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก.ศันสนีย์ [–สะนี] ว. พึงสรรเสริญ, พึงชม. (ส. ศํสนีย).
ศัพท–, ศัพท์ ศัพท– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-พอ-พาน-ทอ-ทะ-หาน ศัพท์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-พอ-พาน-ทอ-ทะ-หาน-ทัน-ทะ-คาด [สับทะ–, สับ] เป็นคำนาม หมายถึง เสียง เช่น โทรศัพท์, คำ เช่น ศัพท์บัญญัติ; คำยากที่ต้องแปล, ศัพท์แสง ก็ว่า; เรื่อง เช่น ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศพฺท เขียนว่า สอ-สา-ลา-พอ-พาน-พิน-ทุ-ทอ-ทะ-หาน และมาจากภาษาบาลี สทฺท เขียนว่า สอ-เสือ-ทอ-ทะ-หาน-พิน-ทุ-ทอ-ทะ-หาน ว่า เสียง, คํา .ศัพท–, ศัพท์ [สับทะ–, สับ] น. เสียง เช่น โทรศัพท์, คำ เช่น ศัพท์บัญญัติ; คำยากที่ต้องแปล, ศัพท์แสง ก็ว่า; เรื่อง เช่น ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด. (ส. ศพฺท; ป. สทฺท ว่า เสียง, คํา).
ศัพท์เฉพาะวิชา เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-พอ-พาน-ทอ-ทะ-หาน-ทัน-ทะ-คาด-สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-พอ-พาน-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อิ-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง คำที่ตราหรือกำหนดขึ้นใช้ในแต่ละวิชา เช่น ปฏิชีวนะ ประสบการณ์ มลพิษ.ศัพท์เฉพาะวิชา น. คำที่ตราหรือกำหนดขึ้นใช้ในแต่ละวิชา เช่น ปฏิชีวนะ ประสบการณ์ มลพิษ.
ศัพท์บัญญัติ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-พอ-พาน-ทอ-ทะ-หาน-ทัน-ทะ-คาด-บอ-ไบ-ไม้-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-หยิง-ยอ-หยิง-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ เป็นคำนาม หมายถึง คำที่ตราหรือกำหนดขึ้นไว้ให้มีความหมายเฉพาะเป็นเรื่อง ๆ ไป เช่น โทรทัศน์ ธนาคาร รัฐวิสาหกิจ.ศัพท์บัญญัติ น. คำที่ตราหรือกำหนดขึ้นไว้ให้มีความหมายเฉพาะเป็นเรื่อง ๆ ไป เช่น โทรทัศน์ ธนาคาร รัฐวิสาหกิจ.
ศัพทมูลวิทยา เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-พอ-พาน-ทอ-ทะ-หาน-มอ-ม้า-สะ-หระ-อู-ลอ-ลิง-วอ-แหวน-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทะ-หาน-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา[สับทะมูนละ–, สับทะมูน–] เป็นคำนาม หมายถึง วิชาว่าด้วยที่มาและประวัติของคํา. ในวงเล็บ มาจากภาษาอังกฤษ etymology เขียนว่า อี-ที-วาย-เอ็ม-โอ-แอล-โอ-จี-วาย.ศัพทมูลวิทยา [สับทะมูนละ–, สับทะมูน–] น. วิชาว่าด้วยที่มาและประวัติของคํา. (อ. etymology).
ศัพท์สำเนียง เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-พอ-พาน-ทอ-ทะ-หาน-ทัน-ทะ-คาด-สอ-เสือ-สะ-หระ-อำ-สะ-หระ-เอ-นอ-หนู-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง เสียง เช่น ข้างนอกเสียงเอ็ดอึง อยู่ข้างในฟังไม่ได้ศัพท์สำเนียง.ศัพท์สำเนียง น. เสียง เช่น ข้างนอกเสียงเอ็ดอึง อยู่ข้างในฟังไม่ได้ศัพท์สำเนียง.
ศัพท์แสง เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-พอ-พาน-ทอ-ทะ-หาน-ทัน-ทะ-คาด-สะ-หระ-แอ-สอ-เสือ-งอ-งู ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำนาม หมายถึง คำยากที่ต้องแปล เช่น เขาชอบพูดจาเล่นศัพท์แสง ฟังไม่รู้เรื่อง.ศัพท์แสง (ปาก) น. คำยากที่ต้องแปล เช่น เขาชอบพูดจาเล่นศัพท์แสง ฟังไม่รู้เรื่อง.
ศัยยา เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยัก-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง ที่นอน, ฟูก, เบาะ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี เสยฺยา เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-เสือ-ยอ-ยัก-พิน-ทุ-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา.ศัยยา น. ที่นอน, ฟูก, เบาะ. (ส.; ป. เสยฺยา).
ศัล, ศัลกะ ศัล เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-ลอ-ลิง ศัลกะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-ลอ-ลิง-กอ-ไก่-สะ-หระ-อะ [สัน, สันละกะ] เป็นคำนาม หมายถึง เปลือกไม้. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศลฺล เขียนว่า สอ-สา-ลา-ลอ-ลิง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง ศลฺก เขียนว่า สอ-สา-ลา-ลอ-ลิง-พิน-ทุ-กอ-ไก่ .ศัล, ศัลกะ [สัน, สันละกะ] น. เปลือกไม้. (ส. ศลฺล, ศลฺก).
ศัลกี เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-ลอ-ลิง-กอ-ไก่-สะ-หระ-อี[สันละกี] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้ต้นชนิด Boswellia serrata Roxb. ในวงศ์ Burseraceae ยางมีกลิ่นหอม ใช้ทํายาได้. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศลฺลกี เขียนว่า สอ-สา-ลา-ลอ-ลิง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง-กอ-ไก่-สะ-หระ-อี และมาจากภาษาบาลี สลฺลกี เขียนว่า สอ-เสือ-ลอ-ลิง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง-กอ-ไก่-สะ-หระ-อี.ศัลกี [สันละกี] น. ชื่อไม้ต้นชนิด Boswellia serrata Roxb. ในวงศ์ Burseraceae ยางมีกลิ่นหอม ใช้ทํายาได้. (ส. ศลฺลกี; ป. สลฺลกี).
ศัลย– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-ลอ-ลิง-ยอ-ยัก[สันละยะ–, สันยะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ลูกศรหรือของมีปลายแหลมอื่น ๆ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศัลย– [สันละยะ–, สันยะ–] น. ลูกศรหรือของมีปลายแหลมอื่น ๆ. (ส.).
ศัลยกรรม เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-ลอ-ลิง-ยอ-ยัก-กอ-ไก่-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า[สันละยะกำ] เป็นคำนาม หมายถึง การรักษาโรคโดยวิธีผ่าตัด.ศัลยกรรม [สันละยะกำ] น. การรักษาโรคโดยวิธีผ่าตัด.
ศัลยกรรมตกแต่ง เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-ลอ-ลิง-ยอ-ยัก-กอ-ไก่-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า-ตอ-เต่า-กอ-ไก่-สะ-หระ-แอ-ตอ-เต่า-ไม้-เอก-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง การผ่าตัดอวัยวะเพื่อรักษาหรือปรับปรุงรูปร่างของอวัยวะให้สวยงามและเหมาะสม โดยอวัยวะนั้น ๆ คงทำหน้าที่ได้ตามปรกติ รวมทั้งเป็นการบูรณะส่วนที่ผิดปรกติให้กลับสู่สภาพปรกติด้วย.ศัลยกรรมตกแต่ง น. การผ่าตัดอวัยวะเพื่อรักษาหรือปรับปรุงรูปร่างของอวัยวะให้สวยงามและเหมาะสม โดยอวัยวะนั้น ๆ คงทำหน้าที่ได้ตามปรกติ รวมทั้งเป็นการบูรณะส่วนที่ผิดปรกติให้กลับสู่สภาพปรกติด้วย.
ศัลยแพทย์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-ลอ-ลิง-ยอ-ยัก-สะ-หระ-แอ-พอ-พาน-ทอ-ทะ-หาน-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด[สันละยะแพด] เป็นคำนาม หมายถึง แพทย์ทางการผ่าตัด.ศัลยแพทย์ [สันละยะแพด] น. แพทย์ทางการผ่าตัด.
ศัลยศาสตร์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-ลอ-ลิง-ยอ-ยัก-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด[สันละยะสาด] เป็นคำนาม หมายถึง วิชาว่าด้วยการรักษาโรคโดยวิธีผ่าตัด.ศัลยศาสตร์ [สันละยะสาด] น. วิชาว่าด้วยการรักษาโรคโดยวิธีผ่าตัด.
ศัสดร เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-สอ-เสือ-ดอ-เด็ก-รอ-เรือ[สัดดอน] เป็นคำนาม หมายถึง ศัสตรา, ของมีคมเป็นเครื่องฟันแทง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศัสดร [สัดดอน] น. ศัสตรา, ของมีคมเป็นเครื่องฟันแทง. (ส.).
ศัสตร– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ[สัดตฺระ–] เป็นคำนาม หมายถึง ศัสตรา, ของมีคมเป็นเครื่องฟันแทง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศัสตร– [สัดตฺระ–] น. ศัสตรา, ของมีคมเป็นเครื่องฟันแทง. (ส.).
ศัสตรกรรม เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-กอ-ไก่-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง การผ่าตัดทางแพทย์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศัสตรกรรม น. การผ่าตัดทางแพทย์. (ส.).
ศัสตรการ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ เป็นคำนาม หมายถึง คนทําอาวุธ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศัสตรการ น. คนทําอาวุธ. (ส.).
ศัสตรศาสตร์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง วิชาใช้อาวุธ, วิชาทหาร.ศัสตรศาสตร์ น. วิชาใช้อาวุธ, วิชาทหาร.
ศัสตรา, ศัสตราวุธ ศัสตรา เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา ศัสตราวุธ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-สะ-หระ-อุ-ทอ-ทง [สัดตฺรา, สัดตฺราวุด] เป็นคำนาม หมายถึง ของมีคมเป็นเครื่องฟันแทง, อาวุธต่าง ๆ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศัสตรา, ศัสตราวุธ [สัดตฺรา, สัดตฺราวุด] น. ของมีคมเป็นเครื่องฟันแทง, อาวุธต่าง ๆ. (ส.).
ศัสยะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-สอ-เสือ-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อะ[สัดสะยะ] เป็นคำนาม หมายถึง ข้าวกล้า. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สสฺส เขียนว่า สอ-เสือ-สอ-เสือ-พิน-ทุ-สอ-เสือ.ศัสยะ [สัดสะยะ] น. ข้าวกล้า. (ส.; ป. สสฺส).
ศาก–, ศากะ ศาก– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่ ศากะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อะ [สากะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ผัก; ต้นสัก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศาก–, ศากะ [สากะ–] น. ผัก; ต้นสัก. (ส.).
ศากภักษ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-พอ-สำ-เพา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง คนที่กินแต่ผัก (ไม่กินเนื้อ). ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศากภักษ์ น. คนที่กินแต่ผัก (ไม่กินเนื้อ). (ส.).
ศากตะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อะ[สากตะ] เป็นคำนาม หมายถึง ผู้นับถือนิกายศักติ.ศากตะ [สากตะ] น. ผู้นับถือนิกายศักติ.
ศากย–, ศากยะ ศากย– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ยอ-ยัก ศากยะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อะ [สากกะยะ] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อวงศ์กษัตริย์วงศ์หนึ่งในเมืองกบิลพัสดุ์ เรียกว่า ศากยวงศ์, เรียกกษัตริย์ในวงศ์นี้ว่า ศากยะ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศากฺย เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-พิน-ทุ-ยอ-ยัก และมาจากภาษาบาลี สกฺย เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-พิน-ทุ-ยอ-ยัก.ศากย–, ศากยะ [สากกะยะ] น. ชื่อวงศ์กษัตริย์วงศ์หนึ่งในเมืองกบิลพัสดุ์ เรียกว่า ศากยวงศ์, เรียกกษัตริย์ในวงศ์นี้ว่า ศากยะ. (ส. ศากฺย; ป. สกฺย).
ศากยเกตุ, ศากยพุทธ, ศากยมุนี ศากยเกตุ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ยอ-ยัก-สะ-หระ-เอ-กอ-ไก่-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อุ ศากยพุทธ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ยอ-ยัก-พอ-พาน-สะ-หระ-อุ-ทอ-ทะ-หาน-ทอ-ทง ศากยมุนี เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ยอ-ยัก-มอ-ม้า-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู-สะ-หระ-อี เป็นคำนาม หมายถึง พระนามพระพุทธเจ้าผู้มีเชื้อสายศากยวงศ์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศากยเกตุ, ศากยพุทธ, ศากยมุนี น. พระนามพระพุทธเจ้าผู้มีเชื้อสายศากยวงศ์. (ส.).
ศาฎก เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ดอ-ชะ-ดา-กอ-ไก่[–ดก] เป็นคำนาม หมายถึง ผ้า. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศาฏก เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ตอ-ปะ-ตัก-กอ-ไก่ และมาจากภาษาบาลี สาฏก เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-ตอ-ปะ-ตัก-กอ-ไก่.ศาฎก [–ดก] น. ผ้า. (ส. ศาฏก; ป. สาฏก).
ศาฐยะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ถอ-ถาน-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อะ[สาถะ–] เป็นคำนาม หมายถึง สาไถย, ความคดโกง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สาเถยฺย เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-เอ-ถอ-ถุง-ยอ-ยัก-พิน-ทุ-ยอ-ยัก.ศาฐยะ [สาถะ–] น. สาไถย, ความคดโกง. (ส.; ป. สาเถยฺย).
ศาณ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-นอ-เนน ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง หินลับมีด, หินเจียระไน. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศาณ ๑ น. หินลับมีด, หินเจียระไน. (ส.).
ศาณ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-นอ-เนน ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ผ้าป่าน. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ทําด้วยป่านหรือปอ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สาณ เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-นอ-เนน.ศาณ ๒ น. ผ้าป่าน. ว. ทําด้วยป่านหรือปอ. (ส.; ป. สาณ).
ศาต เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ตอ-เต่า เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ลับแล้ว, คม, แหลม; แบบบาง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศาต ว. ลับแล้ว, คม, แหลม; แบบบาง. (ส.).
ศานต–, ศานต์ ศานต– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-ตอ-เต่า ศานต์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-ตอ-เต่า-ทัน-ทะ-คาด [สานตะ–, สาน] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สงบ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สนฺต เขียนว่า สอ-เสือ-นอ-หนู-พิน-ทุ-ตอ-เต่า.ศานต–, ศานต์ [สานตะ–, สาน] ว. สงบ. (ส.; ป. สนฺต).
ศานตรส เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-สอ-เสือ เป็นคำนาม หมายถึง รสของคําประพันธ์ที่แสดงถึงความสงบจิต. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศานตรส น. รสของคําประพันธ์ที่แสดงถึงความสงบจิต. (ส.).
ศานติ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ เป็นคำนาม หมายถึง ความสงบ, ความระงับ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สนฺติ เขียนว่า สอ-เสือ-นอ-หนู-พิน-ทุ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ.ศานติ น. ความสงบ, ความระงับ. (ส.; ป. สนฺติ).
ศานติโหม เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ-สะ-หระ-โอ-หอ-หีบ-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง การบูชาไฟเพื่อกําจัดเสนียดจัญไร. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศานติโหม น. การบูชาไฟเพื่อกําจัดเสนียดจัญไร. (ส.).
ศานติก– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่[สานติกะ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ที่กําจัดเสนียดจัญไร. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศานติก– [สานติกะ–] ว. ที่กําจัดเสนียดจัญไร. (ส.).
ศาป, ศาป– ศาป เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ปอ-ปลา ศาป– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ปอ-ปลา [สาบ, สาปะ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง คําแช่ง, การด่า. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สาป เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-ปอ-ปลา.ศาป, ศาป– [สาบ, สาปะ–] (แบบ) น. คําแช่ง, การด่า. (ส.; ป. สาป).
ศาปมุกติ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ปอ-ปลา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ-ทัน-ทะ-คาด[สาปะมุก] เป็นคำนาม หมายถึง การพ้นจากผลคําแช่ง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศาปมุกติ์ [สาปะมุก] น. การพ้นจากผลคําแช่ง. (ส.).
ศาปานต์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-ตอ-เต่า-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง พ้นสาป. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศาปานต์ ว. พ้นสาป. (ส.).
ศาปานต์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-ตอ-เต่า-ทัน-ทะ-คาดดู ศาป, ศาป– ศาป เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ปอ-ปลา ศาป– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ปอ-ปลา .ศาปานต์ ดู ศาป, ศาป–.
ศาพระ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-พอ-พาน-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ[สาพะระ] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง โหดร้าย, พยาบาท. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศาพระ [สาพะระ] ว. โหดร้าย, พยาบาท. (ส.).
ศารท เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-ทอ-ทะ-หาน[สาด] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เกี่ยวกับหรือเกิดในฤดูใบไม้ร่วง; เทศกาลทําบุญสิ้นเดือน ๑๐. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สารท เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-ทอ-ทะ-หาน.ศารท [สาด] ว. เกี่ยวกับหรือเกิดในฤดูใบไม้ร่วง; เทศกาลทําบุญสิ้นเดือน ๑๐. (ส.; ป. สารท).
ศารทวิษุวัต เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-ทอ-ทะ-หาน-วอ-แหวน-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อุ-วอ-แหวน-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า[สาระทะ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในดาราศาสตร์ เป็นคำนาม หมายถึง จุดราตรีเสมอภาคที่เมื่อดวงอาทิตย์โคจรไปถึงในราววันที่ ๒๔ กันยายน (autumnal equinox), คู่กับ วสันตวิษุวัต.ศารทวิษุวัต [สาระทะ–] (ดารา) น. จุดราตรีเสมอภาคที่เมื่อดวงอาทิตย์โคจรไปถึงในราววันที่ ๒๔ กันยายน (autumnal equinox), คู่กับ วสันตวิษุวัต.
ศารทูล เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อู-ลอ-ลิง[สาระ–] เป็นคำนาม หมายถึง เสือโคร่ง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศารฺทูล เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-พิน-ทุ-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อู-ลอ-ลิง และมาจากภาษาบาลี สทฺทูล เขียนว่า สอ-เสือ-ทอ-ทะ-หาน-พิน-ทุ-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อู-ลอ-ลิง.ศารทูล [สาระ–] น. เสือโคร่ง. (ส. ศารฺทูล; ป. สทฺทูล).
ศาริกา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง นกจําพวกนกเอี้ยง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สาลิกา เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา.ศาริกา น. นกจําพวกนกเอี้ยง. (ส.; ป. สาลิกา).
ศาล เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง[สาน] เป็นคำนาม หมายถึง (กฎ) องค์กรที่มีอํานาจพิจารณาพิพากษาอรรถคดีโดยดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมายและในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ได้แก่ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง และศาลทหาร; ที่ชำระความ เช่น ศาลแพ่ง ศาลอาญา; ที่สิงสถิตของเทวดา เทพารักษ์ หรือเจ้าผี เป็นต้น เช่น ศาลเทพารักษ์ ศาลเจ้า ศาลเจ้าแม่ทับทิม.ศาล [สาน] น. (กฎ) องค์กรที่มีอํานาจพิจารณาพิพากษาอรรถคดีโดยดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมายและในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ได้แก่ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง และศาลทหาร; ที่ชำระความ เช่น ศาลแพ่ง ศาลอาญา; ที่สิงสถิตของเทวดา เทพารักษ์ หรือเจ้าผี เป็นต้น เช่น ศาลเทพารักษ์ ศาลเจ้า ศาลเจ้าแม่ทับทิม.
ศาลกงสุล เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-กอ-ไก่-งอ-งู-สอ-เสือ-สะ-หระ-อุ-ลอ-ลิง ในวงเล็บ เป็นคำที่เลิกใช้แล้ว เป็นคำนาม หมายถึง ศาลของประเทศที่มีสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ที่ตั้งขึ้นในอีกประเทศหนึ่ง เพื่อให้กงสุลเป็นผู้พิจารณาคดีคนในบังคับของตน.ศาลกงสุล (เลิก) น. ศาลของประเทศที่มีสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ที่ตั้งขึ้นในอีกประเทศหนึ่ง เพื่อให้กงสุลเป็นผู้พิจารณาคดีคนในบังคับของตน.
ศาลแขวง เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-แอ-ขอ-ไข่-วอ-แหวน-งอ-งู ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีและมีอํานาจไต่สวนหรือมีคําสั่งใด ๆ ซึ่งผู้พิพากษาคนเดียวมีอํานาจตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ระบุไว้ในพระธรรมนูญศาลยุติธรรม.ศาลแขวง (กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีและมีอํานาจไต่สวนหรือมีคําสั่งใด ๆ ซึ่งผู้พิพากษาคนเดียวมีอํานาจตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ระบุไว้ในพระธรรมนูญศาลยุติธรรม.
ศาลคดีเด็กและเยาวชน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-คอ-ควาย-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อี-สะ-หระ-เอ-ดอ-เด็ก-ไม้-ไต่-คู้-กอ-ไก่-สะ-หระ-แอ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-ชอ-ช้าง-นอ-หนู ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย และเป็นคำที่เลิกใช้แล้ว ดู ศาลเยาวชนและครอบครัว เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-เอ-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-ชอ-ช้าง-นอ-หนู-สะ-หระ-แอ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อะ-คอ-ควาย-รอ-เรือ-ออ-อ่าง-บอ-ไบ-ไม้-คอ-ควาย-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-วอ-แหวน.ศาลคดีเด็กและเยาวชน (กฎ; เลิก) ดู ศาลเยาวชนและครอบครัว.
ศาลจังหวัด เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-จอ-จาน-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู-หอ-หีบ-วอ-แหวน-ไม้-หัน-อา-กาด-ดอ-เด็ก ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลยุติธรรมชั้นต้นที่ตั้งประจําในแต่ละจังหวัดหรือในบางอําเภอ มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งและคดีอาญาทั้งปวงที่มิได้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรมอื่นในเขตอํานาจศาลตามที่พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลจังหวัดนั้นได้กําหนดไว้.ศาลจังหวัด (กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นที่ตั้งประจําในแต่ละจังหวัดหรือในบางอําเภอ มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งและคดีอาญาทั้งปวงที่มิได้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรมอื่นในเขตอํานาจศาลตามที่พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลจังหวัดนั้นได้กําหนดไว้.
ศาลชั้นต้น เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-ไม้-โท-นอ-หนู-ตอ-เต่า-ไม้-โท-นอ-หนู ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีในชั้นต้นทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา และคดีตามที่พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลนั้นกำหนดไว้ ได้แก่ ศาลแขวง ศาลจังหวัด ศาลแพ่ง ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ศาลแพ่งธนบุรี ศาลอาญา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอาญาธนบุรี และศาลยุติธรรมอื่น เช่น ศาลภาษีอากรกลาง.ศาลชั้นต้น (กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีในชั้นต้นทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา และคดีตามที่พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลนั้นกำหนดไว้ ได้แก่ ศาลแขวง ศาลจังหวัด ศาลแพ่ง ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ศาลแพ่งธนบุรี ศาลอาญา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอาญาธนบุรี และศาลยุติธรรมอื่น เช่น ศาลภาษีอากรกลาง.
ศาลฎีกา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ดอ-ชะ-ดา-สะ-หระ-อี-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลยุติธรรมชั้นสูงสุดซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาบรรดาคดีที่อุทธรณ์คําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ภาค และคดีที่อุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นโดยตรงต่อศาลฎีกาตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการอุทธรณ์หรือฎีกา และคดีที่กฎหมายอื่นบัญญัติให้ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาพิพากษา รวมทั้งมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดหรือสั่งคำร้องคำขอที่ยื่นต่อศาลฎีกาตามกฎหมาย.ศาลฎีกา (กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นสูงสุดซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาบรรดาคดีที่อุทธรณ์คําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ภาค และคดีที่อุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นโดยตรงต่อศาลฎีกาตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการอุทธรณ์หรือฎีกา และคดีที่กฎหมายอื่นบัญญัติให้ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาพิพากษา รวมทั้งมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดหรือสั่งคำร้องคำขอที่ยื่นต่อศาลฎีกาตามกฎหมาย.
ศาลเตี้ย เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-เอ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อี-ไม้-โท-ยอ-ยัก ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำนาม หมายถึง เรียกการที่คนหรือกลุ่มคนที่ไม่มีอำนาจดำเนินคดีตามกฎหมายจับกุมคนมาชำระตัดสินความโดยพลการว่า ตั้งศาลเตี้ย.ศาลเตี้ย (ปาก) น. เรียกการที่คนหรือกลุ่มคนที่ไม่มีอำนาจดำเนินคดีตามกฎหมายจับกุมคนมาชำระตัดสินความโดยพลการว่า ตั้งศาลเตี้ย.
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ทอ-ทะ-หาน-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-พอ-พาน-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-งอ-งู-ปอ-ปลา-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-หยิง-ยอ-หยิง-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-แอ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อะ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-คอ-ควาย-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-หอ-หีบ-วอ-แหวน-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา-งอ-งู-ปอ-ปลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-ทอ-ทะ-หาน-สอ-สา-ลา ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งเป็นศาลชำนัญพิเศษ มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งหรือคดีอาญาที่กฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ เช่น คดีอาญาและคดีแพ่งเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร และคดีแพ่งเกี่ยวกับข้อพิพาทตามสัญญาถ่ายทอดเทคโนโลยีหรือสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ คดีแพ่งเกี่ยวกับการซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้าหรือตราสารการเงินระหว่างประเทศ หรือการให้บริการระหว่างประเทศ การขนส่งระหว่างประเทศ การประกันภัย และนิติกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่อง คดีแพ่งหรือคดีอาญาที่เกี่ยวกับข้อพิพาทในการออกแบบวงจร รวมการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ ชื่อทางการค้า ชื่อทางภูมิศาสตร์ที่แสดงถึงแหล่งกำเนิดของสินค้า ความลับทางการค้าและการคุ้มครองพันธุ์พืช.ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ (กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งเป็นศาลชำนัญพิเศษ มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งหรือคดีอาญาที่กฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ เช่น คดีอาญาและคดีแพ่งเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร และคดีแพ่งเกี่ยวกับข้อพิพาทตามสัญญาถ่ายทอดเทคโนโลยีหรือสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ คดีแพ่งเกี่ยวกับการซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้าหรือตราสารการเงินระหว่างประเทศ หรือการให้บริการระหว่างประเทศ การขนส่งระหว่างประเทศ การประกันภัย และนิติกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่อง คดีแพ่งหรือคดีอาญาที่เกี่ยวกับข้อพิพาทในการออกแบบวงจร รวมการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ ชื่อทางการค้า ชื่อทางภูมิศาสตร์ที่แสดงถึงแหล่งกำเนิดของสินค้า ความลับทางการค้าและการคุ้มครองพันธุ์พืช.
ศาลทหาร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ทอ-ทะ-หาน-หอ-หีบ-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลในสังกัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาวางบทลงโทษผู้กระทําผิดต่อกฎหมายทหารหรือกฎหมายอื่นในทางอาญา ในคดีซึ่งผู้กระทําผิดเป็นบุคคลที่อยู่ในอํานาจศาลทหารในขณะกระทําผิด และมีอํานาจสั่งลงโทษบุคคลใด ๆ ที่กระทําผิดฐานละเมิดอํานาจศาลตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง.ศาลทหาร (กฎ) น. ศาลในสังกัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาวางบทลงโทษผู้กระทําผิดต่อกฎหมายทหารหรือกฎหมายอื่นในทางอาญา ในคดีซึ่งผู้กระทําผิดเป็นบุคคลที่อยู่ในอํานาจศาลทหารในขณะกระทําผิด และมีอํานาจสั่งลงโทษบุคคลใด ๆ ที่กระทําผิดฐานละเมิดอํานาจศาลตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง.
ศาลปกครอง เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-กอ-ไก่-คอ-ควาย-รอ-เรือ-ออ-อ่าง-งอ-งู ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลที่มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีปกครอง ตามที่กฎหมายบัญญัติอันได้แก่ คดีพิพาทที่เกิดจากการกระทำทางปกครองไม่ว่าจะเป็นคดีที่เป็นข้อพิพาทระหว่างหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับดูแลของรัฐบาลกับเอกชน หรือระหว่างหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับดูแลของรัฐบาลด้วยกัน.ศาลปกครอง (กฎ) น. ศาลที่มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีปกครอง ตามที่กฎหมายบัญญัติอันได้แก่ คดีพิพาทที่เกิดจากการกระทำทางปกครองไม่ว่าจะเป็นคดีที่เป็นข้อพิพาทระหว่างหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับดูแลของรัฐบาลกับเอกชน หรือระหว่างหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับดูแลของรัฐบาลด้วยกัน.
ศาลโปริสภา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-โอ-ปอ-ปลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-สอ-เสือ-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อา[สานโปริดสะพา] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย และเป็นคำที่เลิกใช้แล้ว เป็นคำนาม หมายถึง ศาลชั้นต้นที่จัดตั้งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ แทนศาลกองตระเวนเมื่อ ร.ศ. ๑๑๒ มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีทํานองเดียวกับศาลแขวงปัจจุบัน.ศาลโปริสภา [สานโปริดสะพา] (กฎ; เลิก) น. ศาลชั้นต้นที่จัดตั้งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ แทนศาลกองตระเวนเมื่อ ร.ศ. ๑๑๒ มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีทํานองเดียวกับศาลแขวงปัจจุบัน.
ศาลพระภูมิ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-พอ-พาน-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อู-มอ-ม้า-สะ-หระ-อิ เป็นคำนาม หมายถึง ที่สถิตของเทพารักษ์ประจำพื้นที่และสถานที่ ทำด้วยไม้เป็นเรือนหลังคาทรงไทยตั้งอยู่บนเสาเดียว ปัจจุบันทำด้วยปูนเป็นรูปปราสาทก็มี.ศาลพระภูมิ น. ที่สถิตของเทพารักษ์ประจำพื้นที่และสถานที่ ทำด้วยไม้เป็นเรือนหลังคาทรงไทยตั้งอยู่บนเสาเดียว ปัจจุบันทำด้วยปูนเป็นรูปปราสาทก็มี.
ศาลเพียงตา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-เอ-พอ-พาน-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-งอ-งู-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง ศาลเทพารักษ์ที่ทําขึ้นชั่วคราว มีระดับเสมอนัยน์ตา เพื่อความเคารพและสวัสดิมงคลเป็นต้น.ศาลเพียงตา น. ศาลเทพารักษ์ที่ทําขึ้นชั่วคราว มีระดับเสมอนัยน์ตา เพื่อความเคารพและสวัสดิมงคลเป็นต้น.
ศาลแพ่ง เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-แอ-พอ-พาน-ไม้-เอก-งอ-งู ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งทั้งปวงและคดีอื่นใดที่มิได้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรมอื่น.ศาลแพ่ง (กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งทั้งปวงและคดีอื่นใดที่มิได้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรมอื่น.
ศาลภาษีอากร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อา-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อี-ออ-อ่าง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-รอ-เรือ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งเป็นศาลชำนัญพิเศษมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งที่กฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลภาษีอากร เช่น คดีอุทธรณ์คำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานหรือคณะกรรมการตามกฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากร.ศาลภาษีอากร (กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งเป็นศาลชำนัญพิเศษมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งที่กฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลภาษีอากร เช่น คดีอุทธรณ์คำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานหรือคณะกรรมการตามกฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากร.
ศาลยุติธรรม เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อุ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทง-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวง เว้นแต่คดีที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลอื่น ศาลยุติธรรมมี ๓ ชั้น คือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา, เดิมเรียกว่า ศาลสถิตยุติธรรม.ศาลยุติธรรม (กฎ) น. ศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวง เว้นแต่คดีที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลอื่น ศาลยุติธรรมมี ๓ ชั้น คือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา, เดิมเรียกว่า ศาลสถิตยุติธรรม.
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อุ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทง-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-หอ-หีบ-วอ-แหวน-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา-งอ-งู-ปอ-ปลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-ทอ-ทะ-หาน-สอ-สา-ลา ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง องค์กรใหญ่ฝ่ายตุลาการขององค์การสหประชาชาติ ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๙ (ค.ศ. ๑๙๔๖) ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ สืบต่อจากศาลประจำยุติธรรมระหว่างประเทศของสันนิบาตชาติ (Permanent Court of International Justice) ตามบทบัญญัติต่อท้ายกฎบัตรองค์การสหประชาชาติ มีอำนาจจำกัดเฉพาะการพิจารณาตัดสินคดีแพ่งที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติด้วยกัน ซึ่งประเทศคู่กรณียินยอมให้ศาลเป็นผู้พิจารณาตัดสินเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกรณีพิพาทต่าง ๆ ทางกฎหมายและสนธิสัญญาตามที่สมัชชาใหญ่คณะมนตรีความมั่นคง หรือองค์การชำนัญพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติร้องขอ, เรียกย่อว่า ศาลโลก. ในวงเล็บ มาจากภาษาอังกฤษ International เขียนว่า ไอ-เอ็น-ที-อี-อา-เอ็น-เอ-ที-ไอ-โอ-เอ็น-เอ-แอล Court เขียนว่า ซี-โอ-ยู-อา-ที of เขียนว่า โอ-เอฟ Justice เขียนว่า เจ-ยู-เอส-ที-ไอ-ซี-อี .ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (กฎ) น. องค์กรใหญ่ฝ่ายตุลาการขององค์การสหประชาชาติ ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๙ (ค.ศ. ๑๙๔๖) ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ สืบต่อจากศาลประจำยุติธรรมระหว่างประเทศของสันนิบาตชาติ (Permanent Court of International Justice) ตามบทบัญญัติต่อท้ายกฎบัตรองค์การสหประชาชาติ มีอำนาจจำกัดเฉพาะการพิจารณาตัดสินคดีแพ่งที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติด้วยกัน ซึ่งประเทศคู่กรณียินยอมให้ศาลเป็นผู้พิจารณาตัดสินเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกรณีพิพาทต่าง ๆ ทางกฎหมายและสนธิสัญญาตามที่สมัชชาใหญ่คณะมนตรีความมั่นคง หรือองค์การชำนัญพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติร้องขอ, เรียกย่อว่า ศาลโลก. (อ. International Court of Justice).
ศาลเยาวชนและครอบครัว เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-เอ-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-ชอ-ช้าง-นอ-หนู-สะ-หระ-แอ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อะ-คอ-ควาย-รอ-เรือ-ออ-อ่าง-บอ-ไบ-ไม้-คอ-ควาย-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-วอ-แหวน ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาหรือมีคําสั่งในคดีอาญาที่มีข้อหาว่าเด็กหรือเยาวชนกระทําความผิด หรือคดีอาญาที่ศาลซึ่งมีอํานาจพิจารณาคดีธรรมดาได้โอนมาตามกฎหมาย หรือคดีครอบครัวอันได้แก่คดีแพ่งที่ฟ้องหรือร้องขอต่อศาลหรือกระทําการใด ๆ ในทางศาลเกี่ยวกับผู้เยาว์หรือครอบครัวแล้วแต่กรณี ซึ่งจะต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือคดีที่ศาลจะต้องพิพากษาหรือสั่งเกี่ยวกับตัวเด็กและเยาวชนตามบทบัญญัติของกฎหมายซึ่งบัญญัติให้เป็นอํานาจหน้าที่ของศาลเยาวชนและครอบครัว ได้แก่ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด หรือแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลจังหวัดซึ่งจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว.ศาลเยาวชนและครอบครัว (กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาหรือมีคําสั่งในคดีอาญาที่มีข้อหาว่าเด็กหรือเยาวชนกระทําความผิด หรือคดีอาญาที่ศาลซึ่งมีอํานาจพิจารณาคดีธรรมดาได้โอนมาตามกฎหมาย หรือคดีครอบครัวอันได้แก่คดีแพ่งที่ฟ้องหรือร้องขอต่อศาลหรือกระทําการใด ๆ ในทางศาลเกี่ยวกับผู้เยาว์หรือครอบครัวแล้วแต่กรณี ซึ่งจะต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือคดีที่ศาลจะต้องพิพากษาหรือสั่งเกี่ยวกับตัวเด็กและเยาวชนตามบทบัญญัติของกฎหมายซึ่งบัญญัติให้เป็นอํานาจหน้าที่ของศาลเยาวชนและครอบครัว ได้แก่ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด หรือแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลจังหวัดซึ่งจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว.
ศาลรัฐธรรมนูญ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-ถอ-ถาน-ทอ-ทง-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า-นอ-หนู-สะ-หระ-อู-ยอ-หยิง ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลที่มีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ เช่น การพิจารณาวินิจฉัยว่าบทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎหรือข้อบังคับ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจหน้าที่พิจารณาอรรถคดีทั่วไป.ศาลรัฐธรรมนูญ (กฎ) น. ศาลที่มีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ เช่น การพิจารณาวินิจฉัยว่าบทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎหรือข้อบังคับ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจหน้าที่พิจารณาอรรถคดีทั่วไป.
ศาลแรงงาน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-แอ-รอ-เรือ-งอ-งู-งอ-งู-สะ-หระ-อา-นอ-หนู ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งเป็นศาลชำนัญพิเศษ มีอำนาจพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งในคดีที่กฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลแรงงาน เช่น คดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงาน หรือตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง หรือคดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานหรือกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ หรือคดีอันเกิดแต่มูลละเมิดระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างสืบเนื่องจากข้อพิพาทแรงงานหรือเกี่ยวกับการทำงานตามสัญญาจ้างแรงงาน.ศาลแรงงาน (กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งเป็นศาลชำนัญพิเศษ มีอำนาจพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งในคดีที่กฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลแรงงาน เช่น คดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงาน หรือตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง หรือคดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานหรือกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ หรือคดีอันเกิดแต่มูลละเมิดระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างสืบเนื่องจากข้อพิพาทแรงงานหรือเกี่ยวกับการทำงานตามสัญญาจ้างแรงงาน.
ศาลล้มละลาย เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ลอ-ลิง-ไม้-โท-มอ-ม้า-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งเป็นศาลชำนัญพิเศษ มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลายที่มิใช่คดีอาญา เช่น คดีที่เจ้าหนี้ไม่มีประกันหรือเจ้าหนี้มีประกันฟ้องลูกหนี้ผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวให้ล้มละลาย นอกจากนั้นยังรวมถึงคดีแพ่งที่เกี่ยวพันกับคดีดังกล่าวด้วย ได้แก่ คดีแพ่งธรรมดาที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือผู้บริหารแผนของลูกหนี้พิพาทกับบุคคลใด ๆ อันมีมูลจากสัญญาหรือละเมิดอันเนื่องมาจากการจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้.ศาลล้มละลาย (กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งเป็นศาลชำนัญพิเศษ มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลายที่มิใช่คดีอาญา เช่น คดีที่เจ้าหนี้ไม่มีประกันหรือเจ้าหนี้มีประกันฟ้องลูกหนี้ผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวให้ล้มละลาย นอกจากนั้นยังรวมถึงคดีแพ่งที่เกี่ยวพันกับคดีดังกล่าวด้วย ได้แก่ คดีแพ่งธรรมดาที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือผู้บริหารแผนของลูกหนี้พิพาทกับบุคคลใด ๆ อันมีมูลจากสัญญาหรือละเมิดอันเนื่องมาจากการจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้.
ศาลโลก เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-โอ-ลอ-ลิง-กอ-ไก่ ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำนาม หมายถึง ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ.ศาลโลก (ปาก) น. ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ.
ศาลสถิตยุติธรรม เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สอ-เสือ-ถอ-ถุง-สะ-หระ-อิ-ตอ-เต่า-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อุ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทง-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย และเป็นคำโบราณ เป็นคำนาม หมายถึง เป็นคำรวมที่ใช้เรียกศาลยุติธรรมทั้งปวง.ศาลสถิตยุติธรรม (กฎ; โบ) น. เป็นคำรวมที่ใช้เรียกศาลยุติธรรมทั้งปวง.
ศาลสูง เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สอ-เสือ-สะ-หระ-อู-งอ-งู ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีในชั้นอุทธรณ์และฎีกา.ศาลสูง (กฎ) น. ศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีในชั้นอุทธรณ์และฎีกา.
ศาลสูงสุด เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สอ-เสือ-สะ-หระ-อู-งอ-งู-สอ-เสือ-สะ-หระ-อุ-ดอ-เด็ก ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลที่อยู่ในลำดับสูงสุดเหนือศาลทั้งหลายในสายเดียวกัน คดีที่ศาลสูงสุดพิจารณาพิพากษาแล้วถือว่าถึงที่สุด.ศาลสูงสุด (กฎ) น. ศาลที่อยู่ในลำดับสูงสุดเหนือศาลทั้งหลายในสายเดียวกัน คดีที่ศาลสูงสุดพิจารณาพิพากษาแล้วถือว่าถึงที่สุด.
ศาลอาญา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ออ-อ่าง-สะ-หระ-อา-ยอ-หยิง-สะ-หระ-อา ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาทั้งปวงที่มิได้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรมอื่น รวมทั้งคดีอื่นใดที่มีกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีอาญาแล้วแต่กรณี.ศาลอาญา (กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาทั้งปวงที่มิได้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรมอื่น รวมทั้งคดีอื่นใดที่มีกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีอาญาแล้วแต่กรณี.
ศาลอาญาศึก เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ออ-อ่าง-สะ-หระ-อา-ยอ-หยิง-สะ-หระ-อา-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อึ-กอ-ไก่ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลที่ตั้งขึ้นเมื่อหน่วยทหารหรือเรือรบอยู่ในยุทธบริเวณ เพื่อพิจารณาพิพากษาคดีอาญาทั้งปวงซึ่งการกระทำผิดเกิดขึ้นในเขตอำนาจได้ทุกบทกฎหมายและไม่จำกัดตัวบุคคล.ศาลอาญาศึก (กฎ) น. ศาลที่ตั้งขึ้นเมื่อหน่วยทหารหรือเรือรบอยู่ในยุทธบริเวณ เพื่อพิจารณาพิพากษาคดีอาญาทั้งปวงซึ่งการกระทำผิดเกิดขึ้นในเขตอำนาจได้ทุกบทกฎหมายและไม่จำกัดตัวบุคคล.
ศาลอุทธรณ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ออ-อ่าง-สะ-หระ-อุ-ทอ-ทะ-หาน-ทอ-ทง-รอ-เรือ-นอ-เนน-ทัน-ทะ-คาด ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ศาลยุติธรรมชั้นสูงถัดจากศาลฎีกาลงมา ได้แก่ ศาลอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ภาค มีอํานาจพิจารณาพิพากษาบรรดาคดีที่อุทธรณ์คําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลชั้นต้นตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการอุทธรณ์และว่าด้วยเขตอํานาจศาล และมีอำนาจพิพากษายืนตาม แก้ไข กลับ หรือยกคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่พิพากษาลงโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต เมื่อคดีนั้นได้ส่งขึ้นมายังศาลอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ภาค วินิจฉัยชี้ขาดคำร้องคำขอที่ยื่นต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาคตามกฎหมาย และวินิจฉัยชี้ขาดคดีที่ศาลอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ภาคมีอํานาจวินิจฉัยได้ตามกฎหมายอื่นด้วย.ศาลอุทธรณ์ (กฎ) น. ศาลยุติธรรมชั้นสูงถัดจากศาลฎีกาลงมา ได้แก่ ศาลอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ภาค มีอํานาจพิจารณาพิพากษาบรรดาคดีที่อุทธรณ์คําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลชั้นต้นตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการอุทธรณ์และว่าด้วยเขตอํานาจศาล และมีอำนาจพิพากษายืนตาม แก้ไข กลับ หรือยกคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่พิพากษาลงโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต เมื่อคดีนั้นได้ส่งขึ้นมายังศาลอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ภาค วินิจฉัยชี้ขาดคำร้องคำขอที่ยื่นต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาคตามกฎหมาย และวินิจฉัยชี้ขาดคดีที่ศาลอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ภาคมีอํานาจวินิจฉัยได้ตามกฎหมายอื่นด้วย.
ศาลอุทธรณ์ภาค เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ออ-อ่าง-สะ-หระ-อุ-ทอ-ทะ-หาน-ทอ-ทง-รอ-เรือ-นอ-เนน-ทัน-ทะ-คาด-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย ดู ศาลอุทธรณ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ออ-อ่าง-สะ-หระ-อุ-ทอ-ทะ-หาน-ทอ-ทง-รอ-เรือ-นอ-เนน-ทัน-ทะ-คาด.ศาลอุทธรณ์ภาค (กฎ) ดู ศาลอุทธรณ์.
ศาลา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง อาคารทรงไทย ปล่อยโถง ไม่กั้นฝา ใช้เป็นที่พักหรือเพื่อประโยชน์การงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ศาลาวัด ศาลาที่พัก ศาลาท่านํ้า, โดยปริยายหมายถึงอาคารหรือสถานที่บางแห่ง ใช้เพื่อประโยชน์การงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ศาลาพักร้อน ศาลาสวดศพ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สาลา เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา.ศาลา น. อาคารทรงไทย ปล่อยโถง ไม่กั้นฝา ใช้เป็นที่พักหรือเพื่อประโยชน์การงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ศาลาวัด ศาลาที่พัก ศาลาท่านํ้า, โดยปริยายหมายถึงอาคารหรือสถานที่บางแห่ง ใช้เพื่อประโยชน์การงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ศาลาพักร้อน ศาลาสวดศพ. (ส.; ป. สาลา).
ศาลากลาง เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง อาคารที่ใช้เป็นที่ทำการของจังหวัด เช่น ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา.ศาลากลาง น. อาคารที่ใช้เป็นที่ทำการของจังหวัด เช่น ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา.
ศาลากลางย่าน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-งอ-งู-ยอ-ยัก-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง อาคารทรงไทย คล้ายศาลาการเปรียญ นิยมสร้างไว้กลางหมู่บ้าน สำหรับให้คนในหมู่บ้านมาประชุม ทำบุญ หรือฟังธรรม เช่น ศาลากลางย่านที่ตำบลบ้านบุ, ศาลาโรงธรรม ก็เรียก.ศาลากลางย่าน น. อาคารทรงไทย คล้ายศาลาการเปรียญ นิยมสร้างไว้กลางหมู่บ้าน สำหรับให้คนในหมู่บ้านมาประชุม ทำบุญ หรือฟังธรรม เช่น ศาลากลางย่านที่ตำบลบ้านบุ, ศาลาโรงธรรม ก็เรียก.
ศาลาการเปรียญ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-สะ-หระ-เอ-ปอ-ปลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-ยอ-หยิง เป็นคำนาม หมายถึง ศาลาวัดสำหรับพระสงฆ์แสดงธรรม.ศาลาการเปรียญ น. ศาลาวัดสำหรับพระสงฆ์แสดงธรรม.
ศาลาฉทาน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ฉอ-ฉิ่ง-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-นอ-หนู[–ฉ้อทาน] เป็นคำนาม หมายถึง สถานที่แจกจ่ายอาหารแก่คนทั่วไปเป็นการกุศล, ฉทานศาลา ก็เรียก.ศาลาฉทาน [–ฉ้อทาน] น. สถานที่แจกจ่ายอาหารแก่คนทั่วไปเป็นการกุศล, ฉทานศาลา ก็เรียก.
ศาลาดิน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง ศาลาที่ใช้พื้นดินเป็นพื้นหรือพื้นติดดิน ใช้ประกอบศาสนกิจเป็นต้น เช่น ศาลาดินที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม.ศาลาดิน น. ศาลาที่ใช้พื้นดินเป็นพื้นหรือพื้นติดดิน ใช้ประกอบศาสนกิจเป็นต้น เช่น ศาลาดินที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม.
ศาลาตักบาตร, ศาลาบาตร ศาลาตักบาตร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ตอ-เต่า-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-อา-ตอ-เต่า-รอ-เรือ ศาลาบาตร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-อา-ตอ-เต่า-รอ-เรือ เป็นคำนาม หมายถึง ศาลาที่ลักษณะเป็นโรงยาว มีฐานสำหรับตั้งบาตรได้หลายลูก มักปลูกไว้ในย่านกลางหมู่บ้านที่อยู่ไกลวัด ในเวลาเทศกาลที่นิมนต์พระมาเจริญพระพุทธมนต์ ก็จะตั้งบาตรเรียงไว้ที่ศาลานั้นเพื่อให้ประชาชนได้ตักบาตร.ศาลาตักบาตร, ศาลาบาตร น. ศาลาที่ลักษณะเป็นโรงยาว มีฐานสำหรับตั้งบาตรได้หลายลูก มักปลูกไว้ในย่านกลางหมู่บ้านที่อยู่ไกลวัด ในเวลาเทศกาลที่นิมนต์พระมาเจริญพระพุทธมนต์ ก็จะตั้งบาตรเรียงไว้ที่ศาลานั้นเพื่อให้ประชาชนได้ตักบาตร.
ศาลาประชาคม เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ปอ-ปลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง สถานที่หรืออาคารที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประชุมประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ของประชาชนในชุมชนนั้น ๆ.ศาลาประชาคม น. สถานที่หรืออาคารที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประชุมประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ของประชาชนในชุมชนนั้น ๆ.
ศาลายก เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-กอ-ไก่ เป็นคำนาม หมายถึง ศาลาที่ยกพื้นสูงใช้ประกอบศาสนกิจเป็นต้น เช่น ศาลายกที่หน้าวัดสุทัศนเทพวราราม.ศาลายก น. ศาลาที่ยกพื้นสูงใช้ประกอบศาสนกิจเป็นต้น เช่น ศาลายกที่หน้าวัดสุทัศนเทพวราราม.
ศาลาราย เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก เป็นคำนาม หมายถึง ศาลาที่สร้างเป็นหลัง ๆ เรียงเป็นแนวรอบโบสถ์หรือวิหาร เช่น ศาลารายวัดพระศรีรัตนศาสดาราม.ศาลาราย น. ศาลาที่สร้างเป็นหลัง ๆ เรียงเป็นแนวรอบโบสถ์หรือวิหาร เช่น ศาลารายวัดพระศรีรัตนศาสดาราม.
ศาลาโรงธรรม เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-โอ-รอ-เรือ-งอ-งู-ทอ-ทง-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง ศาลากลางย่าน.ศาลาโรงธรรม น. ศาลากลางย่าน.
ศาลาลงสรง เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-งอ-งู-สอ-เสือ-รอ-เรือ-งอ-งู[–สง] เป็นคำนาม หมายถึง ศาลาที่สร้างขึ้นชั่วคราวสำหรับใช้ในพระราชพิธีโสกันต์หรือพระราชพิธีเกศากันต์และพระราชพิธีลงท่า.ศาลาลงสรง [–สง] น. ศาลาที่สร้างขึ้นชั่วคราวสำหรับใช้ในพระราชพิธีโสกันต์หรือพระราชพิธีเกศากันต์และพระราชพิธีลงท่า.
ศาลาลูกขุน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อู-กอ-ไก่-ขอ-ไข่-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ เป็นคำนาม หมายถึง ที่ทำการของลูกขุน.ศาลาลูกขุน (โบ) น. ที่ทำการของลูกขุน.
ศาลาวัด เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-ไม้-หัน-อา-กาด-ดอ-เด็ก เป็นคำนาม หมายถึง อาคารที่ปลูกไว้ในวัดสำหรับทำบุญและศึกษาเล่าเรียนเป็นต้น.ศาลาวัด น. อาคารที่ปลูกไว้ในวัดสำหรับทำบุญและศึกษาเล่าเรียนเป็นต้น.
ศาลาสรง เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-รอ-เรือ-งอ-งู[–สง] ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาถิ่นภาคพายัพและภาคอีสาน เป็นคำนาม หมายถึง ศาลาขนาดย่อมมุงหลังคาและมีฝากั้นมิดชิด ใช้เป็นที่สรงนํ้าพระสงฆ์ที่เคารพนับถือ ปฏิบัติกันในเทศกาลสงกรานต์โดยทํารางนํ้ารูปนาคพาดเข้าไปในศาลา เวลาสรงนํ้าพระให้เทนํ้าลงบนรางนั้น.ศาลาสรง [–สง] (ถิ่น–พายัพ, อีสาน) น. ศาลาขนาดย่อมมุงหลังคาและมีฝากั้นมิดชิด ใช้เป็นที่สรงนํ้าพระสงฆ์ที่เคารพนับถือ ปฏิบัติกันในเทศกาลสงกรานต์โดยทํารางนํ้ารูปนาคพาดเข้าไปในศาลา เวลาสรงนํ้าพระให้เทนํ้าลงบนรางนั้น.
ศาศวัต เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า[สาดสะ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ยั่งยืน. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศาศฺวต เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-วอ-แหวน-ตอ-เต่า และมาจากภาษาบาลี สสฺสต เขียนว่า สอ-เสือ-สอ-เสือ-พิน-ทุ-สอ-เสือ-ตอ-เต่า.ศาศวัต [สาดสะ–] ว. ยั่งยืน. (ส. ศาศฺวต; ป. สสฺสต).
ศาสก เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-กอ-ไก่[สา–สก] เป็นคำนาม หมายถึง ครู, ผู้สอน, ผู้ชี้แจง, ผู้ปกครอง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศาสก [สา–สก] น. ครู, ผู้สอน, ผู้ชี้แจง, ผู้ปกครอง. (ส.).
ศาสดา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อา[สาดสะดา] เป็นคำนาม หมายถึง ผู้ตั้งลัทธิศาสนา เช่น ศาสดาทั้ง ๖, คำเรียกพระพุทธเจ้าว่า พระบรมศาสดา. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศาสฺตา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-พิน-ทุ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อา และมาจากภาษาบาลี สตฺถา เขียนว่า สอ-เสือ-ตอ-เต่า-พิน-ทุ-ถอ-ถุง-สะ-หระ-อา.ศาสดา [สาดสะดา] น. ผู้ตั้งลัทธิศาสนา เช่น ศาสดาทั้ง ๖, คำเรียกพระพุทธเจ้าว่า พระบรมศาสดา. (ส. ศาสฺตา; ป. สตฺถา).
ศาสตร–, ศาสตร์ ศาสตร– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ ศาสตร์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด [สาดตฺระ–, สาดสะตฺระ–, สาด] เป็นคำนาม หมายถึง ระบบวิชาความรู้, มักใช้ประกอบหลังคําอื่น เช่น วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ มนุษยศาสตร์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศาสตร–, ศาสตร์ [สาดตฺระ–, สาดสะตฺระ–, สาด] น. ระบบวิชาความรู้, มักใช้ประกอบหลังคําอื่น เช่น วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ มนุษยศาสตร์. (ส.).
ศาสตราจารย์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-จอ-จาน-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด[สาดตฺรา–, สาดสะตฺรา–] เป็นคำนาม หมายถึง ตําแหน่งทางวิชาการชั้นสูงสุดของสถาบันระดับอุดมศึกษา.ศาสตราจารย์ [สาดตฺรา–, สาดสะตฺรา–] น. ตําแหน่งทางวิชาการชั้นสูงสุดของสถาบันระดับอุดมศึกษา.
ศาสตรา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา[สาดตฺรา] เป็นคำนาม หมายถึง ศัสตรา.ศาสตรา [สาดตฺรา] น. ศัสตรา.
ศาสตราจารย์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-จอ-จาน-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาดดู ศาสตร–, ศาสตร์ ศาสตร– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ ศาสตร์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด .ศาสตราจารย์ ดู ศาสตร–, ศาสตร์.
ศาสน–, ศาสนา ศาสน– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู ศาสนา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อา [สาสะนะ–, สาดสะนะ–, สาดสะหฺนา] เป็นคำนาม หมายถึง ลัทธิความเชื่อถือของมนุษย์อันมีหลัก คือแสดงกําเนิดและความสิ้นสุดของโลกเป็นต้น อันเป็นไปในฝ่ายปรมัตถ์ประการหนึ่ง แสดงหลักธรรมเกี่ยวกับบุญบาปอันเป็นไปในฝ่ายศีลธรรมประการหนึ่ง พร้อมทั้งลัทธิพิธีที่กระทําตามความเห็นหรือตามคําสั่งสอนในความเชื่อถือนั้น ๆ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศาสน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู ว่า คําสอน, ข้อบังคับ และมาจากภาษาบาลี สาสน เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู.ศาสน–, ศาสนา [สาสะนะ–, สาดสะนะ–, สาดสะหฺนา] น. ลัทธิความเชื่อถือของมนุษย์อันมีหลัก คือแสดงกําเนิดและความสิ้นสุดของโลกเป็นต้น อันเป็นไปในฝ่ายปรมัตถ์ประการหนึ่ง แสดงหลักธรรมเกี่ยวกับบุญบาปอันเป็นไปในฝ่ายศีลธรรมประการหนึ่ง พร้อมทั้งลัทธิพิธีที่กระทําตามความเห็นหรือตามคําสั่งสอนในความเชื่อถือนั้น ๆ. (ส. ศาสน ว่า คําสอน, ข้อบังคับ; ป. สาสน).
ศาสนกิจ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-กอ-ไก่-สะ-หระ-อิ-จอ-จาน เป็นคำนาม หมายถึง งานทางศาสนาที่ภิกษุสามเณรเป็นต้นปฏิบัติ เช่น การทำวัตรสวดมนต์และการเผยแผ่ศาสนาเป็นศาสนกิจของสงฆ์.ศาสนกิจ น. งานทางศาสนาที่ภิกษุสามเณรเป็นต้นปฏิบัติ เช่น การทำวัตรสวดมนต์และการเผยแผ่ศาสนาเป็นศาสนกิจของสงฆ์.
ศาสนจักร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-จอ-จาน-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-รอ-เรือ[สาสะนะจัก, สาดสะนะจัก] เป็นคำนาม หมายถึง อํานาจปกครองทางศาสนา เช่น ไตรภูมิโลกวินิจฉัยเป็นวรรณกรรมฝ่ายศาสนจักร, ถ้าเป็นฝ่ายพระพุทธศาสนา เรียกว่า พุทธจักร, ถ้าเป็นฝ่ายคริสต์ศาสนา เรียกว่า คริสตจักร, คู่กับ อาณาจักร ซึ่งหมายความว่า อํานาจปกครองทางบ้านเมือง.ศาสนจักร [สาสะนะจัก, สาดสะนะจัก] น. อํานาจปกครองทางศาสนา เช่น ไตรภูมิโลกวินิจฉัยเป็นวรรณกรรมฝ่ายศาสนจักร, ถ้าเป็นฝ่ายพระพุทธศาสนา เรียกว่า พุทธจักร, ถ้าเป็นฝ่ายคริสต์ศาสนา เรียกว่า คริสตจักร, คู่กับ อาณาจักร ซึ่งหมายความว่า อํานาจปกครองทางบ้านเมือง.
ศาสนธรรม เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-ทอ-ทง-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง คำสั่งสอนในศาสนา เช่น ศาสนิกชนควรปฏิบัติตามศาสนธรรมในศาสนาของตน.ศาสนธรรม น. คำสั่งสอนในศาสนา เช่น ศาสนิกชนควรปฏิบัติตามศาสนธรรมในศาสนาของตน.
ศาสนบุคคล เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-อุ-คอ-ควาย-คอ-ควาย-ลอ-ลิง เป็นคำนาม หมายถึง นักบวชในศาสนา เช่น ภิกษุสามเณรเป็นศาสนบุคคลของพระพุทธศาสนา.ศาสนบุคคล น. นักบวชในศาสนา เช่น ภิกษุสามเณรเป็นศาสนบุคคลของพระพุทธศาสนา.
ศาสนพิธี เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-พอ-พาน-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทง-สะ-หระ-อี เป็นคำนาม หมายถึง พิธีกรรมทางศาสนา เช่น พิธีทอดกฐิน พิธีอุปสมบท เป็นศาสนพิธีของพระพุทธศาสนา.ศาสนพิธี น. พิธีกรรมทางศาสนา เช่น พิธีทอดกฐิน พิธีอุปสมบท เป็นศาสนพิธีของพระพุทธศาสนา.
ศาสนวัตถุ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-วอ-แหวน-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-ถอ-ถุง-สะ-หระ-อุ เป็นคำนาม หมายถึง วัตถุที่เกี่ยวเนื่องทางศาสนา มักเป็นสิ่งที่เคารพบูชา เช่น พระพุทธรูปเป็นศาสนวัตถุในพระพุทธศาสนา.ศาสนวัตถุ น. วัตถุที่เกี่ยวเนื่องทางศาสนา มักเป็นสิ่งที่เคารพบูชา เช่น พระพุทธรูปเป็นศาสนวัตถุในพระพุทธศาสนา.
ศาสนศาสตร์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง วิชาว่าด้วยศาสนาต่าง ๆ.ศาสนศาสตร์ น. วิชาว่าด้วยศาสนาต่าง ๆ.
ศาสนสถาน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สอ-เสือ-ถอ-ถุง-สะ-หระ-อา-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เช่น โบสถ์ วิหาร สถูป เจดีย์ เป็นศาสนสถานทางพระพุทธศาสนา มัสยิดเป็นศาสนสถานทางศาสนาอิสลาม.ศาสนสถาน น. สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เช่น โบสถ์ วิหาร สถูป เจดีย์ เป็นศาสนสถานทางพระพุทธศาสนา มัสยิดเป็นศาสนสถานทางศาสนาอิสลาม.
ศาสนสมบัติ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สอ-เสือ-มอ-ม้า-บอ-ไบ-ไม้-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ เป็นคำนาม หมายถึง ทรัพย์สินของพระศาสนาทั้งที่เป็นสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ มี ๒ อย่าง คือ ศาสนสมบัติกลาง และศาสนสมบัติของวัด.ศาสนสมบัติ น. ทรัพย์สินของพระศาสนาทั้งที่เป็นสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ มี ๒ อย่าง คือ ศาสนสมบัติกลาง และศาสนสมบัติของวัด.
ศาสนสมบัติกลาง เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สอ-เสือ-มอ-ม้า-บอ-ไบ-ไม้-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ทรัพย์สินของพระศาสนาโดยส่วนรวม ส่วนใหญ่ได้แก่ ที่ดิน อาคาร และดอกผลที่เกิดขึ้นจากที่ดินและอาคารนั้น ๆ รวมทั้งที่ดินวัดร้างทั่วประเทศที่ทางการได้ประกาศยุบเลิกวัดแล้ว.ศาสนสมบัติกลาง น. ทรัพย์สินของพระศาสนาโดยส่วนรวม ส่วนใหญ่ได้แก่ ที่ดิน อาคาร และดอกผลที่เกิดขึ้นจากที่ดินและอาคารนั้น ๆ รวมทั้งที่ดินวัดร้างทั่วประเทศที่ทางการได้ประกาศยุบเลิกวัดแล้ว.
ศาสนสมบัติของวัด เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สอ-เสือ-มอ-ม้า-บอ-ไบ-ไม้-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ-ขอ-ไข่-ออ-อ่าง-งอ-งู-วอ-แหวน-ไม้-หัน-อา-กาด-ดอ-เด็ก เป็นคำนาม หมายถึง ทรัพย์สินของวัดใดวัดหนึ่งรวมทั้งปูชนียสถานที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด เช่น พระปฐมเจดีย์เป็นศาสนสมบัติของวัดพระปฐมเจดีย์ พระธาตุพนมเป็นศาสนสมบัติของวัดธาตุพนม พระธาตุดอยสุเทพเป็นศาสนสมบัติของวัดพระธาตุดอยสุเทพ.ศาสนสมบัติของวัด น. ทรัพย์สินของวัดใดวัดหนึ่งรวมทั้งปูชนียสถานที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด เช่น พระปฐมเจดีย์เป็นศาสนสมบัติของวัดพระปฐมเจดีย์ พระธาตุพนมเป็นศาสนสมบัติของวัดธาตุพนม พระธาตุดอยสุเทพเป็นศาสนสมบัติของวัดพระธาตุดอยสุเทพ.
ศาสนิกชน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่-ชอ-ช้าง-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง บุคคลที่นับถือศาสนา เช่น ศาสนิกชนของพระพุทธศาสนา เรียกว่า พุทธศาสนิกชน ศาสนิกชนของคริสต์ศาสนา เรียกว่า คริสต์ศาสนิกชน.ศาสนิกชน น. บุคคลที่นับถือศาสนา เช่น ศาสนิกชนของพระพุทธศาสนา เรียกว่า พุทธศาสนิกชน ศาสนิกชนของคริสต์ศาสนา เรียกว่า คริสต์ศาสนิกชน.
ศาสนูปถัมภก เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อู-ปอ-ปลา-ถอ-ถุง-ไม้-หัน-อา-กาด-มอ-ม้า-พอ-สำ-เพา-กอ-ไก่[สาสะนูปะถําพก, สาดสะนูปะถําพก] เป็นคำนาม หมายถึง ผู้ทะนุบํารุงศาสนา, ถ้าใช้แก่พระมหากษัตริย์ เรียกว่า องค์เอกอัครศาสนูปถัมภก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศาสนูปสฺตมฺภก เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อู-ปอ-ปลา-สอ-เสือ-พิน-ทุ-ตอ-เต่า-มอ-ม้า-พิน-ทุ-พอ-สำ-เพา-กอ-ไก่ และมาจากภาษาบาลี สาสนูปตฺถมฺภก เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อู-ปอ-ปลา-ตอ-เต่า-พิน-ทุ-ถอ-ถุง-มอ-ม้า-พิน-ทุ-พอ-สำ-เพา-กอ-ไก่.ศาสนูปถัมภก [สาสะนูปะถําพก, สาดสะนูปะถําพก] น. ผู้ทะนุบํารุงศาสนา, ถ้าใช้แก่พระมหากษัตริย์ เรียกว่า องค์เอกอัครศาสนูปถัมภก. (ส. ศาสนูปสฺตมฺภก; ป. สาสนูปตฺถมฺภก).
ศาสน์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-ทัน-ทะ-คาด ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ เป็นคำนาม หมายถึง คําสั่ง, คําสั่งสอน, โดยปริยายหมายถึง พระราชหัตถเลขาทางราชการและลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช เช่น พระราชศาสน์ สมณศาสน์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สาสน เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู.ศาสน์ (โบ) น. คําสั่ง, คําสั่งสอน, โดยปริยายหมายถึง พระราชหัตถเลขาทางราชการและลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช เช่น พระราชศาสน์ สมณศาสน์. (ส.; ป. สาสน).
ศาสนิกชน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่-ชอ-ช้าง-นอ-หนูดู ศาสน–, ศาสนา ศาสน– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู ศาสนา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อา .ศาสนิกชน ดู ศาสน–, ศาสนา.
ศาสนีย–, ศาสนีย์ ศาสนีย– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก ศาสนีย์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด [สาสะนียะ–, สาสะนี] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สมควรจะสั่งสอน. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศาสนีย–, ศาสนีย์ [สาสะนียะ–, สาสะนี] ว. สมควรจะสั่งสอน. (ส.).
ศาสนูปถัมภก เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อู-ปอ-ปลา-ถอ-ถุง-ไม้-หัน-อา-กาด-มอ-ม้า-พอ-สำ-เพา-กอ-ไก่ดู ศาสน–, ศาสนา ศาสน– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู ศาสนา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อา .ศาสนูปถัมภก ดู ศาสน–, ศาสนา.
ศิกษก, ศิกษกะ ศิกษก เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-กอ-ไก่ ศิกษกะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-กอ-ไก่-สะ-หระ-อะ [สิก–สก, สิกสะกะ] เป็นคำนาม หมายถึง ผู้เล่าเรียน; ครู, ผู้สอน; ผู้รู้. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศิกษก, ศิกษกะ [สิก–สก, สิกสะกะ] น. ผู้เล่าเรียน; ครู, ผู้สอน; ผู้รู้. (ส.).
ศิการ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ เป็นคำกริยา หมายถึง หาเนื้อหาปลา. ในวงเล็บ มาจากภาษาเบงกาลี .ศิการ ก. หาเนื้อหาปลา. (บ.).
ศิขร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ขอ-ไข่-รอ-เรือ[–ขอน] เป็นคำนาม หมายถึง ยอด, ยอดเขา, ภูเขา, ใช้ว่า ศิงขร หรือ ศีขร ก็มี. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศิขร [–ขอน] น. ยอด, ยอดเขา, ภูเขา, ใช้ว่า ศิงขร หรือ ศีขร ก็มี. (ส.).
ศิขริน, ศิขรี ศิขริน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ขอ-ไข่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู ศิขรี เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ขอ-ไข่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี [สิขะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ภูเขา. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มียอด, ใช้ว่า ศิงขริน หรือ ศิงขรี ก็มี. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศิขรินฺ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ขอ-ไข่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-พิน-ทุ.ศิขริน, ศิขรี [สิขะ–] น. ภูเขา. ว. มียอด, ใช้ว่า ศิงขริน หรือ ศิงขรี ก็มี. (ส. ศิขรินฺ).
ศิขริน, ศิขรี ศิขริน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ขอ-ไข่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู ศิขรี เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ขอ-ไข่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี ดู ศิขร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ขอ-ไข่-รอ-เรือ.ศิขริน, ศิขรี ดู ศิขร.
ศิขัณฑ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ขอ-ไข่-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-เนน-ทอ-มน-โท-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง จุกหรือแกละ; หงอน. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศิขัณฑ์ น. จุกหรือแกละ; หงอน. (ส.).
ศิขา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ขอ-ไข่-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง จุก; หงอน; เปลวไฟ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สิข เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-ขอ-ไข่.ศิขา น. จุก; หงอน; เปลวไฟ. (ส.; ป. สิข).
ศิคาล เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง เป็นคำนาม หมายถึง หมาจิ้งจอก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศฺฤคาล เขียนว่า สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-รอ-รึ-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง และมาจากภาษาบาลี สิงฺคาล เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-งอ-งู-พิน-ทุ-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง.ศิคาล น. หมาจิ้งจอก. (ส. ศฺฤคาล; ป. สิงฺคาล).
ศิงขร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-งอ-งู-ขอ-ไข่-รอ-เรือ เป็นคำนาม หมายถึง ศิขร, ภูเขา. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศิขร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ขอ-ไข่-รอ-เรือ.ศิงขร น. ศิขร, ภูเขา. (ส. ศิขร).
ศิงขริน, ศิงขรี ศิงขริน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-งอ-งู-ขอ-ไข่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู ศิงขรี เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-งอ-งู-ขอ-ไข่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี เป็นคำนาม หมายถึง ศิขริน, ภูเขา. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มียอด.ศิงขริน, ศิงขรี น. ศิขริน, ภูเขา. ว. มียอด.
ศิตะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อะ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง คม. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศิตะ ว. คม. (ส.).
ศิถี เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ถอ-ถุง-สะ-หระ-อี เป็นคำนาม หมายถึง พวงดอกไม้, พวงมาลัย. ในวงเล็บ มาจากภาษาเบงกาลี .ศิถี น. พวงดอกไม้, พวงมาลัย. (บ.).
ศิพิระ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-พอ-พาน-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ เป็นคำนาม หมายถึง ค่ายทหาร. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศิวิร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ ว่า ปะรํา, ค่าย .ศิพิระ น. ค่ายทหาร. (ส. ศิวิร ว่า ปะรํา, ค่าย).
ศิร–, ศิระ ศิร– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ ศิระ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ [สิระ–] เป็นคำนาม หมายถึง หัว, ยอด, ด้านหน้า. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศิรสฺ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ-สอ-เสือ-พิน-ทุ และมาจากภาษาบาลี สิร เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ.ศิร–, ศิระ [สิระ–] น. หัว, ยอด, ด้านหน้า. (ส. ศิรสฺ; ป. สิร).
ศิรประภา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ-ปอ-ปลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง รัศมีที่พวยพุ่งขึ้นจากศีรษะของผู้ศักดิ์สิทธิ์และพระพุทธรูป. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สิรปภา เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ-ปอ-ปลา-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อา.ศิรประภา น. รัศมีที่พวยพุ่งขึ้นจากศีรษะของผู้ศักดิ์สิทธิ์และพระพุทธรูป. (ส.; ป. สิรปภา).
ศิราภรณ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-พอ-สำ-เพา-รอ-เรือ-นอ-เนน-ทัน-ทะ-คาด ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในราชาศัพท์ เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องประดับศีรษะ เช่น พระมาลา มงกุฎ กรอบหน้า ผ้าโพกหัว.ศิราภรณ์ (ราชา) น. เครื่องประดับศีรษะ เช่น พระมาลา มงกุฎ กรอบหน้า ผ้าโพกหัว.
ศิโรรัตน์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สะ-หระ-โอ-รอ-เรือ-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-นอ-หนู-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง เพชรประดับหัว. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศิโรรัตน์ น. เพชรประดับหัว. (ส.).
ศิโรเวฐน์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สะ-หระ-โอ-รอ-เรือ-สะ-หระ-เอ-วอ-แหวน-ถอ-ถาน-นอ-หนู-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง ผ้าโพก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศิโรเวษฺฏ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สะ-หระ-โอ-รอ-เรือ-สะ-หระ-เอ-วอ-แหวน-สอ-รือ-สี-พิน-ทุ-ตอ-ปะ-ตัก ศิโรเวษฺฏน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สะ-หระ-โอ-รอ-เรือ-สะ-หระ-เอ-วอ-แหวน-สอ-รือ-สี-พิน-ทุ-ตอ-ปะ-ตัก-นอ-หนู และมาจากภาษาบาลี สิโรเวน เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-สะ-หระ-โอ-รอ-เรือ-สะ-หระ-เอ-วอ-แหวน-ถอ-ถาน-นอ-หนู.ศิโรเวฐน์ น. ผ้าโพก. (ส. ศิโรเวษฺฏ, ศิโรเวษฺฏน; ป. สิโรเวน).
ศิรา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง นํ้า, ลําธาร, คลอง, ท่อ. (เขียน สิลา ก็มี).ศิรา น. นํ้า, ลําธาร, คลอง, ท่อ. (เขียน สิลา ก็มี).
ศิราภรณ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-พอ-สำ-เพา-รอ-เรือ-นอ-เนน-ทัน-ทะ-คาดดู ศิร–, ศิระ ศิร– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ ศิระ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ .ศิราภรณ์ ดู ศิร–, ศิระ.
ศิรามพุช เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-พอ-พาน-สะ-หระ-อุ-ชอ-ช้าง เป็นคำนาม หมายถึง หัว. ในวงเล็บ เทียบ ภาษาสันสกฤต ศิร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ = หัว + อมฺพุช เขียนว่า ออ-อ่าง-มอ-ม้า-พิน-ทุ-พอ-พาน-สะ-หระ-อุ-ชอ-ช้าง = บัว, รวมความ = หัวต่างดอกบัว .ศิรามพุช น. หัว. (เทียบ ส. ศิร = หัว + อมฺพุช = บัว, รวมความ = หัวต่างดอกบัว).
ศิโรรัตน์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สะ-หระ-โอ-รอ-เรือ-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-นอ-หนู-ทัน-ทะ-คาดดู ศิร–, ศิระ ศิร– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ ศิระ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ .ศิโรรัตน์ ดู ศิร–, ศิระ.
ศิโรราบ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สะ-หระ-โอ-รอ-เรือ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-บอ-ไบ-ไม้ เป็นคำกริยา หมายถึง กราบกราน, ยอมอ่อนน้อม.ศิโรราบ ก. กราบกราน, ยอมอ่อนน้อม.
ศิโรเวฐน์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สะ-หระ-โอ-รอ-เรือ-สะ-หระ-เอ-วอ-แหวน-ถอ-ถาน-นอ-หนู-ทัน-ทะ-คาดดู ศิร–, ศิระ ศิร– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ ศิระ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ .ศิโรเวฐน์ ดู ศิร–, ศิระ.
ศิลป–, ศิลป์ ๑, ศิลปะ ศิลป– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา ศิลป์ ความหมายที่ ๑ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-ทัน-ทะ-คาด ศิลปะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อะ [สินละปะ–, สิน, สินละปะ] เป็นคำนาม หมายถึง ฝีมือ, ฝีมือทางการช่าง, การทำให้วิจิตรพิศดาร, เช่น เขาทำดอกไม้ประดิดประดอยอย่างมีศิลปะ ผู้หญิงสมัยนี้มีศิลปะในการแต่งตัว รูปสลักวีนัสเป็นรูปศิลป์; การแสดงออกซึ่งอารมณ์สะเทือนใจให้ประจักษ์ด้วยสื่อต่าง ๆ อย่างเสียง เส้น สี ผิว รูปทรง เป็นต้น เช่น ศิลปะการดนตรี ศิลปะการวาดภาพ ศิลปะการละคร วิจิตรศิลป์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศิลฺป เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-พิน-ทุ-ปอ-ปลา และมาจากภาษาบาลี สิปฺป เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-ปอ-ปลา-พิน-ทุ-ปอ-ปลา ว่า มีฝีมืออย่างยอดเยี่ยม .ศิลป–, ศิลป์ ๑, ศิลปะ [สินละปะ–, สิน, สินละปะ] น. ฝีมือ, ฝีมือทางการช่าง, การทำให้วิจิตรพิศดาร, เช่น เขาทำดอกไม้ประดิดประดอยอย่างมีศิลปะ ผู้หญิงสมัยนี้มีศิลปะในการแต่งตัว รูปสลักวีนัสเป็นรูปศิลป์; การแสดงออกซึ่งอารมณ์สะเทือนใจให้ประจักษ์ด้วยสื่อต่าง ๆ อย่างเสียง เส้น สี ผิว รูปทรง เป็นต้น เช่น ศิลปะการดนตรี ศิลปะการวาดภาพ ศิลปะการละคร วิจิตรศิลป์. (ส. ศิลฺป; ป. สิปฺป ว่า มีฝีมืออย่างยอดเยี่ยม).
ศิลปกร, ศิลปการ ศิลปกร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-กอ-ไก่-รอ-เรือ ศิลปการ ความหมายที่ ๑ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ เป็นคำนาม หมายถึง นายช่างฝีมือ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศิลปกร, ศิลปการ ๑ น. นายช่างฝีมือ. (ส.).
ศิลปกรรม เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-กอ-ไก่-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง สิ่งที่เป็นศิลปะ, สิ่งที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นศิลปะ, เช่น งานประติมากรรม งานสถาปัตยกรรมจัดเป็นศิลปกรรม.ศิลปกรรม น. สิ่งที่เป็นศิลปะ, สิ่งที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นศิลปะ, เช่น งานประติมากรรม งานสถาปัตยกรรมจัดเป็นศิลปกรรม.
ศิลปการ ๒, ศิลปกิจ ศิลปการ ความหมายที่ ๒ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ ศิลปกิจ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อิ-จอ-จาน เป็นคำนาม หมายถึง การช่างฝีมือ.ศิลปการ ๒, ศิลปกิจ น. การช่างฝีมือ.
ศิลปธาตุ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-ทอ-ทง-สะ-หระ-อา-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อุ เป็นคำนาม หมายถึง สิ่งที่เป็นส่วนประกอบร่วมในการสร้างสรรค์งานศิลปะ โดยเฉพาะงานประเภททัศนศิลป์ ได้แก่ เส้น สี ผิว เป็นต้น.ศิลปธาตุ น. สิ่งที่เป็นส่วนประกอบร่วมในการสร้างสรรค์งานศิลปะ โดยเฉพาะงานประเภททัศนศิลป์ ได้แก่ เส้น สี ผิว เป็นต้น.
ศิลปลักษณะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-นอ-เนน-สะ-หระ-อะ เป็นคำนาม หมายถึง คุณสมบัติของงานศิลปกรรมที่ปรากฏให้เห็นได้จากรูปวัตถุที่ได้รับการสร้างสรรค์อย่างมีระเบียบ มีความกลมกลืนและความเรียบง่าย.ศิลปลักษณะ น. คุณสมบัติของงานศิลปกรรมที่ปรากฏให้เห็นได้จากรูปวัตถุที่ได้รับการสร้างสรรค์อย่างมีระเบียบ มีความกลมกลืนและความเรียบง่าย.
ศิลปวัตถุ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-วอ-แหวน-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-ถอ-ถุง-สะ-หระ-อุ เป็นคำนาม หมายถึง วัตถุอันเป็นผลงานสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ที่ประกอบด้วยศิลปลักษณะ เช่น ภาพเขียน รูปปั้น เครื่องลายคราม เครื่องถม; ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง สิ่งที่ทำด้วยฝีมืออย่างประณีตและมีคุณค่าสูงในทางศิลปะ.ศิลปวัตถุ น. วัตถุอันเป็นผลงานสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ที่ประกอบด้วยศิลปลักษณะ เช่น ภาพเขียน รูปปั้น เครื่องลายคราม เครื่องถม; (กฎ) น. สิ่งที่ทำด้วยฝีมืออย่างประณีตและมีคุณค่าสูงในทางศิลปะ.
ศิลปวิทยา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-วอ-แหวน-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทะ-หาน-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง ศิลปะและวิชาการ.ศิลปวิทยา น. ศิลปะและวิชาการ.
ศิลปศาสตร์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง วิชาต่าง ๆ ซึ่งไม่ใช่วิชาทางเทคนิค หรือทางอาชีพ เช่น ภาษาศาสตร์ ปรัชญา ประวัติศาสตร์; ตำราว่าด้วยวิชาความรู้ต่าง ๆ ในสมัยก่อนพุทธกาล มี ๑๘ ประการ ได้แก่ ๑. สูติ วิชาฟังเสียงคนเสียงสัตว์รู้ว่าดีหรือร้าย ๒. สัมมติ วิชาเข้าใจในกฎธรรมเนียม ๓. สังขยา วิชาคำนวณ ๔. โยคยันตร์ วิชาการช่าง ๕. นีติ วิชาแบบแผนราชการ ๖. วิเสสิกา วิชาการค้า ๗. คันธัพพา วิชานาฏศิลป์ ๘. คณิกา วิชากายบริหาร ๙. ธนุพเพธา วิชายิงธนู ๑๐. ปุราณา วิชาโบราณคดี ๑๑. ติกิจฉา วิชาการแพทย์ ๑๒. อิติหาสา วิชาตำนานหรือประวัติศาสตร์ ๑๓. โชติ วิชาดาราศาสตร์ ๑๔. มายา วิชาตำราพิชัยสงคราม ๑๕. ฉันทสา วิชาการประพันธ์ ๑๖. เกตุ วิชาพูด ๑๗. มันตา วิชาร่ายมนตร์ ๑๘. สัททา วิชาไวยากรณ์.ศิลปศาสตร์ น. วิชาต่าง ๆ ซึ่งไม่ใช่วิชาทางเทคนิค หรือทางอาชีพ เช่น ภาษาศาสตร์ ปรัชญา ประวัติศาสตร์; ตำราว่าด้วยวิชาความรู้ต่าง ๆ ในสมัยก่อนพุทธกาล มี ๑๘ ประการ ได้แก่ ๑. สูติ วิชาฟังเสียงคนเสียงสัตว์รู้ว่าดีหรือร้าย ๒. สัมมติ วิชาเข้าใจในกฎธรรมเนียม ๓. สังขยา วิชาคำนวณ ๔. โยคยันตร์ วิชาการช่าง ๕. นีติ วิชาแบบแผนราชการ ๖. วิเสสิกา วิชาการค้า ๗. คันธัพพา วิชานาฏศิลป์ ๘. คณิกา วิชากายบริหาร ๙. ธนุพเพธา วิชายิงธนู ๑๐. ปุราณา วิชาโบราณคดี ๑๑. ติกิจฉา วิชาการแพทย์ ๑๒. อิติหาสา วิชาตำนานหรือประวัติศาสตร์ ๑๓. โชติ วิชาดาราศาสตร์ ๑๔. มายา วิชาตำราพิชัยสงคราม ๑๕. ฉันทสา วิชาการประพันธ์ ๑๖. เกตุ วิชาพูด ๑๗. มันตา วิชาร่ายมนตร์ ๑๘. สัททา วิชาไวยากรณ์.
ศิลปศึกษา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อึ-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง วิชาว่าด้วยการเรียนการสอนศิลปะ เช่น ทฤษฎีศิลป์ ประวัติศาสตร์ศิลป์.ศิลปศึกษา น. วิชาว่าด้วยการเรียนการสอนศิลปะ เช่น ทฤษฎีศิลป์ ประวัติศาสตร์ศิลป์.
ศิลปหัตถกรรม เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-หอ-หีบ-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-ถอ-ถุง-กอ-ไก่-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง ศิลปวัตถุที่เป็นผลงานประเภทศิลปะประยุกต์ มีจุดประสงค์และความต้องการในด้านประโยชน์ใช้สอย เช่น งานโลหะ งานถักทอ งานเย็บปักถักร้อย.ศิลปหัตถกรรม น. ศิลปวัตถุที่เป็นผลงานประเภทศิลปะประยุกต์ มีจุดประสงค์และความต้องการในด้านประโยชน์ใช้สอย เช่น งานโลหะ งานถักทอ งานเย็บปักถักร้อย.
ศิลปะปฏิบัติ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อะ-ปอ-ปลา-ตอ-ปะ-ตัก-สะ-หระ-อิ-บอ-ไบ-ไม้-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ เป็นคำนาม หมายถึง วิชาว่าด้วยการปฏิบัติทางศิลปะ เช่น วาดเขียน ปั้นดิน จักสาน เย็บปักถักร้อย.ศิลปะปฏิบัติ น. วิชาว่าด้วยการปฏิบัติทางศิลปะ เช่น วาดเขียน ปั้นดิน จักสาน เย็บปักถักร้อย.
ศิลปะประยุกต์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อะ-ปอ-ปลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-ตอ-เต่า-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง กรรมวิธีในการนำทฤษฎีและหลักการทางศิลปะไปใช้ในภาคปฏิบัติ เพื่อพัฒนาศิลปะให้มีความงามหรือเป็นประโยชน์แก่สังคมยิ่งขึ้นเป็นต้น อย่างในการออกแบบเครื่องแต่งกาย.ศิลปะประยุกต์ น. กรรมวิธีในการนำทฤษฎีและหลักการทางศิลปะไปใช้ในภาคปฏิบัติ เพื่อพัฒนาศิลปะให้มีความงามหรือเป็นประโยชน์แก่สังคมยิ่งขึ้นเป็นต้น อย่างในการออกแบบเครื่องแต่งกาย.
ศิลปะพื้นบ้าน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อะ-พอ-พาน-สะ-หระ-อือ-ไม้-โท-นอ-หนู-บอ-ไบ-ไม้-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง ศิลปะแขนงต่าง ๆ เช่น วรรณกรรม สถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม นาฏศิลป์ หัตถกรรม ที่ชาวบ้านได้สร้างสรรค์ขึ้นจากการเรียนรู้และฝึกปรือในครอบครัวหรือในหมู่บ้าน เป็นงานสร้างสรรค์ของสังคมชาวบ้าน และได้พัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่องกันมาหลายชั่วคน.ศิลปะพื้นบ้าน น. ศิลปะแขนงต่าง ๆ เช่น วรรณกรรม สถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม นาฏศิลป์ หัตถกรรม ที่ชาวบ้านได้สร้างสรรค์ขึ้นจากการเรียนรู้และฝึกปรือในครอบครัวหรือในหมู่บ้าน เป็นงานสร้างสรรค์ของสังคมชาวบ้าน และได้พัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่องกันมาหลายชั่วคน.
ศิลปะสถาปัตยกรรม เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อะ-สอ-เสือ-ถอ-ถุง-สะ-หระ-อา-ปอ-ปลา-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-ยอ-ยัก-กอ-ไก่-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง ศิลปะลักษณะด้านสถาปัตยกรรมที่ปรากฏในอาคารที่ได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นอย่างวิจิตรงดงาม เช่น พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระปรางค์วัดอรุณราชวราราม.ศิลปะสถาปัตยกรรม น. ศิลปะลักษณะด้านสถาปัตยกรรมที่ปรากฏในอาคารที่ได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นอย่างวิจิตรงดงาม เช่น พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระปรางค์วัดอรุณราชวราราม.
ศิลปิน, ศิลปี ศิลปิน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู ศิลปี เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อี [สินละ–] เป็นคำนาม หมายถึง ผู้มีความสามารถแสดงออกซึ่งคุณสมบัติทางศิลปะในด้านจิตรกรรมประติมากรรมเป็นต้น และมีผลงานเป็นที่ยอมรับนับถือจากสถาบันทางศิลปะแห่งชาติ.ศิลปิน, ศิลปี [สินละ–] น. ผู้มีความสามารถแสดงออกซึ่งคุณสมบัติทางศิลปะในด้านจิตรกรรมประติมากรรมเป็นต้น และมีผลงานเป็นที่ยอมรับนับถือจากสถาบันทางศิลปะแห่งชาติ.
ศิลป์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-ทัน-ทะ-คาด ความหมายที่ [สิน] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำนาม หมายถึง ศร เช่น งามเนตรดังเนตรมฤคมาศ งามขนงวงวาดดังคันศิลป์. ในวงเล็บ มาจาก อิเหนา พระราชนิพนธ์ ในรัชกาลที่ ๒ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๔, พิศพักตร์ผ่องพักตร์ดั่งจันทร พิศขนงก่งงอนดั่งคันศิลป์. ในวงเล็บ มาจาก พระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ ในรัชกาลที่ ๑.ศิลป์ ๒ [สิน] (กลอน) น. ศร เช่น งามเนตรดังเนตรมฤคมาศ งามขนงวงวาดดังคันศิลป์. (อิเหนา), พิศพักตร์ผ่องพักตร์ดั่งจันทร พิศขนงก่งงอนดั่งคันศิลป์. (รามเกียรติ์ ร. ๑).
ศิลปิน, ศิลปี ศิลปิน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู ศิลปี เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อี ดู ศิลป–, ศิลป์ ๑, ศิลปะ ศิลป– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา ศิลป์ ความหมายที่ ๑ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-ทัน-ทะ-คาด ศิลปะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อะ .ศิลปิน, ศิลปี ดู ศิลป–, ศิลป์ ๑, ศิลปะ.
ศิลา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง หิน. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สิลา เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา.ศิลา น. หิน. (ส.; ป. สิลา).
ศิลาปากนก เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-นอ-หนู-กอ-ไก่ เป็นคำนาม หมายถึง หินเหล็กไฟที่ใช้ติดกับปลายเครื่องสับของปืนโบราณบางชนิดเพื่อสับแก๊ปปืนให้เกิดประกายไฟ, หินปากนก ก็เรียก.ศิลาปากนก น. หินเหล็กไฟที่ใช้ติดกับปลายเครื่องสับของปืนโบราณบางชนิดเพื่อสับแก๊ปปืนให้เกิดประกายไฟ, หินปากนก ก็เรียก.
ศิลาฤกษ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-รอ-รึ-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง แผ่นหินที่จารึกดวงชะตาของสถานที่ที่จะก่อสร้างแล้ววางตามฤกษ์.ศิลาฤกษ์ น. แผ่นหินที่จารึกดวงชะตาของสถานที่ที่จะก่อสร้างแล้ววางตามฤกษ์.
ศิลาแลง เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-แอ-ลอ-ลิง-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง หินชนิดหนึ่ง เมื่ออยู่ใต้ดินมีลักษณะอ่อน แต่ถูกลมแล้วแข็ง มีสีแดงอย่างอิฐเผา และเป็นรูพรุนเหมือนไม้เพรียงกิน, หินแลง ก็เรียก.ศิลาแลง น. หินชนิดหนึ่ง เมื่ออยู่ใต้ดินมีลักษณะอ่อน แต่ถูกลมแล้วแข็ง มีสีแดงอย่างอิฐเผา และเป็นรูพรุนเหมือนไม้เพรียงกิน, หินแลง ก็เรียก.
ศิลาอ่อน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ออ-อ่าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อขนมชนิดหนึ่ง ทำด้วยแป้งข้าวเหนียวนวดปนกับแป้งถั่วเขียวเล็กน้อย ผสมน้ำเชื่อมกวนในกะทิข้น ๆ ให้สุกจนเหนียว ตักใส่ถาด โรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่วซอยเป็นต้น.ศิลาอ่อน น. ชื่อขนมชนิดหนึ่ง ทำด้วยแป้งข้าวเหนียวนวดปนกับแป้งถั่วเขียวเล็กน้อย ผสมน้ำเชื่อมกวนในกะทิข้น ๆ ให้สุกจนเหนียว ตักใส่ถาด โรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่วซอยเป็นต้น.
ศิว–, ศิวะ ศิว– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-วอ-แหวน ศิวะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อะ [สิวะ–] เป็นคำนาม หมายถึง พระอิศวร; พระนิพพาน. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สิว เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-วอ-แหวน.ศิว–, ศิวะ [สิวะ–] น. พระอิศวร; พระนิพพาน. (ส.; ป. สิว).
ศิวโมกข์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-วอ-แหวน-สะ-หระ-โอ-มอ-ม้า-กอ-ไก่-ขอ-ไข่-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง พระนิพพาน.ศิวโมกข์ น. พระนิพพาน.
ศิวลึงค์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-วอ-แหวน-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อึ-งอ-งู-คอ-ควาย-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง รูปนิมิตแทนองค์พระศิวะหรือพระอิศวร ทําเป็นรูปอวัยวะเพศชาย ถือว่าเป็นวัตถุบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกไศวะ.ศิวลึงค์ น. รูปนิมิตแทนองค์พระศิวะหรือพระอิศวร ทําเป็นรูปอวัยวะเพศชาย ถือว่าเป็นวัตถุบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกไศวะ.
ศิวเวท เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-วอ-แหวน-สะ-หระ-เอ-วอ-แหวน-ทอ-ทะ-หาน เป็นคำนาม หมายถึง มนตร์สรรเสริญพระศิวะหรือพระอิศวร, ไสยศาสตร์.ศิวเวท น. มนตร์สรรเสริญพระศิวะหรือพระอิศวร, ไสยศาสตร์.
ศิวาลัย เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยัก เป็นคำนาม หมายถึง ที่ประทับของพระศิวะ; ที่อยู่อันเกษมสุข.ศิวาลัย น. ที่ประทับของพระศิวะ; ที่อยู่อันเกษมสุข.
ศิศีระ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ เป็นคำนาม หมายถึง ฤดูหนาว; ความหนาว, ความเยือกเย็น. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เย็น, หนาว, เย็นเยือก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศิศิร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ.ศิศีระ น. ฤดูหนาว; ความหนาว, ความเยือกเย็น. ว. เย็น, หนาว, เย็นเยือก. (ส. ศิศิร).
ศิศุ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ เป็นคำนาม หมายถึง เด็ก, เด็กแดง ๆ, เด็กเล็ก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศิศุ น. เด็ก, เด็กแดง ๆ, เด็กเล็ก. (ส.).
ศิษฎิ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ดอ-ชะ-ดา-สะ-หระ-อิ[สิดสะดิ] เป็นคำนาม หมายถึง การสอน. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศิษฺฏิ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-พิน-ทุ-ตอ-ปะ-ตัก-สะ-หระ-อิ ว่า การปกครอง, การลงโทษ .ศิษฎิ [สิดสะดิ] น. การสอน. (ส. ศิษฺฏิ ว่า การปกครอง, การลงโทษ).
ศิษฏ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ตอ-ปะ-ตัก-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ฝึกแล้ว, คงแก่เรียน, อบรมแล้ว, มีปัญญา, มีความรู้. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศิษฏ์ ว. ฝึกแล้ว, คงแก่เรียน, อบรมแล้ว, มีปัญญา, มีความรู้. (ส.).
ศิษย–, ศิษย์ ศิษย– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก ศิษย์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด [สิดสะยะ–, สิด] เป็นคำนาม หมายถึง ผู้ศึกษาวิชาความรู้จากครูหรืออาจารย์, คู่กับ ครู หรืออาจารย์, ผู้อยู่ในความคุ้มครองดูแลของอาจารย์ เช่น ศิษย์วัด, โดยปริยายหมายถึงผู้ที่ศึกษาหาความรู้จากตำราของผู้ใดผู้หนึ่งแล้วนับถือผู้นั้นเป็นเสมือนครูบาอาจารย์ของตน. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศิษย–, ศิษย์ [สิดสะยะ–, สิด] น. ผู้ศึกษาวิชาความรู้จากครูหรืออาจารย์, คู่กับ ครู หรืออาจารย์, ผู้อยู่ในความคุ้มครองดูแลของอาจารย์ เช่น ศิษย์วัด, โดยปริยายหมายถึงผู้ที่ศึกษาหาความรู้จากตำราของผู้ใดผู้หนึ่งแล้วนับถือผู้นั้นเป็นเสมือนครูบาอาจารย์ของตน. (ส.).
ศิษย์ก้นกุฏิ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-กอ-ไก่-ไม้-โท-นอ-หนู-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-ตอ-ปะ-ตัก-สะ-หระ-อิ[–กุติ] เป็นคำนาม หมายถึง ศิษย์คนโปรดที่อยู่รับใช้ใกล้ชิดอาจารย์ที่กุฏิตลอดเวลาและเป็นผู้ที่อาจารย์ไว้วางใจมาก, โดยปริยายหมายถึงศิษย์คนโปรดของครูบาอาจารย์เพราะเคยรับใช้ใกล้ชิดและเป็นที่ไว้วางใจของครูบาอาจารย์ มักจะเรียนเก่งด้วย.ศิษย์ก้นกุฏิ [–กุติ] น. ศิษย์คนโปรดที่อยู่รับใช้ใกล้ชิดอาจารย์ที่กุฏิตลอดเวลาและเป็นผู้ที่อาจารย์ไว้วางใจมาก, โดยปริยายหมายถึงศิษย์คนโปรดของครูบาอาจารย์เพราะเคยรับใช้ใกล้ชิดและเป็นที่ไว้วางใจของครูบาอาจารย์ มักจะเรียนเก่งด้วย.
ศิษย์เก่า เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-สะ-หระ-เอ-กอ-ไก่-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง ผู้ที่เคยศึกษาในสถาบันการศึกษาแห่งใดแห่งหนึ่ง เช่น งานชุมนุมศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย.ศิษย์เก่า น. ผู้ที่เคยศึกษาในสถาบันการศึกษาแห่งใดแห่งหนึ่ง เช่น งานชุมนุมศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย.
ศิษย์คิดล้างครู เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-คอ-ควาย-สะ-หระ-อิ-ดอ-เด็ก-ลอ-ลิง-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-งอ-งู-คอ-ควาย-รอ-เรือ-สะ-หระ-อู ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นสำนวน เป็นคำนาม หมายถึง ศิษย์เนรคุณที่มุ่งคิดจะทำลายล้างครูบาอาจารย์.ศิษย์คิดล้างครู (สำ) น. ศิษย์เนรคุณที่มุ่งคิดจะทำลายล้างครูบาอาจารย์.
ศิษย์นอกครู เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-นอ-หนู-ออ-อ่าง-กอ-ไก่-คอ-ควาย-รอ-เรือ-สะ-หระ-อู ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นสำนวน เป็นคำนาม หมายถึง ศิษย์ที่ประพฤติไม่ตรงตามคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์, โดยปริยายหมายถึงผู้ที่ประพฤติไม่ตรงตามแบบฉบับที่นิยมกันมา.ศิษย์นอกครู (สำ) น. ศิษย์ที่ประพฤติไม่ตรงตามคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์, โดยปริยายหมายถึงผู้ที่ประพฤติไม่ตรงตามแบบฉบับที่นิยมกันมา.
ศิษย์มีครู เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-มอ-ม้า-สะ-หระ-อี-คอ-ควาย-รอ-เรือ-สะ-หระ-อู ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นสำนวน เป็นคำนาม หมายถึง คนเก่งที่มีครูเก่ง.ศิษย์มีครู (สำ) น. คนเก่งที่มีครูเก่ง.
ศิษย์หัวแก้วหัวแหวน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-หอ-หีบ-ไม้-หัน-อา-กาด-วอ-แหวน-สะ-หระ-แอ-กอ-ไก่-ไม้-โท-วอ-แหวน-หอ-หีบ-ไม้-หัน-อา-กาด-วอ-แหวน-สะ-หระ-แอ-หอ-หีบ-วอ-แหวน-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง ศิษย์ที่ครูบาอาจารย์รักใคร่เอ็นดูมาก.ศิษย์หัวแก้วหัวแหวน น. ศิษย์ที่ครูบาอาจารย์รักใคร่เอ็นดูมาก.
ศิษย์เอก เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-สะ-หระ-เอ-ออ-อ่าง-กอ-ไก่ เป็นคำนาม หมายถึง ศิษย์ที่มีความรู้ความสามารถเป็นเลิศเหนือศิษย์ทั้งปวงหรือเหนือศิษย์แต่ละรุ่น.ศิษย์เอก น. ศิษย์ที่มีความรู้ความสามารถเป็นเลิศเหนือศิษย์ทั้งปวงหรือเหนือศิษย์แต่ละรุ่น.
ศิษยานุศิษย์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-สะ-หระ-อุ-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด[สิดสะยานุสิด] เป็นคำนาม หมายถึง ศิษย์น้อยใหญ่.ศิษยานุศิษย์ [สิดสะยานุสิด] น. ศิษย์น้อยใหญ่.
ศิษยานุศิษย์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-สะ-หระ-อุ-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาดดู ศิษย–, ศิษย์ ศิษย– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก ศิษย์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด .ศิษยานุศิษย์ ดู ศิษย–, ศิษย์.
ศีขร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ขอ-ไข่-รอ-เรือ[สีขอน] เป็นคำนาม หมายถึง ศิขร.ศีขร [สีขอน] น. ศิขร.
ศีขริน, ศีขรี ศีขริน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ขอ-ไข่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู ศีขรี เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ขอ-ไข่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี [สีขะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ศิขริน, ศิขรี.ศีขริน, ศีขรี [สีขะ–] น. ศิขริน, ศิขรี.
ศีขริน, ศีขรี ศีขริน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ขอ-ไข่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู ศีขรี เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ขอ-ไข่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี ดู ศีขร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ขอ-ไข่-รอ-เรือ.ศีขริน, ศีขรี ดู ศีขร.
ศีต– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ตอ-เต่า[สีตะ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง หนาว, เย็น, เย็นเยือก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สีต เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อี-ตอ-เต่า.ศีต– [สีตะ–] ว. หนาว, เย็น, เย็นเยือก. (ส.; ป. สีต).
ศีตกาล เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ตอ-เต่า-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง เป็นคำนาม หมายถึง ฤดูหนาว. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สีตกาล เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อี-ตอ-เต่า-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง.ศีตกาล น. ฤดูหนาว. (ส.; ป. สีตกาล).
ศีตละ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ตอ-เต่า-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อะ[สีตะละ] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง หนาว, เย็น, เยือกเย็น. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สีตล เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อี-ตอ-เต่า-ลอ-ลิง.ศีตละ [สีตะละ] ว. หนาว, เย็น, เยือกเย็น. (ส.; ป. สีตล).
ศีรษะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-รอ-เรือ-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อะ[สีสะ] เป็นคำนาม หมายถึง หัว (เป็นคําสุภาพที่ใช้แก่คน). ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สีส เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อี-สอ-เสือ.ศีรษะ [สีสะ] น. หัว (เป็นคําสุภาพที่ใช้แก่คน). (ส.; ป. สีส).
ศีรษะกระบือ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-รอ-เรือ-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อะ-กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-อือ-ออ-อ่าง เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์วิศาขา มี ๕ ดวง, ดาวคันฉัตร หรือ ดาววิสาขะ ก็เรียก.ศีรษะกระบือ น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์วิศาขา มี ๕ ดวง, ดาวคันฉัตร หรือ ดาววิสาขะ ก็เรียก.
ศีรษะโค เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-รอ-เรือ-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-โอ-คอ-ควาย เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์มฤคศิระ มี ๓ ดวง, ดาวหัวเต่า ดาวหัวเนื้อ ดาวศีรษะเนื้อ ดาวมฤคเศียร ดาวมฤคศิรัส ดาวมิคสิระ หรือ ดาวอาครหายณี ก็เรียก.ศีรษะโค น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์มฤคศิระ มี ๓ ดวง, ดาวหัวเต่า ดาวหัวเนื้อ ดาวศีรษะเนื้อ ดาวมฤคเศียร ดาวมฤคศิรัส ดาวมิคสิระ หรือ ดาวอาครหายณี ก็เรียก.
ศีรษะช้าง เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-รอ-เรือ-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อะ-ชอ-ช้าง-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์หัสตะ มี ๕ ดวง, ดาวศอกคู้ ดาวหัสตะ หรือ ดาวหัฏฐะ ก็เรียก.ศีรษะช้าง น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์หัสตะ มี ๕ ดวง, ดาวศอกคู้ ดาวหัสตะ หรือ ดาวหัฏฐะ ก็เรียก.
ศีรษะเนื้อ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-รอ-เรือ-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-นอ-หนู-สะ-หระ-อือ-ไม้-โท-ออ-อ่าง เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์มฤคศิระ มี ๓ ดวง, ดาวหัวเต่า ดาวหัวเนื้อ ดาวศีรษะโค ดาวมฤคเศียร ดาวมฤคศิรัส ดาวมิคสิระ หรือดาวอาครหายณี ก็เรียก.ศีรษะเนื้อ น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์มฤคศิระ มี ๓ ดวง, ดาวหัวเต่า ดาวหัวเนื้อ ดาวศีรษะโค ดาวมฤคเศียร ดาวมฤคศิรัส ดาวมิคสิระ หรือดาวอาครหายณี ก็เรียก.
ศีล เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ลอ-ลิง[สีน] เป็นคำนาม หมายถึง ข้อบัญญัติทางพระพุทธศาสนาที่กําหนดการปฏิบัติกายและวาจา เช่น ศีล ๕ ศีล ๘, การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย, เป็นธรรมข้อ ๑ ในทศพิธราชธรรม; ในวงเล็บ ดู ทศพิธราชธรรม เขียนว่า ทอ-ทะ-หาน-สอ-สา-ลา-พอ-พาน-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-ชอ-ช้าง-ทอ-ทง-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า และ ราชธรรม เขียนว่า รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-ชอ-ช้าง-ทอ-ทง-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า; พิธีกรรมบางอย่างทางศาสนา เช่น ศีลจุ่ม ศีลมหาสนิท. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศีล เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ลอ-ลิง ว่า ความประพฤติที่ดี และมาจากภาษาบาลี สีล เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อี-ลอ-ลิง.ศีล [สีน] น. ข้อบัญญัติทางพระพุทธศาสนาที่กําหนดการปฏิบัติกายและวาจา เช่น ศีล ๕ ศีล ๘, การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย, เป็นธรรมข้อ ๑ ในทศพิธราชธรรม; (ดู ทศพิธราชธรรม และ ราชธรรม); พิธีกรรมบางอย่างทางศาสนา เช่น ศีลจุ่ม ศีลมหาสนิท. (ส. ศีล ว่า ความประพฤติที่ดี; ป. สีล).
ศีลจุ่ม เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ลอ-ลิง-จอ-จาน-สะ-หระ-อุ-ไม้-เอก-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง ศีลล้างบาป.ศีลจุ่ม น. ศีลล้างบาป.
ศีลธรรม เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ลอ-ลิง-ทอ-ทง-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า[สีนทํา, สีนละทํา] เป็นคำนาม หมายถึง ความประพฤติที่ดีที่ชอบ, ศีลและธรรม, ธรรมในระดับศีล.ศีลธรรม [สีนทํา, สีนละทํา] น. ความประพฤติที่ดีที่ชอบ, ศีลและธรรม, ธรรมในระดับศีล.
ศีลมหาสนิท เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ลอ-ลิง-มอ-ม้า-หอ-หีบ-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-นอ-หนู-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทะ-หาน เป็นคำนาม หมายถึง พิธีดื่มเหล้าองุ่นแดงและกินขนมปังที่เสกแล้ว ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายแทนเลือดและเนื้อที่พระเยซูทรงเสียสละไถ่บาปให้มนุษย์และมีเลือดเนื้อเดียวกับพระองค์.ศีลมหาสนิท น. พิธีดื่มเหล้าองุ่นแดงและกินขนมปังที่เสกแล้ว ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายแทนเลือดและเนื้อที่พระเยซูทรงเสียสละไถ่บาปให้มนุษย์และมีเลือดเนื้อเดียวกับพระองค์.
ศีลล้างบาป เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ลอ-ลิง-ลอ-ลิง-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-งอ-งู-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-อา-ปอ-ปลา เป็นคำนาม หมายถึง พิธีจุ่มหัวหรือตัวลงในนํ้า หรือใช้นํ้าเสกพรมศีรษะเพื่อรับเข้าเป็นคริสต์ศาสนิกชน, พิธีจุ่ม ก็เรียก, เดิมเรียกว่า ศีลจุ่ม.ศีลล้างบาป น. พิธีจุ่มหัวหรือตัวลงในนํ้า หรือใช้นํ้าเสกพรมศีรษะเพื่อรับเข้าเป็นคริสต์ศาสนิกชน, พิธีจุ่ม ก็เรียก, เดิมเรียกว่า ศีลจุ่ม.
ศีลวัต เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ลอ-ลิง-วอ-แหวน-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า[สีละวัด] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีศีล, มีความประพฤติดี. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศีลวัต [สีละวัด] ว. มีศีล, มีความประพฤติดี. (ส.).
ศีลอด เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ลอ-ลิง-ออ-อ่าง-ดอ-เด็ก[สีน–] เป็นคำนาม หมายถึง การถือบวชของชาวมุสลิม ไม่ดื่มไม่กินอะไรเลยตลอดเวลากลางวันตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตกในเดือนเราะมะฎอน อันเป็นเดือนที่ ๙ แห่งปีในศาสนาอิสลามนับแบบจันทรคติ.ศีลอด [สีน–] น. การถือบวชของชาวมุสลิม ไม่ดื่มไม่กินอะไรเลยตลอดเวลากลางวันตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตกในเดือนเราะมะฎอน อันเป็นเดือนที่ ๙ แห่งปีในศาสนาอิสลามนับแบบจันทรคติ.
ศึก เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อึ-กอ-ไก่ เป็นคำนาม หมายถึง การใช้กําลังเข้าประหัตประหารกันอย่างรุนแรงระหว่างรัฐหรือประเทศตั้งแต่ ๒ รัฐหรือ ๒ ประเทศขึ้นไป เช่น ศึกชายแดน, การต่อสู้กันระหว่างบุคคลกับบุคคลหรือระหว่างพวกหนึ่งกับอีกพวกหนึ่ง เช่น ศึกล้างบาง ศึกล้างโคตร, โดยปริยายหมายถึงการเกิดขัดแย้งต่อสู้เป็นปฏิปักษ์ขึ้นในใจ เช่น ศึกในอก.ศึก น. การใช้กําลังเข้าประหัตประหารกันอย่างรุนแรงระหว่างรัฐหรือประเทศตั้งแต่ ๒ รัฐหรือ ๒ ประเทศขึ้นไป เช่น ศึกชายแดน, การต่อสู้กันระหว่างบุคคลกับบุคคลหรือระหว่างพวกหนึ่งกับอีกพวกหนึ่ง เช่น ศึกล้างบาง ศึกล้างโคตร, โดยปริยายหมายถึงการเกิดขัดแย้งต่อสู้เป็นปฏิปักษ์ขึ้นในใจ เช่น ศึกในอก.
ศึกชิงนาง เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อึ-กอ-ไก่-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อิ-งอ-งู-นอ-หนู-สะ-หระ-อา-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง การต่อสู้กันเพื่อให้ได้หญิงมา เช่น ศึกชิงนางระหว่างอิเหนากับท้าวกะหมังกุหนิง.ศึกชิงนาง น. การต่อสู้กันเพื่อให้ได้หญิงมา เช่น ศึกชิงนางระหว่างอิเหนากับท้าวกะหมังกุหนิง.
ศึกสงคราม เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อึ-กอ-ไก่-สอ-เสือ-งอ-งู-คอ-ควาย-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง สงคราม เช่น ประเทศเพื่อนบ้านเกิดศึกสงคราม.ศึกสงคราม น. สงคราม เช่น ประเทศเพื่อนบ้านเกิดศึกสงคราม.
ศึกเสือเหนือใต้ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อึ-กอ-ไก่-สะ-หระ-เอ-สอ-เสือ-สะ-หระ-อือ-ออ-อ่าง-สะ-หระ-เอ-หอ-หีบ-นอ-หนู-สะ-หระ-อือ-ออ-อ่าง-สะ-หระ-ไอ-ไม้-ม้วน-ตอ-เต่า-ไม้-โท ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นสำนวน เป็นคำนาม หมายถึง สงคราม เช่น ฝึกทหารไว้ให้พร้อมรบ ยามมีศึกเสือเหนือใต้จะได้ป้องกันบ้านเมือง.ศึกเสือเหนือใต้ (สำ) น. สงคราม เช่น ฝึกทหารไว้ให้พร้อมรบ ยามมีศึกเสือเหนือใต้จะได้ป้องกันบ้านเมือง.
ศึกหน้านาง เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อึ-กอ-ไก่-หอ-หีบ-นอ-หนู-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-สะ-หระ-อา-งอ-งู ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นสำนวน เป็นคำนาม หมายถึง การวิวาทหรือต่อสู้กันต่อหน้าหญิงที่ตนหมายปอง.ศึกหน้านาง (สำ) น. การวิวาทหรือต่อสู้กันต่อหน้าหญิงที่ตนหมายปอง.
ศึกษา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อึ-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง การเล่าเรียน ฝึกฝน และอบรม. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศิกฺษา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่-พิน-ทุ-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อา และมาจากภาษาบาลี สิกฺขา เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่-พิน-ทุ-ขอ-ไข่-สะ-หระ-อา.ศึกษา น. การเล่าเรียน ฝึกฝน และอบรม. (ส. ศิกฺษา; ป. สิกฺขา).
ศึกษาธิการ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อึ-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อา-ทอ-ทง-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ เป็นคำนาม หมายถึง เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ดูแลควบคุมเกี่ยวกับการศึกษาระดับอำเภอ จังหวัด และเขตการศึกษา เรียกว่า ศึกษาธิการอำเภอ ศึกษาธิการจังหวัด ศึกษาธิการเขต, ชื่อกระทรวงที่มีอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษา การศาสนา และการวัฒนธรรม.ศึกษาธิการ น. เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ดูแลควบคุมเกี่ยวกับการศึกษาระดับอำเภอ จังหวัด และเขตการศึกษา เรียกว่า ศึกษาธิการอำเภอ ศึกษาธิการจังหวัด ศึกษาธิการเขต, ชื่อกระทรวงที่มีอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษา การศาสนา และการวัฒนธรรม.
ศึกษานิเทศก์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อึ-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-สะ-หระ-อิ-สะ-หระ-เอ-ทอ-ทะ-หาน-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง ผู้ชี้แจงแนะนําทางการศึกษาแก่ครูอาจารย์ในโรงเรียนหรือวิทยาลัย.ศึกษานิเทศก์ น. ผู้ชี้แจงแนะนําทางการศึกษาแก่ครูอาจารย์ในโรงเรียนหรือวิทยาลัย.
ศุกร–, ศุกร์ ศุกร– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-รอ-เรือ ศุกร์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด [สุกกฺระ–, สุก] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อวันที่ ๖ ของสัปดาห์; ชื่อดาวเคราะห์ดวงที่ ๒ ในระบบสุริยะ อยู่ห่างดวงอาทิตย์ประมาณ ๑๐๘ ล้านกิโลเมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๑๒,๑๐๔ กิโลเมตร ไม่มีบริวาร เป็นดาวเคราะห์ที่มีบรรยากาศหนาทึบด้วยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และไอของกรดกํามะถัน ปรากฏสว่างที่สุดบนฟ้า, ถ้าเห็นทางตะวันตกในเวลาหัวคํ่า เรียกว่า ดาวประจําเมือง, ถ้าเห็นทางตะวันออกในเวลาใกล้รุ่ง เรียกว่า ดาวรุ่ง หรือ ดาวประกายพรึก. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สว่าง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศุกร–, ศุกร์ [สุกกฺระ–, สุก] น. ชื่อวันที่ ๖ ของสัปดาห์; ชื่อดาวเคราะห์ดวงที่ ๒ ในระบบสุริยะ อยู่ห่างดวงอาทิตย์ประมาณ ๑๐๘ ล้านกิโลเมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๑๒,๑๐๔ กิโลเมตร ไม่มีบริวาร เป็นดาวเคราะห์ที่มีบรรยากาศหนาทึบด้วยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และไอของกรดกํามะถัน ปรากฏสว่างที่สุดบนฟ้า, ถ้าเห็นทางตะวันตกในเวลาหัวคํ่า เรียกว่า ดาวประจําเมือง, ถ้าเห็นทางตะวันออกในเวลาใกล้รุ่ง เรียกว่า ดาวรุ่ง หรือ ดาวประกายพรึก. ว. สว่าง. (ส.).
ศุกรวรรณ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-รอ-เรือ-วอ-แหวน-รอ-เรือ-รอ-เรือ-นอ-เนน[สุกกฺระวัน] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีสีสด. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศุกฺรวรฺณ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-พิน-ทุ-รอ-เรือ-วอ-แหวน-รอ-เรือ-พิน-ทุ-นอ-เนน.ศุกรวรรณ [สุกกฺระวัน] ว. มีสีสด. (ส. ศุกฺรวรฺณ).
ศุกรวาร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-รอ-เรือ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ เป็นคำนาม หมายถึง วันศุกร์.ศุกรวาร น. วันศุกร์.
ศุกระ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในโหราศาสตร์ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อยาม ๑ ใน ๘ ยามในเวลากลางวัน. ในวงเล็บ ดู ยาม เขียนว่า ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า.ศุกระ (โหร) น. ชื่อยาม ๑ ใน ๘ ยามในเวลากลางวัน. (ดู ยาม).
ศุกล– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-ลอ-ลิง[สุกกะละ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สุกใส, สว่าง; ขาว, บริสุทธิ์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศุกฺล เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-พิน-ทุ-ลอ-ลิง ศุกฺร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-พิน-ทุ-รอ-เรือ และมาจากภาษาบาลี สุกฺก เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-พิน-ทุ-กอ-ไก่.ศุกล– [สุกกะละ–] ว. สุกใส, สว่าง; ขาว, บริสุทธิ์. (ส. ศุกฺล, ศุกฺร; ป. สุกฺก).
ศุกลปักษ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง เวลาข้างขึ้น. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศุกลปักษ์ น. เวลาข้างขึ้น. (ส.).
ศุกลัม เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-มอ-ม้า[–กฺลํา] เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องขาวแต่งศพ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ว่า สีขาว .ศุกลัม [–กฺลํา] น. เครื่องขาวแต่งศพ. (ส. ว่า สีขาว).
ศุกะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อะ เป็นคำนาม หมายถึง นกแก้ว, นกแขกเต้า. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศุกะ น. นกแก้ว, นกแขกเต้า. (ส.).
ศุโกร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-สะ-หระ-โอ-กอ-ไก่-รอ-เรือ[สุกโกฺร] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในโหราศาสตร์ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อยาม ๑ ใน ๘ ยามในเวลากลางคืน. ในวงเล็บ ดู ยาม เขียนว่า ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า.ศุโกร [สุกโกฺร] (โหร) น. ชื่อยาม ๑ ใน ๘ ยามในเวลากลางคืน. (ดู ยาม).
ศุจิ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-จอ-จาน-สะ-หระ-อิ เป็นคำนาม หมายถึง ความบริสุทธิ์, ความสะอาด. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สุจิ เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อุ-จอ-จาน-สะ-หระ-อิ.ศุจิ น. ความบริสุทธิ์, ความสะอาด. (ส.; ป. สุจิ).
ศุจิกรรม เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-จอ-จาน-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง การรักษาความบริสุทธิ์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สุจิกมฺม เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อุ-จอ-จาน-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่-มอ-ม้า-พิน-ทุ-มอ-ม้า.ศุจิกรรม น. การรักษาความบริสุทธิ์. (ส.; ป. สุจิกมฺม).
ศุทธะ, ศุทธิ ศุทธะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-ทอ-ทะ-หาน-ทอ-ทง-สะ-หระ-อะ ศุทธิ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-ทอ-ทะ-หาน-ทอ-ทง-สะ-หระ-อิ [สุดทะ, สุดทิ] เป็นคำนาม หมายถึง ความบริสุทธิ์, ความสะอาด. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สุทฺธ เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อุ-ทอ-ทะ-หาน-พิน-ทุ-ทอ-ทง สุทฺธิ เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อุ-ทอ-ทะ-หาน-พิน-ทุ-ทอ-ทง-สะ-หระ-อิ .ศุทธะ, ศุทธิ [สุดทะ, สุดทิ] น. ความบริสุทธิ์, ความสะอาด. (ส.; ป. สุทฺธ, สุทฺธิ).
ศุนะ, ศุนัก, ศุนิ ศุนะ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู-สะ-หระ-อะ ศุนัก เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่ ศุนิ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู-สะ-หระ-อิ เป็นคำนาม หมายถึง หมา. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สุนข เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู-ขอ-ไข่.ศุนะ, ศุนัก, ศุนิ น. หมา. (ส.; ป. สุนข).
ศุภ– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-พอ-สำ-เพา[สุบพะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ความงาม, ความดีงาม, ความเจริญ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สุภ เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อุ-พอ-สำ-เพา.ศุภ– [สุบพะ–] น. ความงาม, ความดีงาม, ความเจริญ. (ส.; ป. สุภ).
ศุภกร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-พอ-สำ-เพา-กอ-ไก่-รอ-เรือ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ที่ทําความเจริญ, ที่เป็นมงคล. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศุภกร ว. ที่ทําความเจริญ, ที่เป็นมงคล. (ส.).
ศุภเคราะห์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-เอ-คอ-ควาย-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ-หอ-หีบ-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง คราวมงคล, คราวดี, ทางโหราศาสตร์หมายเอาดาวพระเคราะห์ที่ให้คุณ คือ จันทร์ พุธ พฤหัสบดี ศุกร์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศุภเคราะห์ น. คราวมงคล, คราวดี, ทางโหราศาสตร์หมายเอาดาวพระเคราะห์ที่ให้คุณ คือ จันทร์ พุธ พฤหัสบดี ศุกร์. (ส.).
ศุภนิมิต เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-พอ-สำ-เพา-นอ-หนู-สะ-หระ-อิ-มอ-ม้า-สะ-หระ-อิ-ตอ-เต่า เป็นคำนาม หมายถึง นิมิตดี, ลางดี.ศุภนิมิต น. นิมิตดี, ลางดี.
ศุภมัสดุ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-พอ-สำ-เพา-มอ-ม้า-ไม้-หัน-อา-กาด-สอ-เสือ-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อุ[–มัดสะดุ] เป็นคำนาม หมายถึง ขอความดีความงามจงมี, เป็นคําใช้ขึ้นต้นลงท้ายในประกาศที่เป็นแบบหรือข้อความที่สําคัญ เช่น ประกาศพระบรมราชโองการ.ศุภมัสดุ [–มัดสะดุ] น. ขอความดีความงามจงมี, เป็นคําใช้ขึ้นต้นลงท้ายในประกาศที่เป็นแบบหรือข้อความที่สําคัญ เช่น ประกาศพระบรมราชโองการ.
ศุภมาตรา เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-พอ-สำ-เพา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อา-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง ตําแหน่งข้าราชการหัวเมืองตําแหน่งหนึ่ง ในปัจจุบันหมายถึงผู้ช่วยสรรพากรจังหวัด.ศุภมาตรา น. ตําแหน่งข้าราชการหัวเมืองตําแหน่งหนึ่ง ในปัจจุบันหมายถึงผู้ช่วยสรรพากรจังหวัด.
ศุภมาส เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-พอ-สำ-เพา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ เป็นคำนาม หมายถึง วันคืนเดือนปี. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศุภมาส เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-พอ-สำ-เพา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ ว่า เดือนดีงาม .ศุภมาส น. วันคืนเดือนปี. (ส. ศุภมาส ว่า เดือนดีงาม).
ศุภอักษร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-พอ-สำ-เพา-ออ-อ่าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-รอ-เรือ เป็นคำนาม หมายถึง สาส์นของเจ้าประเทศราช.ศุภอักษร น. สาส์นของเจ้าประเทศราช.
ศุภางค์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อา-งอ-งู-คอ-ควาย-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีรูปงาม. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศุภางค์ ว. มีรูปงาม. (ส.).
ศุภร– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-พอ-สำ-เพา-รอ-เรือ[สุบพฺระ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ส่องแสง, สว่าง; งาม, สดใส; ขาว, ผ่อง; บริสุทธิ์ไม่มีตําหนิ เช่น ศุภรทนต์ คือฟันงาม. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศุภฺร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-พอ-สำ-เพา-พิน-ทุ-รอ-เรือ.ศุภร– [สุบพฺระ–] ว. ส่องแสง, สว่าง; งาม, สดใส; ขาว, ผ่อง; บริสุทธิ์ไม่มีตําหนิ เช่น ศุภรทนต์ คือฟันงาม. (ส. ศุภฺร).
ศุภางค์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อา-งอ-งู-คอ-ควาย-ทัน-ทะ-คาดดู ศุภ– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-พอ-สำ-เพา.ศุภางค์ ดู ศุภ–.
ศุลก– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-ลอ-ลิง-กอ-ไก่[สุนละกะ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เนื่องด้วยการเก็บอากรจากสินค้าขาเข้าและขาออก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศุลฺก เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-ลอ-ลิง-พิน-ทุ-กอ-ไก่ และมาจากภาษาบาลี สุงฺก เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อุ-งอ-งู-พิน-ทุ-กอ-ไก่.ศุลก– [สุนละกะ–] ว. เนื่องด้วยการเก็บอากรจากสินค้าขาเข้าและขาออก. (ส. ศุลฺก; ป. สุงฺก).
ศุลกากร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-ลอ-ลิง-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-รอ-เรือ[สุนละกากอน] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง อากรที่เรียกเก็บจากสินค้าเข้าและสินค้าออก ได้แก่ อากรขาเข้าและอากรขาออก.ศุลกากร [สุนละกากอน] (กฎ) น. อากรที่เรียกเก็บจากสินค้าเข้าและสินค้าออก ได้แก่ อากรขาเข้าและอากรขาออก.
ศุลการักษ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-ลอ-ลิง-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-ทัน-ทะ-คาด[สุนละการัก] เป็นคำนาม หมายถึง เจ้าหน้าที่รักษาศุลกากร.ศุลการักษ์ [สุนละการัก] น. เจ้าหน้าที่รักษาศุลกากร.
ศุลกากร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-ลอ-ลิง-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-รอ-เรือดู ศุลก– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-ลอ-ลิง-กอ-ไก่.ศุลกากร ดู ศุลก–.
ศุลการักษ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-ลอ-ลิง-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-ทัน-ทะ-คาดดู ศุลก– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-ลอ-ลิง-กอ-ไก่.ศุลการักษ์ ดู ศุลก–.
ศุลี เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี เป็นคำนาม หมายถึง พระอิศวร, ศูลิน ก็เรียก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศุลี น. พระอิศวร, ศูลิน ก็เรียก. (ส.).
ศุษิระ, ศุษิร ศุษิระ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ ศุษิร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ [สุสิน] เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องดนตรีที่ใช้เป่ามีขลุ่ย ปี่ เป็นต้น, เขียนเป็น สุษิร ก็มี. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศุษิร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อุ-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ สุษิร เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อุ-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ .ศุษิระ, ศุษิร [สุสิน] น. เครื่องดนตรีที่ใช้เป่ามีขลุ่ย ปี่ เป็นต้น, เขียนเป็น สุษิร ก็มี. (ส. ศุษิร, สุษิร).
ศูกร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-กอ-ไก่-รอ-เรือ[–กอน] เป็นคำนาม หมายถึง หมู. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สูกร เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อู-กอ-ไก่-รอ-เรือ.ศูกร [–กอน] น. หมู. (ส.; ป. สูกร).
ศูทร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-ทอ-ทะ-หาน-รอ-เรือ[สูด] เป็นคำนาม หมายถึง วรรณะที่ ๔ ของสังคมฮินดู. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สุทฺท เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อุ-ทอ-ทะ-หาน-พิน-ทุ-ทอ-ทะ-หาน.ศูทร [สูด] น. วรรณะที่ ๔ ของสังคมฮินดู. (ส.; ป. สุทฺท).
ศูนย–, ศูนย์ ศูนย– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ยอ-ยัก ศูนย์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด [สูนยะ–, สูน] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ว่างเปล่า. เป็นคำกริยา หมายถึง หายสิ้นไป. เป็นคำนาม หมายถึง ตัวเลข ๐; จุดกลาง, ใจกลาง, แหล่งกลาง, แหล่งรวม, เช่น ศูนย์วัฒนธรรม ศูนย์หนังสือ ศูนย์รวมข่าว. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศูนฺย เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-พิน-ทุ-ยอ-ยัก และมาจากภาษาบาลี สุญฺ เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อุ-ยอ-หยิง-พิน-ทุ-ยอ-หยิง.ศูนย–, ศูนย์ [สูนยะ–, สูน] ว. ว่างเปล่า. ก. หายสิ้นไป. น. ตัวเลข ๐; จุดกลาง, ใจกลาง, แหล่งกลาง, แหล่งรวม, เช่น ศูนย์วัฒนธรรม ศูนย์หนังสือ ศูนย์รวมข่าว. (ส. ศูนฺย; ป. สุญฺ).
ศูนย์กลาง เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-กอ-ไก่-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง แหล่งกลาง เช่น กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางการค้าขาย, ศูนย์ ก็ว่า.ศูนย์กลาง น. แหล่งกลาง เช่น กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางการค้าขาย, ศูนย์ ก็ว่า.
ศูนย์การค้า เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-คอ-ควาย-ไม้-โท-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง แหล่งรวมสินค้าเพื่อจำหน่าย มีร้านขายสินค้านานาชนิด มีสิ่งอํานวยความสะดวกต่าง ๆ ให้แก่ผู้มาซื้อสินค้า เช่น ที่จอดรถ ร้านอาหาร.ศูนย์การค้า น. แหล่งรวมสินค้าเพื่อจำหน่าย มีร้านขายสินค้านานาชนิด มีสิ่งอํานวยความสะดวกต่าง ๆ ให้แก่ผู้มาซื้อสินค้า เช่น ที่จอดรถ ร้านอาหาร.
ศูนย์ชุมชน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อุ-มอ-ม้า-ชอ-ช้าง-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง หน่วยงานถาวรที่เป็นศูนย์กลางในการวางแผนปฏิบัติงานและประสานงานบริการของหน่วยราชการและองค์การต่าง ๆ โดยประชาชนในท้องถิ่นนั้นจะเลือกคณะกรรมการขึ้นทําหน้าที่กําหนดนโยบายและบริหารงาน.ศูนย์ชุมชน น. หน่วยงานถาวรที่เป็นศูนย์กลางในการวางแผนปฏิบัติงานและประสานงานบริการของหน่วยราชการและองค์การต่าง ๆ โดยประชาชนในท้องถิ่นนั้นจะเลือกคณะกรรมการขึ้นทําหน้าที่กําหนดนโยบายและบริหารงาน.
ศูนย์ถ่วง เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-ถอ-ถุง-ไม้-เอก-วอ-แหวน-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง จุดซึ่งถือว่าแนวน้ำหนักของวัตถุผ่านลงที่จุดนั้น เช่น ตุ๊กตาล้มลุกมีศูนย์ถ่วงอยู่ต่ำ.ศูนย์ถ่วง น. จุดซึ่งถือว่าแนวน้ำหนักของวัตถุผ่านลงที่จุดนั้น เช่น ตุ๊กตาล้มลุกมีศูนย์ถ่วงอยู่ต่ำ.
ศูนย์บริการสาธารณสุข เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-บอ-ไบ-ไม้-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-ทอ-ทง-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-นอ-เนน-สอ-เสือ-สะ-หระ-อุ-ขอ-ไข่ เป็นคำนาม หมายถึง สถานีอนามัยในเขตเมือง ได้แก่ เขตเทศบาล สุขาภิบาล กรุงเทพมหานคร และที่ตั้งเป็นเมืองพิเศษ.ศูนย์บริการสาธารณสุข น. สถานีอนามัยในเขตเมือง ได้แก่ เขตเทศบาล สุขาภิบาล กรุงเทพมหานคร และที่ตั้งเป็นเมืองพิเศษ.
ศูนย์พ่าห์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-พอ-พาน-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา-หอ-หีบ-ทัน-ทะ-คาด ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในโหราศาสตร์ เป็นคำนาม หมายถึง พระเคราะห์ที่นําหน้าลัคนา อยู่ในราศี ๒.ศูนย์พ่าห์ (โหร) น. พระเคราะห์ที่นําหน้าลัคนา อยู่ในราศี ๒.
ศูนยภาพ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ยอ-ยัก-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อา-พอ-พาน เป็นคำนาม หมายถึง ความไม่มีอะไร, ความว่างเปล่า. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศูนฺยภาว เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-พิน-ทุ-ยอ-ยัก-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน.ศูนยภาพ น. ความไม่มีอะไร, ความว่างเปล่า. (ส. ศูนฺยภาว).
ศูนย์เยาวชน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-สะ-หระ-เอ-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-ชอ-ช้าง-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง สถานที่ซึ่งจัดไว้ให้เยาวชนไปประกอบกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เช่น ศูนย์เยาวชนไทย–ญี่ปุ่น ดินแดง.ศูนย์เยาวชน น. สถานที่ซึ่งจัดไว้ให้เยาวชนไปประกอบกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เช่น ศูนย์เยาวชนไทย–ญี่ปุ่น ดินแดง.
ศูนยวาท เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ยอ-ยัก-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-ทอ-ทะ-หาน เป็นคำนาม หมายถึง ปรัชญาฝ่ายมหายานที่ถือว่า (๑) โลกเป็นศูนยะ คือ ไม่ใช่สิ่งจริงแท้ถาวร (๒) นิพพานก็เป็นศูนยะ คือ ไม่มีวาทะหรือลัทธิใด ๆ สามารถบรรยายได้ถูกต้องครบถ้วน, มาธยมิกะ ก็เรียก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศูนยวาท น. ปรัชญาฝ่ายมหายานที่ถือว่า (๑) โลกเป็นศูนยะ คือ ไม่ใช่สิ่งจริงแท้ถาวร (๒) นิพพานก็เป็นศูนยะ คือ ไม่มีวาทะหรือลัทธิใด ๆ สามารถบรรยายได้ถูกต้องครบถ้วน, มาธยมิกะ ก็เรียก. (ส.).
ศูนย์สัมบูรณ์ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-สอ-เสือ-ไม้-หัน-อา-กาด-มอ-ม้า-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-อู-รอ-เรือ-นอ-เนน-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง อุณหภูมิที่ตํ่าสุดตามทฤษฎี คือ อุณหภูมิศูนย์องศาเคลวิน (๐°K) หรือ –๒๗๓.๑๕°ซ. หรือ –๕๙.๖๗°ฟ.ศูนย์สัมบูรณ์ น. อุณหภูมิที่ตํ่าสุดตามทฤษฎี คือ อุณหภูมิศูนย์องศาเคลวิน (๐°K) หรือ –๒๗๓.๑๕°ซ. หรือ –๕๙.๖๗°ฟ.
ศูนย์สูตร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-สอ-เสือ-สะ-หระ-อู-ตอ-เต่า-รอ-เรือ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเส้นสมมุติที่ลากรอบโลก แบ่งโลกออกเป็น ๒ ซีก คือ ซีกโลกเหนือกับซีกโลกใต้ จุดทุกจุดบนเส้นศูนย์สูตรอยู่ห่างจากขั้วโลกทั้ง ๒ เท่ากัน.ศูนย์สูตร น. ชื่อเส้นสมมุติที่ลากรอบโลก แบ่งโลกออกเป็น ๒ ซีก คือ ซีกโลกเหนือกับซีกโลกใต้ จุดทุกจุดบนเส้นศูนย์สูตรอยู่ห่างจากขั้วโลกทั้ง ๒ เท่ากัน.
ศูนย์ไส้ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-สอ-เสือ-ไม้-โท ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ เป็นคำนาม หมายถึง จุดศูนย์กลาง เช่น คนมีศูนย์ไส้อยู่ที่สะดือ.ศูนย์ไส้ (โบ) น. จุดศูนย์กลาง เช่น คนมีศูนย์ไส้อยู่ที่สะดือ.
ศูนย์หน้า เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด-หอ-หีบ-นอ-หนู-ไม้-โท-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งกลางของแถวหน้าในการเล่นฟุตบอลทำหน้าที่ยิงประตูเป็นสำคัญ บางครั้งอาจลงมาช่วยเซนเตอร์ฮาล์ฟซึ่งอยู่ในตำแหน่งกลางของแถวกลางและพาลูกขึ้นไปในแดนฝ่ายตรงข้ามด้วย.ศูนย์หน้า น. ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งกลางของแถวหน้าในการเล่นฟุตบอลทำหน้าที่ยิงประตูเป็นสำคัญ บางครั้งอาจลงมาช่วยเซนเตอร์ฮาล์ฟซึ่งอยู่ในตำแหน่งกลางของแถวกลางและพาลูกขึ้นไปในแดนฝ่ายตรงข้ามด้วย.
ศูละ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อะ เป็นคำนาม หมายถึง หลาว, เหล็กแหลม. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี สูล เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อู-ลอ-ลิง.ศูละ น. หลาว, เหล็กแหลม. (ส.; ป. สูล).
ศูลิน เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง พระอิศวร, ศุลี ก็เรียก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ศูลิน น. พระอิศวร, ศุลี ก็เรียก. (ส.).
เศรณี เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-นอ-เนน-สะ-หระ-อี[เสนี] เป็นคำนาม หมายถึง แถว, แนว; หมวด, หมู่, พวก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .เศรณี [เสนี] น. แถว, แนว; หมวด, หมู่, พวก. (ส.).
เศรษฐ–, เศรษฐ์ เศรษฐ– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สอ-รือ-สี-ถอ-ถาน เศรษฐ์ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สอ-รือ-สี-ถอ-ถาน-ทัน-ทะ-คาด [เสดถะ–, เสด] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ดีเลิศ, ดีที่สุด, ยอดเยี่ยม, ประเสริฐ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต เศฺรษฺ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-รอ-เรือ-สอ-รือ-สี-พิน-ทุ-ถอ-ถาน และมาจากภาษาบาลี เสฏฺ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-เสือ-ตอ-ปะ-ตัก-พิน-ทุ-ถอ-ถาน.เศรษฐ–, เศรษฐ์ [เสดถะ–, เสด] ว. ดีเลิศ, ดีที่สุด, ยอดเยี่ยม, ประเสริฐ. (ส. เศฺรษฺ; ป. เสฏฺ).
เศรษฐกิจ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สอ-รือ-สี-ถอ-ถาน-กอ-ไก่-สะ-หระ-อิ-จอ-จาน[เสดถะกิด] เป็นคำนาม หมายถึง งานอันเกี่ยวกับการผลิต การจําหน่ายจ่ายแจก และการบริโภคใช้สอยสิ่งต่าง ๆ ของชุมชน. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต เศฺรษฺ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-รอ-เรือ-สอ-รือ-สี-พิน-ทุ-ถอ-ถาน + กิจฺจ เขียนว่า กอ-ไก่-สะ-หระ-อิ-จอ-จาน-พิน-ทุ-จอ-จาน .เศรษฐกิจ [เสดถะกิด] น. งานอันเกี่ยวกับการผลิต การจําหน่ายจ่ายแจก และการบริโภคใช้สอยสิ่งต่าง ๆ ของชุมชน. (ส. เศฺรษฺ + กิจฺจ).
เศรษฐศาสตร์ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สอ-รือ-สี-ถอ-ถาน-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด[เสดถะสาด] เป็นคำนาม หมายถึง วิชาว่าด้วยการผลิต การจําหน่ายจ่ายแจก และการบริโภคใช้สอยสิ่งต่าง ๆ ของชุมชนมี ๒ สาขา คือ เศรษฐศาสตร์จุลภาค ได้แก่ เศรษฐศาสตร์ภาคที่ศึกษาปัญหาเศรษฐกิจส่วนเอกชน หรือ ปัญหาการหาตลาดเป็นต้น และ เศรษฐศาสตร์มหัพภาค ได้แก่ เศรษฐศาสตร์ภาคที่ศึกษาปัญหาเศรษฐกิจของประเทศโดยส่วนรวม เช่น ปัญหาเรื่องรายได้ของประชาชาติ การออมทรัพย์ของประชากร ปัญหาการลงทุน.เศรษฐศาสตร์ [เสดถะสาด] น. วิชาว่าด้วยการผลิต การจําหน่ายจ่ายแจก และการบริโภคใช้สอยสิ่งต่าง ๆ ของชุมชนมี ๒ สาขา คือ เศรษฐศาสตร์จุลภาค ได้แก่ เศรษฐศาสตร์ภาคที่ศึกษาปัญหาเศรษฐกิจส่วนเอกชน หรือ ปัญหาการหาตลาดเป็นต้น และ เศรษฐศาสตร์มหัพภาค ได้แก่ เศรษฐศาสตร์ภาคที่ศึกษาปัญหาเศรษฐกิจของประเทศโดยส่วนรวม เช่น ปัญหาเรื่องรายได้ของประชาชาติ การออมทรัพย์ของประชากร ปัญหาการลงทุน.
เศรษฐี เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สอ-รือ-สี-ถอ-ถาน-สะ-หระ-อี[เสดถี] เป็นคำนาม หมายถึง คนมั่งมี; ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์ธนิษฐา มี ๔ ดวง, ดาวไซ ดาวศรวิษฐา หรือ ดาวธนิษฐะ ก็เรียก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ว่า ประมุขพ่อค้า และมาจากภาษาบาลี เสฏฺิ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-เสือ-ตอ-ปะ-ตัก-พิน-ทุ-ถอ-ถาน-สะ-หระ-อิ.เศรษฐี [เสดถี] น. คนมั่งมี; ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์ธนิษฐา มี ๔ ดวง, ดาวไซ ดาวศรวิษฐา หรือ ดาวธนิษฐะ ก็เรียก. (ส. ว่า ประมุขพ่อค้า; ป. เสฏฺิ).
เศร้า เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-ไม้-โท-สะ-หระ-อา[เส้า] เป็นคำกริยา หมายถึง สลด, ระทด, หมอง, ไม่เบิกบาน, เป็นทุกข์, เหี่ยวแห้ง, เช่น หน้าเศร้า ใจเศร้า ตามีแววเศร้า เรื่องเศร้า.เศร้า [เส้า] ก. สลด, ระทด, หมอง, ไม่เบิกบาน, เป็นทุกข์, เหี่ยวแห้ง, เช่น หน้าเศร้า ใจเศร้า ตามีแววเศร้า เรื่องเศร้า.
เศร้าใจ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-ไอ-ไม้-ม้วน-จอ-จาน เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีความรู้สึกสลดหดหู่ใจ เช่น เห็นป่าถูกบุกรุกทำลายแล้วเศร้าใจ.เศร้าใจ ว. มีความรู้สึกสลดหดหู่ใจ เช่น เห็นป่าถูกบุกรุกทำลายแล้วเศร้าใจ.
เศร้าโศก เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีความทุกข์โศกเสียใจอาลัยอาวรณ์มากเช่น พ่อตายทำให้เขาเศร้าโศกเสียใจมาก, โศกเศร้า ก็ว่า.เศร้าโศก ว. มีความทุกข์โศกเสียใจอาลัยอาวรณ์มากเช่น พ่อตายทำให้เขาเศร้าโศกเสียใจมาก, โศกเศร้า ก็ว่า.
เศร้าสร้อย เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-รอ-เรือ-ไม้-โท-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีความรู้สึกสะเทือนใจชวนให้โศกเศร้าเพราะคิดถึงหรือผิดหวัง เช่น เขาสอบไม่ผ่านเลยเดินกลับบ้านอย่างเศร้าสร้อย ลูกนั่งเศร้าสร้อยคอยแม่กลับบ้าน, สร้อยเศร้า ก็ว่า.เศร้าสร้อย ว. มีความรู้สึกสะเทือนใจชวนให้โศกเศร้าเพราะคิดถึงหรือผิดหวัง เช่น เขาสอบไม่ผ่านเลยเดินกลับบ้านอย่างเศร้าสร้อย ลูกนั่งเศร้าสร้อยคอยแม่กลับบ้าน, สร้อยเศร้า ก็ว่า.
เศร้าสลด เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ลอ-ลิง-ดอ-เด็ก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีความรู้สึกรันทดใจ เช่น อุบัติเหตุตายหมู่ ทำให้ผู้พบเห็นเศร้าสลด.เศร้าสลด ว. มีความรู้สึกรันทดใจ เช่น อุบัติเหตุตายหมู่ ทำให้ผู้พบเห็นเศร้าสลด.
เศร้าหมอง เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-หอ-หีบ-มอ-ม้า-ออ-อ่าง-งอ-งู เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง หมองมัว, ไม่ผ่องใส, เช่น ผิวพรรณเศร้าหมอง หน้าตาเศร้าหมอง เครื่องนุ่งห่มเศร้าหมอง.เศร้าหมอง ว. หมองมัว, ไม่ผ่องใส, เช่น ผิวพรรณเศร้าหมอง หน้าตาเศร้าหมอง เครื่องนุ่งห่มเศร้าหมอง.
เศลษ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-ลอ-ลิง-สอ-รือ-สี[สะเหฺลด] เป็นคำนาม หมายถึง การติด, การเกาะ, การเกี่ยวข้อง, การพาดพิง; การกอดรัด. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .เศลษ [สะเหฺลด] น. การติด, การเกาะ, การเกี่ยวข้อง, การพาดพิง; การกอดรัด. (ส.).
เศวดงค์ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ดอ-เด็ก-งอ-งู-คอ-ควาย-ทัน-ทะ-คาด[สะเหฺวดง] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีตัวขาว. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต เศฺวต เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-วอ-แหวน-ตอ-เต่า + องฺค เขียนว่า ออ-อ่าง-งอ-งู-พิน-ทุ-คอ-ควาย .เศวดงค์ [สะเหฺวดง] ว. มีตัวขาว. (ส. เศฺวต + องฺค).
เศวดีภ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อี-พอ-สำ-เพา[สะเหฺวดีบ] เป็นคำนาม หมายถึง ช้างเผือก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต เศฺวเตภ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-วอ-แหวน-สะ-หระ-เอ-ตอ-เต่า-พอ-สำ-เพา.เศวดีภ [สะเหฺวดีบ] น. ช้างเผือก. (ส. เศฺวเตภ).
เศวต, เศวต– เศวต เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า เศวต– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า [สะเหฺวด, สะเหฺวดตะ–] เป็นคำนาม หมายถึง สีขาว. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี เสต เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-เสือ-ตอ-เต่า.เศวต, เศวต– [สะเหฺวด, สะเหฺวดตะ–] น. สีขาว. (ส.; ป. เสต).
เศวตกุญชร เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-ยอ-หยิง-ชอ-ช้าง-รอ-เรือ[สะเหฺวดกุนชอน] เป็นคำนาม หมายถึง ช้างเผือก.เศวตกุญชร [สะเหฺวดกุนชอน] น. ช้างเผือก.
เศวตงค์ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า-งอ-งู-คอ-ควาย-ทัน-ทะ-คาด[สะเหฺวตง] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีตัวขาว. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต เศฺวตางฺค เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-วอ-แหวน-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อา-งอ-งู-พิน-ทุ-คอ-ควาย.เศวตงค์ [สะเหฺวตง] ว. มีตัวขาว. (ส. เศฺวตางฺค).
เศวตฉัตร เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า-ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-รอ-เรือ[สะเหฺวดตะฉัด] เป็นคำนาม หมายถึง ฉัตรขาว ใช้เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นพระเจ้าแผ่นดินเป็นต้น. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต เศฺวตจฺฉตฺร เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-วอ-แหวน-ตอ-เต่า-จอ-จาน-พิน-ทุ-ฉอ-ฉิ่ง-ตอ-เต่า-พิน-ทุ-รอ-เรือ ว่า ฉัตรขาว .เศวตฉัตร [สะเหฺวดตะฉัด] น. ฉัตรขาว ใช้เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นพระเจ้าแผ่นดินเป็นต้น. (ส. เศฺวตจฺฉตฺร ว่า ฉัตรขาว).
เศวตัมพร, เศวตามพร เศวตัมพร เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า-ไม้-หัน-อา-กาด-มอ-ม้า-พอ-พาน-รอ-เรือ เศวตามพร เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-พอ-พาน-รอ-เรือ [สะเหฺวตําพอน, –ตามพอน] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อนิกายในศาสนาเชนหรือเดียรถีย์นิครนถ์ซึ่งประพฤติตนเป็นผู้นุ่งห่มผ้าขาว, คู่กับ นิกายทิคัมพร. [ส. เศฺวต (ขาว) + อมฺพร (เครื่องนุ่งห่ม)].เศวตัมพร, เศวตามพร [สะเหฺวตําพอน, –ตามพอน] น. ชื่อนิกายในศาสนาเชนหรือเดียรถีย์นิครนถ์ซึ่งประพฤติตนเป็นผู้นุ่งห่มผ้าขาว, คู่กับ นิกายทิคัมพร. [ส. เศฺวต (ขาว) + อมฺพร (เครื่องนุ่งห่ม)].
เศวติภ, เศวตีภ, เศวเตภ เศวติภ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ-พอ-สำ-เพา เศวตีภ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อี-พอ-สำ-เพา เศวเตภ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-สะ-หระ-เอ-ตอ-เต่า-พอ-สำ-เพา [สะเหฺวติบ, –ตีบ, –เตบ] เป็นคำนาม หมายถึง ช้างเผือก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต เศฺวเตภ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-วอ-แหวน-สะ-หระ-เอ-ตอ-เต่า-พอ-สำ-เพา.เศวติภ, เศวตีภ, เศวเตภ [สะเหฺวติบ, –ตีบ, –เตบ] น. ช้างเผือก. (ส. เศฺวเตภ).
เศวตงค์ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า-งอ-งู-คอ-ควาย-ทัน-ทะ-คาดดู เศวต, เศวต– เศวต เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า เศวต– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า .เศวตงค์ ดู เศวต, เศวต–.
เศวตร เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า-รอ-เรือ[สะเหฺวด] ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ เป็นคำนาม หมายถึง สีขาว. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต เศฺวตร เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-วอ-แหวน-ตอ-เต่า-รอ-เรือ ว่า โรคเรื้อนนํ้าเต้า และมาจากภาษาบาลี เสต เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-เสือ-ตอ-เต่า.เศวตร [สะเหฺวด] (โบ) น. สีขาว. (ส. เศฺวตร ว่า โรคเรื้อนนํ้าเต้า; ป. เสต).
เศวตัมพร, เศวตามพร เศวตัมพร เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า-ไม้-หัน-อา-กาด-มอ-ม้า-พอ-พาน-รอ-เรือ เศวตามพร เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-พอ-พาน-รอ-เรือ ดู เศวต, เศวต– เศวต เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า เศวต– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า .เศวตัมพร, เศวตามพร ดู เศวต, เศวต–.
เศวติภ, เศวตีภ, เศวเตภ เศวติภ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ-พอ-สำ-เพา เศวตีภ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อี-พอ-สำ-เพา เศวเตภ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-สะ-หระ-เอ-ตอ-เต่า-พอ-สำ-เพา ดู เศวต, เศวต– เศวต เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า เศวต– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-ตอ-เต่า .เศวติภ, เศวตีภ, เศวเตภ ดู เศวต, เศวต–.
เศวาล เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง[เสวาน] เป็นคำนาม หมายถึง สาหร่าย. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี เสวาล เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-เสือ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง.เศวาล [เสวาน] น. สาหร่าย. (ส.; ป. เสวาล).
เศษ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สอ-รือ-สี เป็นคำนาม หมายถึง ส่วนที่เหลือใช้การไม่ได้ตามวัตถุประสงค์, ส่วนที่เหลือซึ่งไม่ต้องการ, เช่น เศษกระดาษ เศษอาหาร เศษขยะ; สิ่งที่เกินหรือเลยจากจํานวนเต็มที่กําหนดไว้ เช่น เวลา ๒ นาฬิกาเศษ ยาว ๒ วาเศษ; ส่วนปลีกย่อยหรือส่วนย่อย เช่น เศษสตางค์ เศษเนื้อ เศษผ้า; ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในคณิตศาสตร์ หมายถึง ส่วนที่เหลือจากการหาร เช่น ๙ หารด้วย ๗ เหลือเศษ ๒. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี เสส เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-เสือ-สอ-เสือ.เศษ น. ส่วนที่เหลือใช้การไม่ได้ตามวัตถุประสงค์, ส่วนที่เหลือซึ่งไม่ต้องการ, เช่น เศษกระดาษ เศษอาหาร เศษขยะ; สิ่งที่เกินหรือเลยจากจํานวนเต็มที่กําหนดไว้ เช่น เวลา ๒ นาฬิกาเศษ ยาว ๒ วาเศษ; ส่วนปลีกย่อยหรือส่วนย่อย เช่น เศษสตางค์ เศษเนื้อ เศษผ้า; (คณิต) ส่วนที่เหลือจากการหาร เช่น ๙ หารด้วย ๗ เหลือเศษ ๒. (ส.; ป. เสส).
เศษกระดาษ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สอ-รือ-สี-กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อา-สอ-รือ-สี ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำนาม หมายถึง สิ่งที่ไร้ค่า เช่น ใบหุ้นที่ยกเลิกแล้วมีค่าเป็นเศษกระดาษ.เศษกระดาษ (ปาก) น. สิ่งที่ไร้ค่า เช่น ใบหุ้นที่ยกเลิกแล้วมีค่าเป็นเศษกระดาษ.
เศษเกิน เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-เอ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในคณิตศาสตร์ เป็นคำนาม หมายถึง จํานวนจริงที่มีค่าสัมบูรณ์มากกว่า ๑ เช่น (รูปภาพ).เศษเกิน (คณิต) น. จํานวนจริงที่มีค่าสัมบูรณ์มากกว่า ๑ เช่น (รูปภาพ).
เศษคน, เศษมนุษย์ เศษคน เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สอ-รือ-สี-คอ-ควาย-นอ-หนู เศษมนุษย์ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สอ-รือ-สี-มอ-ม้า-นอ-หนู-สะ-หระ-อุ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง คนเลวมากจนหาดีไม่ได้ (ใช้เป็นคำด่า).เศษคน, เศษมนุษย์ น. คนเลวมากจนหาดีไม่ได้ (ใช้เป็นคำด่า).
เศษซ้อน เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สอ-รือ-สี-ซอ-โซ่-ไม้-โท-ออ-อ่าง-นอ-หนู ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในคณิตศาสตร์ เป็นคำนาม หมายถึง จํานวนจริงที่เขียนเป็นรูปเศษส่วนหลาย ๆ ชั้น เช่น (รูปภาพ).เศษซ้อน (คณิต) น. จํานวนจริงที่เขียนเป็นรูปเศษส่วนหลาย ๆ ชั้น เช่น (รูปภาพ).
เศษนรก เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สอ-รือ-สี-นอ-หนู-รอ-เรือ-กอ-ไก่ เป็นคำนาม หมายถึง คนเลวอย่างที่สุด.เศษนรก น. คนเลวอย่างที่สุด.
เศษมนุษย์ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สอ-รือ-สี-มอ-ม้า-นอ-หนู-สะ-หระ-อุ-สอ-รือ-สี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง คนเลวมากจนหาดีไม่ได้, เศษคน ก็เรียก.เศษมนุษย์ น. คนเลวมากจนหาดีไม่ได้, เศษคน ก็เรียก.
เศษวรรค เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สอ-รือ-สี-วอ-แหวน-รอ-เรือ-รอ-เรือ-คอ-ควาย[เสสะวัก, เสดวัก] เป็นคำนาม หมายถึง พยัญชนะที่เหลือวรรคหรือที่เข้าอยู่ในวรรคทั้ง ๕ ไม่ได้ มี ๑๐ ตัว คือ ย ร ล ว ศ ษ ส ห ฬ  ํ , อวรรค ก็เรียก.เศษวรรค [เสสะวัก, เสดวัก] น. พยัญชนะที่เหลือวรรคหรือที่เข้าอยู่ในวรรคทั้ง ๕ ไม่ได้ มี ๑๐ ตัว คือ ย ร ล ว ศ ษ ส ห ฬ  ํ , อวรรค ก็เรียก.
เศษส่วน เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สอ-รือ-สี-สอ-เสือ-ไม้-เอก-วอ-แหวน-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง จํานวน ๒ จํานวน หรือนิพจน์ ๒ นิพจน์ที่เขียนในรูปของผลหารโดยไม่ต้องหารต่อไปอีก เช่น (รูปภาพ) หรือ (รูปภาพ) จำนวนบนเรียกว่า เศษ จำนวนล่างเรียกว่า ส่วน. ในวงเล็บ มาจากภาษาอังกฤษ fraction เขียนว่า เอฟ-อา-เอ-ซี-ที-ไอ-โอ-เอ็น.เศษส่วน น. จํานวน ๒ จํานวน หรือนิพจน์ ๒ นิพจน์ที่เขียนในรูปของผลหารโดยไม่ต้องหารต่อไปอีก เช่น (รูปภาพ) หรือ (รูปภาพ) จำนวนบนเรียกว่า เศษ จำนวนล่างเรียกว่า ส่วน. (อ. fraction).
เศษสิบ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สอ-รือ-สี-สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-บอ-ไบ-ไม้ เป็นคำนาม หมายถึง เศษส่วนที่มีเศษเป็นตัวเลข ๐ ถึง ๙ และมีส่วนเป็นหน่วย ๑๐ เช่น (รูปภาพ).เศษสิบ น. เศษส่วนที่มีเศษเป็นตัวเลข ๐ ถึง ๙ และมีส่วนเป็นหน่วย ๑๐ เช่น (รูปภาพ).
เศษเหล็ก เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-เอ-หอ-หีบ-ลอ-ลิง-ไม้-ไต่-คู้-กอ-ไก่ เป็นคำนาม หมายถึง ชิ้นส่วนของโลหะหรือเครื่องจักรกลเป็นต้นที่ใช้ไม่ได้แล้ว เช่น ซากรถยนต์ที่ถูกชนพังยับเยินถูกขายเป็นเศษเหล็ก.เศษเหล็ก น. ชิ้นส่วนของโลหะหรือเครื่องจักรกลเป็นต้นที่ใช้ไม่ได้แล้ว เช่น ซากรถยนต์ที่ถูกชนพังยับเยินถูกขายเป็นเศษเหล็ก.
เศาจ– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-จอ-จาน[เสาจะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ความสะอาด, ความบริสุทธิ์; การชําระล้าง; ความซื่อตรง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต เศาจ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-จอ-จาน เศาจฺย เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-จอ-จาน-พิน-ทุ-ยอ-ยัก และมาจากภาษาบาลี โสเจยฺย เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-เสือ-สะ-หระ-เอ-จอ-จาน-ยอ-ยัก-พิน-ทุ-ยอ-ยัก.เศาจ– [เสาจะ–] น. ความสะอาด, ความบริสุทธิ์; การชําระล้าง; ความซื่อตรง. (ส. เศาจ, เศาจฺย; ป. โสเจยฺย).
เศาไจย เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-จอ-จาน-ยอ-ยัก[–ไจ] เป็นคำนาม หมายถึง คนซักฟอก, คนทําความสะอาด. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต เศาเจย เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-เอ-จอ-จาน-ยอ-ยัก.เศาไจย [–ไจ] น. คนซักฟอก, คนทําความสะอาด. (ส. เศาเจย).
เศาร์ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง กล้าหาญ, เกี่ยวกับผู้กล้าหาญ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศูร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อู-รอ-เรือ และมาจากภาษาบาลี สูร เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อู-รอ-เรือ.เศาร์ ว. กล้าหาญ, เกี่ยวกับผู้กล้าหาญ. (ส. ศูร; ป. สูร).
เศารยะ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อะ[–ระยะ] เป็นคำนาม หมายถึง ความกล้าหาญ; อํานาจ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .เศารยะ [–ระยะ] น. ความกล้าหาญ; อํานาจ. (ส.).
เศิก เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่ ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ เป็นคำนาม หมายถึง ศึก.เศิก (โบ) น. ศึก.
เศียร เขียนว่า สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-รอ-เรือ[เสียน] เป็นคำนาม หมายถึง หัว เช่น เศียรพระพุทธรูป ทศกัณฐ์มีสิบเศียรยี่สิบกร, ราชาศัพท์ใช้ว่า พระเศียร. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ศิร เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ และมาจากภาษาบาลี สิร เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-รอ-เรือ; เรียกไพ่ตอง ๓ ใบ พวกเดียวกัน แต่ไม่เหมือนกัน เช่น ๓ คน ๓ นก ๓ ตา ว่า ๑ เศียร.เศียร [เสียน] น. หัว เช่น เศียรพระพุทธรูป ทศกัณฐ์มีสิบเศียรยี่สิบกร, ราชาศัพท์ใช้ว่า พระเศียร. (ส. ศิร; ป. สิร); เรียกไพ่ตอง ๓ ใบ พวกเดียวกัน แต่ไม่เหมือนกัน เช่น ๓ คน ๓ นก ๓ ตา ว่า ๑ เศียร.
โศก ๑, โศก– โศก ความหมายที่ ๑ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่ โศก– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่ [โสกะ–, โสกกะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ความทุกข์, ความเศร้า, ความเดือดร้อนใจ, เช่น อันทุกข์โศกโรคภัยในมนุษย์ มิรู้สุดสิ้นลงที่ตรงไหน. ในวงเล็บ มาจาก พระอภัยมณีคำกลอน ของ สุนทรภู่ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๗. เป็นคำกริยา หมายถึง ร้องไห้ เช่น เขากำลังทุกข์กำลังโศก อย่าไปรบกวนเขา. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เศร้า เช่น บทโศก ตาโศก; แห้ง เช่น ใบไม้โศกเพราะความแห้งแล้ง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี โสก เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-เสือ-กอ-ไก่.โศก ๑, โศก– [โสกะ–, โสกกะ–] น. ความทุกข์, ความเศร้า, ความเดือดร้อนใจ, เช่น อันทุกข์โศกโรคภัยในมนุษย์ มิรู้สุดสิ้นลงที่ตรงไหน. (อภัย). ก. ร้องไห้ เช่น เขากำลังทุกข์กำลังโศก อย่าไปรบกวนเขา. ว. เศร้า เช่น บทโศก ตาโศก; แห้ง เช่น ใบไม้โศกเพราะความแห้งแล้ง. (ส.; ป. โสก).
โศกนาฏกรรม เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-นอ-หนู-สะ-หระ-อา-ตอ-ปะ-ตัก-กอ-ไก่-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า[โสกะนาดตะกํา, โสกกะนาดตะกํา] เป็นคำนาม หมายถึง วรรณกรรมโดยเฉพาะประเภทละครที่ลงท้ายด้วยความเศร้าหรือไม่สมหวัง ตัวเอกในเรื่องจะตายในที่สุด เช่นเรื่องลิลิตพระลอ สาวเครือฟ้า โรเมโอ–จูเลียต, โดยปริยายหมายถึงเรื่องราวหรือเหตุการณ์ทั่ว ๆ ไปที่เป็นเรื่องเศร้าสลดใจ เช่น ชีวิตของเขาเป็นเหมือนโศกนาฏกรรม เกิดในตระกูลเศรษฐี แต่สุดท้ายต้องตายอย่างยาจก.โศกนาฏกรรม [โสกะนาดตะกํา, โสกกะนาดตะกํา] น. วรรณกรรมโดยเฉพาะประเภทละครที่ลงท้ายด้วยความเศร้าหรือไม่สมหวัง ตัวเอกในเรื่องจะตายในที่สุด เช่นเรื่องลิลิตพระลอ สาวเครือฟ้า โรเมโอ–จูเลียต, โดยปริยายหมายถึงเรื่องราวหรือเหตุการณ์ทั่ว ๆ ไปที่เป็นเรื่องเศร้าสลดใจ เช่น ชีวิตของเขาเป็นเหมือนโศกนาฏกรรม เกิดในตระกูลเศรษฐี แต่สุดท้ายต้องตายอย่างยาจก.
โศกศัลย์ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-ลอ-ลิง-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด[โสกสัน] เป็นคำกริยา หมายถึง เป็นทุกข์เดือดร้อนเหมือนถูกศรแทง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี โสกสลฺล เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-เสือ-กอ-ไก่-สอ-เสือ-ลอ-ลิง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง.โศกศัลย์ [โสกสัน] ก. เป็นทุกข์เดือดร้อนเหมือนถูกศรแทง. (ส.; ป. โสกสลฺล).
โศกเศร้า เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-สะ-หระ-เอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-ไม้-โท-สะ-หระ-อา เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีความทุกข์โศกเสียใจอาลัยอาวรณ์มาก เช่น พ่อตายทำให้เขาโศกเศร้าเสียใจมาก, เศร้าโศก ก็ว่า.โศกเศร้า ว. มีความทุกข์โศกเสียใจอาลัยอาวรณ์มาก เช่น พ่อตายทำให้เขาโศกเศร้าเสียใจมาก, เศร้าโศก ก็ว่า.
โศกสลด เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-สอ-เสือ-ลอ-ลิง-ดอ-เด็ก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เศร้ารันทดใจเพราะต้องพลัดพรากจากกัน เวลาพูดถึงมักจะทำให้น้ำตาไหล.โศกสลด ว. เศร้ารันทดใจเพราะต้องพลัดพรากจากกัน เวลาพูดถึงมักจะทำให้น้ำตาไหล.
โศกาดูร เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อู-รอ-เรือ เป็นคำกริยา หมายถึง เดือดร้อนด้วยความโศก, ร้องไห้สะอึกสะอื้น. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต โศก เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่ + อาตุร เขียนว่า ออ-อ่าง-สะ-หระ-อา-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อุ-รอ-เรือ .โศกาดูร ก. เดือดร้อนด้วยความโศก, ร้องไห้สะอึกสะอื้น. (ส. โศก + อาตุร).
โศกาลัย เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยัก เป็นคำนาม หมายถึง ความเศร้าหมองใจและความห่วงใย, ร้องไห้สะอึกสะอื้น. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต โศก เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่ + อาลย เขียนว่า ออ-อ่าง-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ยอ-ยัก .โศกาลัย น. ความเศร้าหมองใจและความห่วงใย, ร้องไห้สะอึกสะอื้น. (ส. โศก + อาลย).
โศก เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่ ความหมายที่ ดู อโศก เขียนว่า ออ-อ่าง-สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่.โศก ๒ ดู อโศก.
โศก เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่ ความหมายที่ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สีเขียวอ่อนอย่างสีใบอโศกอ่อน เรียกว่า สีโศก.โศก ๓ ว. สีเขียวอ่อนอย่างสีใบอโศกอ่อน เรียกว่า สีโศก.
โศกา, โศกี โศกา เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา โศกี เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อี เป็นคำกริยา หมายถึง ร้องไห้ เช่น รู้ว่าผิดแล้วก็แก้ตัวใหม่ อย่ามัวแต่นั่งโศกาอยู่เลย.โศกา, โศกี ก. ร้องไห้ เช่น รู้ว่าผิดแล้วก็แก้ตัวใหม่ อย่ามัวแต่นั่งโศกาอยู่เลย.
โศกาดูร เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อู-รอ-เรือดู โศก ๑, โศก– โศก ความหมายที่ ๑ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่ โศก– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่ .โศกาดูร ดู โศก ๑, โศก–.
โศกาลัย เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยักดู โศก ๑, โศก– โศก ความหมายที่ ๑ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่ โศก– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-กอ-ไก่ .โศกาลัย ดู โศก ๑, โศก–.
โศจนะ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-จอ-จาน-นอ-หนู-สะ-หระ-อะ[–จะนะ] เป็นคำนาม หมายถึง ความเศร้าใจ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี โสจน เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-เสือ-จอ-จาน-นอ-หนู.โศจนะ [–จะนะ] น. ความเศร้าใจ. (ส.; ป. โสจน).
โศจนียะ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-จอ-จาน-นอ-หนู-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อะ[–จะ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อันน่าโศก, น่าเศร้าใจ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .โศจนียะ [–จะ–] ว. อันน่าโศก, น่าเศร้าใจ. (ส.).
โศจิ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-จอ-จาน-สะ-หระ-อิ เป็นคำนาม หมายถึง แสง, แวว, สี; ความสว่าง, ความงาม. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สว่าง, สุกใส. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .โศจิ น. แสง, แวว, สี; ความสว่าง, ความงาม. ว. สว่าง, สุกใส. (ส.).
โศถะ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-ถอ-ถุง-สะ-หระ-อะ เป็นคำนาม หมายถึง ความบวม, ความพอง, โศผะ ก็ว่า. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต โศถ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-ถอ-ถุง โศผ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-ผอ-ผึ้ง .โศถะ น. ความบวม, ความพอง, โศผะ ก็ว่า. (ส. โศถ, โศผ).
โศธนะ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-ทอ-ทง-นอ-หนู-สะ-หระ-อะ เป็นคำนาม หมายถึง การชําระ, การทําให้หมดจด, การทําให้สะอาด; การแก้ไข, การตรวจตรา, การชําระสะสาง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี โสธน เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-เสือ-ทอ-ทง-นอ-หนู.โศธนะ น. การชําระ, การทําให้หมดจด, การทําให้สะอาด; การแก้ไข, การตรวจตรา, การชําระสะสาง. (ส.; ป. โสธน).
โศผะ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-ผอ-ผึ้ง-สะ-หระ-อะ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในราชาศัพท์ เป็นคำนาม หมายถึง ความบวม, ความพอง, โศถะ ก็ว่า. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต โศผ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-ผอ-ผึ้ง โศถ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-ถอ-ถุง .โศผะ (ราชา) น. ความบวม, ความพอง, โศถะ ก็ว่า. (ส. โศผ, โศถ).
โศภน, โศภะ โศภน เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-พอ-สำ-เพา-นอ-หนู โศภะ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อะ เป็นคำนาม หมายถึง ความงาม, ความดี. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี โสภณ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-เสือ-พอ-สำ-เพา-นอ-เนน.โศภน, โศภะ น. ความงาม, ความดี. (ส.; ป. โสภณ).
โศภา เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อา เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง งาม, ดี. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ว่า สว่าง, ความงาม .โศภา ว. งาม, ดี. (ส. ว่า สว่าง, ความงาม).
โศภิต เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อิ-ตอ-เต่า เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง งาม, ดี. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี โสภิต เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-เสือ-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อิ-ตอ-เต่า.โศภิต ว. งาม, ดี. (ส.; ป. โสภิต).
โศภิน, โศภี โศภิน เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู โศภี เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อี เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง งาม, ดี. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .โศภิน, โศภี ว. งาม, ดี. (ส.).
โศภิษฐ์ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อิ-สอ-รือ-สี-ถอ-ถาน-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง งามยิ่ง, ดียิ่ง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .โศภิษฐ์ ว. งามยิ่ง, ดียิ่ง. (ส.).
โศรณิ, โศรณี โศรณิ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-นอ-เนน-สะ-หระ-อิ โศรณี เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-นอ-เนน-สะ-หระ-อี [โสฺร–] เป็นคำนาม หมายถึง ตะโพก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต โศฺรณิ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-รอ-เรือ-นอ-เนน-สะ-หระ-อิ โศฺรณี เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-รอ-เรือ-นอ-เนน-สะ-หระ-อี และมาจากภาษาบาลี โสณี เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-เสือ-นอ-เนน-สะ-หระ-อี.โศรณิ, โศรณี [โสฺร–] น. ตะโพก. (ส. โศฺรณิ, โศฺรณี; ป. โสณี).
โศรดา เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อา[โสฺร–] เป็นคำนาม หมายถึง ผู้ฟัง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต โศฺรตฺฤ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-รอ-เรือ-ตอ-เต่า-พิน-ทุ-รอ-รึ และมาจากภาษาบาลี โสตา เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อา.โศรดา [โสฺร–] น. ผู้ฟัง. (ส. โศฺรตฺฤ; ป. โสตา).
โศรตร เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ[โสฺรด] เป็นคำนาม หมายถึง หู, ช่องหู. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต โศฺรตฺร เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-พิน-ทุ-รอ-เรือ-ตอ-เต่า-พิน-ทุ-รอ-เรือ และมาจากภาษาบาลี โสต เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-เสือ-ตอ-เต่า.โศรตร [โสฺรด] น. หู, ช่องหู. (ส. โศฺรตฺร; ป. โสต).
โศลก เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-สา-ลา-ลอ-ลิง-กอ-ไก่[สะโหฺลก] เป็นคำนาม หมายถึง คําประพันธ์ในวรรณคดีสันสกฤต ๔ บาท เป็น ๑ บท ตามปรกติมีบาทละ ๘ พยางค์ เรียกว่า โศลกหนึ่ง เช่น กามโกฺรธวิยุกฺตานามฺ ยตีนำ ยตเจตสามฺ อภิโต พฺรหฺมนิรฺวาณมฺ วรฺตเต วิทิตาตฺมนามฺ ผู้บำเพ็ญพรต พรากจากกามและโกรธ ข่มใจได้ รู้แจ้งอาตมัน ย่อมมีนิพพาน คือพรหมโดยทั่วไป. (ศรีมัทภควัทคีตา), บทสรรเสริญยกย่อง; ชื่อเสียง, เกียรติยศ.โศลก [สะโหฺลก] น. คําประพันธ์ในวรรณคดีสันสกฤต ๔ บาท เป็น ๑ บท ตามปรกติมีบาทละ ๘ พยางค์ เรียกว่า โศลกหนึ่ง เช่น กามโกฺรธวิยุกฺตานามฺ ยตีนำ ยตเจตสามฺ อภิโต พฺรหฺมนิรฺวาณมฺ วรฺตเต วิทิตาตฺมนามฺ ผู้บำเพ็ญพรต พรากจากกามและโกรธ ข่มใจได้ รู้แจ้งอาตมัน ย่อมมีนิพพาน คือพรหมโดยทั่วไป. (ศรีมัทภควัทคีตา), บทสรรเสริญยกย่อง; ชื่อเสียง, เกียรติยศ.
ไศล, ไศล– ไศล เขียนว่า สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-สอ-สา-ลา-ลอ-ลิง ไศล– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-สอ-สา-ลา-ลอ-ลิง [สะไหฺล, ไสละ–] เป็นคำนาม หมายถึง เขาหิน เช่น โขดเขินเนินไศล. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ไศล เขียนว่า สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-สอ-สา-ลา-ลอ-ลิง.ไศล, ไศล– [สะไหฺล, ไสละ–] น. เขาหิน เช่น โขดเขินเนินไศล. (ส. ไศล).
ไศวะ เขียนว่า สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-สอ-สา-ลา-วอ-แหวน-สะ-หระ-อะ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อนิกายหนึ่งของศาสนาฮินดู นับถือพระศิวะเป็นเทพเจ้าสูงสุด. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ไศวะ น. ชื่อนิกายหนึ่งของศาสนาฮินดู นับถือพระศิวะเป็นเทพเจ้าสูงสุด. (ส.).
เขียนว่า สอ-รือ-สีพยัญชนะตัวที่ ๓๙ เป็นพวกอักษรสูง ใช้ได้ทั้งเป็นพยัญชนะตัวต้นและตัวสะกดในแม่กดในคําที่มาจากภาษาสันสกฤต เช่น ษมา เศรษฐี และคําว่า อังกฤษ. พยัญชนะตัวที่ ๓๙ เป็นพวกอักษรสูง ใช้ได้ทั้งเป็นพยัญชนะตัวต้นและตัวสะกดในแม่กดในคําที่มาจากภาษาสันสกฤต เช่น ษมา เศรษฐี และคําว่า อังกฤษ.
ษมา เขียนว่า สอ-รือ-สี-มอ-ม้า-สะ-หระ-อา[สะมา] เป็นคำกริยา หมายถึง กล่าวคําขอโทษ. เป็นคำนาม หมายถึง การยกโทษให้เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งยอมรับผิด, ขมา ก็ว่า. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต กษมา เขียนว่า กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-มอ-ม้า-สะ-หระ-อา และมาจากภาษาบาลี ขมา เขียนว่า ขอ-ไข่-มอ-ม้า-สะ-หระ-อา.ษมา [สะมา] ก. กล่าวคําขอโทษ. น. การยกโทษให้เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งยอมรับผิด, ขมา ก็ว่า. (ส. กษมา; ป. ขมา).
ษมายุมแปลง เขียนว่า สอ-รือ-สี-มอ-ม้า-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อุ-มอ-ม้า-สะ-หระ-แอ-ปอ-ปลา-ลอ-ลิง-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องขมาโทษที่ชายนําไปคํานับพ่อแม่หญิงเพื่อขอโทษในการที่ลักพาลูกสาวท่านไป.ษมายุมแปลง น. เครื่องขมาโทษที่ชายนําไปคํานับพ่อแม่หญิงเพื่อขอโทษในการที่ลักพาลูกสาวท่านไป.
ษัฏ เขียนว่า สอ-รือ-สี-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-ปะ-ตัก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง หก. (ใช้ในคําสมาส เมื่อนําหน้าพยัญชนะพวกอโฆษะ). ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี ฉ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง.ษัฏ ว. หก. (ใช้ในคําสมาส เมื่อนําหน้าพยัญชนะพวกอโฆษะ). (ส.; ป. ฉ).
ษัฏกะ เขียนว่า สอ-รือ-สี-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-ปะ-ตัก-กอ-ไก่-สะ-หระ-อะ[สัดตะกะ] เป็นคำนาม หมายถึง หมวด ๖ คือรวมสิ่งละ ๖. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี ฉกฺก เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-กอ-ไก่-พิน-ทุ-กอ-ไก่.ษัฏกะ [สัดตะกะ] น. หมวด ๖ คือรวมสิ่งละ ๖. (ส.; ป. ฉกฺก).
ษัฑ เขียนว่า สอ-รือ-สี-ไม้-หัน-อา-กาด-ทอ-มน-โท เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง หก. (ใช้ในคําสมาส เมื่อนําหน้าพยัญชนะพวกโฆษะ เว้นจาก ณ ม ย). ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี ฉ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง.ษัฑ ว. หก. (ใช้ในคําสมาส เมื่อนําหน้าพยัญชนะพวกโฆษะ เว้นจาก ณ ม ย). (ส.; ป. ฉ).
ษัณ เขียนว่า สอ-รือ-สี-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-เนน เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง หก. (ใช้ในคําสมาส เมื่อนําหน้าตัว ณ ม ย). ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี ฉ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง.ษัณ ว. หก. (ใช้ในคําสมาส เมื่อนําหน้าตัว ณ ม ย). (ส.; ป. ฉ).
ษัษ เขียนว่า สอ-รือ-สี-ไม้-หัน-อา-กาด-สอ-รือ-สี เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง หก. (คําสมาสใช้ ษัฏ บ้าง ษัฑ บ้าง ษัณ บ้างตามวิธีสนธิ). ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี ฉ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง.ษัษ ว. หก. (คําสมาสใช้ ษัฏ บ้าง ษัฑ บ้าง ษัณ บ้างตามวิธีสนธิ). (ส.; ป. ฉ).
ษัษฏี เขียนว่า สอ-รือ-สี-ไม้-หัน-อา-กาด-สอ-รือ-สี-ตอ-ปะ-ตัก-สะ-หระ-อี[สัดสะตี] เป็นคำนาม หมายถึง จํานวน ๖๐. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี ฉฏฺิ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ตอ-ปะ-ตัก-พิน-ทุ-ถอ-ถาน-สะ-หระ-อิ.ษัษฏี [สัดสะตี] น. จํานวน ๖๐. (ส.; ป. ฉฏฺิ).
ษัษฐะ เขียนว่า สอ-รือ-สี-ไม้-หัน-อา-กาด-สอ-รือ-สี-ถอ-ถาน-สะ-หระ-อะ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ที่ ๖. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี ฉฏฺ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ตอ-ปะ-ตัก-พิน-ทุ ี เขียนว่า สะ-หระ-อี .ษัษฐะ ว. ที่ ๖. (ส.; ป. ฉฏฺ ี).
ษัษฐี เขียนว่า สอ-รือ-สี-ไม้-หัน-อา-กาด-สอ-รือ-สี-ถอ-ถาน-สะ-หระ-อี[สัดถี] เป็นคำนาม หมายถึง วันที่ ๖ หรือ วัน ๖ คํ่า. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี ฉฏฺิ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ตอ-ปะ-ตัก-พิน-ทุ-ถอ-ถาน-สะ-หระ-อิ.ษัษฐี [สัดถี] น. วันที่ ๖ หรือ วัน ๖ คํ่า. (ส.; ป. ฉฏฺิ).
โษฑศะ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-รือ-สี-ทอ-มน-โท-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อะ[โสทะ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สิบหก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี โสฬส เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-เสือ-ลอ-จุ-ลา-สอ-เสือ.โษฑศะ [โสทะ–] ว. สิบหก. (ส.; ป. โสฬส).
โษฑศัน เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-รือ-สี-ทอ-มน-โท-สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู[โสทะ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สิบหก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี โสฬส เขียนว่า สะ-หระ-โอ-สอ-เสือ-ลอ-จุ-ลา-สอ-เสือ.โษฑศัน [โสทะ–] ว. สิบหก. (ส.; ป. โสฬส).
เขียนว่า สอ-เสือ ความหมายที่ พยัญชนะตัวที่ ๔๐ เป็นพวกอักษรสูง ใช้ได้ทั้งเป็นพยัญชนะตัวต้นและตัวสะกดในแม่กดในคําที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤตเป็นต้น เช่น สวย สงสาร สวิตช์ รส สัมผัส สวิส.ส ๑ พยัญชนะตัวที่ ๔๐ เป็นพวกอักษรสูง ใช้ได้ทั้งเป็นพยัญชนะตัวต้นและตัวสะกดในแม่กดในคําที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤตเป็นต้น เช่น สวย สงสาร สวิตช์ รส สัมผัส สวิส.
เขียนว่า สอ-เสือ ความหมายที่ คําประกอบหน้าคําอื่นที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤต บ่งความว่า กอบด้วย, พร้อมด้วย, เช่น สเทวก ว่า พร้อมด้วยเทวดา. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต .ส ๒ คําประกอบหน้าคําอื่นที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤต บ่งความว่า กอบด้วย, พร้อมด้วย, เช่น สเทวก ว่า พร้อมด้วยเทวดา. (ป., ส.).
สก– เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่ ความหมายที่ [สะกะ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ของตน. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต สฺวก เขียนว่า สอ-เสือ-พิน-ทุ-วอ-แหวน-กอ-ไก่.สก– ๑ [สะกะ–] ว. ของตน. (ป.; ส. สฺวก).
สกวาที เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อี เป็นคำนาม หมายถึง ผู้กล่าวถ้อยคําฝ่ายตน คือ ฝ่ายเสนอหรือฝ่ายถาม, คู่กับ ปรวาที. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี .สกวาที น. ผู้กล่าวถ้อยคําฝ่ายตน คือ ฝ่ายเสนอหรือฝ่ายถาม, คู่กับ ปรวาที. (ป.).
สก เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่ ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ผม. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร สก่ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ไม้-เอก.สก ๒ น. ผม. (ข. สก่).
สก เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่ ความหมายที่ ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ เป็นคำกริยา หมายถึง สะเด็ดนํ้า เช่น เอาข้าวที่ซาวนํ้าแล้วใส่ในตะแกรงเพื่อให้นํ้าแห้ง เรียกว่า สก.สก ๓ (โบ) ก. สะเด็ดนํ้า เช่น เอาข้าวที่ซาวนํ้าแล้วใส่ในตะแกรงเพื่อให้นํ้าแห้ง เรียกว่า สก.
สกฏ–, สกฏะ สกฏ– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ตอ-ปะ-ตัก สกฏะ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ตอ-ปะ-ตัก-สะ-หระ-อะ [สะกะตะ–] เป็นคำนาม หมายถึง เกวียน. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี .สกฏ–, สกฏะ [สะกะตะ–] น. เกวียน. (ป.).
สกฏภาระ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ตอ-ปะ-ตัก-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ[–พาระ] เป็นคำนาม หมายถึง ของบรรทุกเกวียน.สกฏภาระ [–พาระ] น. ของบรรทุกเกวียน.
สกทาคามิผล, สกิทาคามิผล สกทาคามิผล เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อิ-ผอ-ผึ้ง-ลอ-ลิง สกิทาคามิผล เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อิ-ผอ-ผึ้ง-ลอ-ลิง [สะกะ–, สะกิ–] เป็นคำนาม หมายถึง ธรรมที่พระสกทาคามีได้บรรลุ. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี สกทาคามิผล เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อิ-ผอ-ผึ้ง-ลอ-ลิง สกิทาคามิผล เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อิ-ผอ-ผึ้ง-ลอ-ลิง และมาจากภาษาสันสกฤต สกฺฤทาคามินฺ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-พิน-ทุ-รอ-รึ-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-พิน-ทุ + ผล เขียนว่า ผอ-ผึ้ง-ลอ-ลิง . ในวงเล็บ ดู ผล เขียนว่า ผอ-ผึ้ง-ลอ-ลิง.สกทาคามิผล, สกิทาคามิผล [สะกะ–, สะกิ–] น. ธรรมที่พระสกทาคามีได้บรรลุ. (ป. สกทาคามิผล, สกิทาคามิผล; ส. สกฺฤทาคามินฺ + ผล). (ดู ผล).
สกทาคามิมรรค, สกิทาคามิมรรค สกทาคามิมรรค เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อิ-มอ-ม้า-รอ-เรือ-รอ-เรือ-คอ-ควาย สกิทาคามิมรรค เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อิ-มอ-ม้า-รอ-เรือ-รอ-เรือ-คอ-ควาย [–มัก] เป็นคำนาม หมายถึง ทางปฏิบัติที่ให้สําเร็จเป็นพระสกทาคามี. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต สกฺฤทาคามินฺ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-พิน-ทุ-รอ-รึ-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-พิน-ทุ + มารฺค เขียนว่า มอ-ม้า-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-พิน-ทุ-คอ-ควาย และมาจากภาษาบาลี สกทาคามิมคฺค เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อิ-มอ-ม้า-คอ-ควาย-พิน-ทุ-คอ-ควาย สกิทาคามิมคฺค เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อิ-มอ-ม้า-คอ-ควาย-พิน-ทุ-คอ-ควาย . ในวงเล็บ ดู มรรค เขียนว่า มอ-ม้า-รอ-เรือ-รอ-เรือ-คอ-ควาย.สกทาคามิมรรค, สกิทาคามิมรรค [–มัก] น. ทางปฏิบัติที่ให้สําเร็จเป็นพระสกทาคามี. (ส. สกฺฤทาคามินฺ + มารฺค; ป. สกทาคามิมคฺค, สกิทาคามิมคฺค). (ดู มรรค).
สกทาคามี, สกิทาคามี สกทาคามี เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อี สกิทาคามี เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อี [สะกะ–, สะกิ–] เป็นคำนาม หมายถึง “ผู้มาสู่กามภพอีกครั้งหนึ่ง” เป็นชื่อพระอริยบุคคลชั้นที่ ๒ ใน ๔ ชั้น คือ พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์, บางทีก็เรียกสั้น ๆ ว่า พระสกทาคา หรือ พระสกิทาคา. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต สกฺฤทาคามินฺ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-พิน-ทุ-รอ-รึ-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-พิน-ทุ.สกทาคามี, สกิทาคามี [สะกะ–, สะกิ–] น. “ผู้มาสู่กามภพอีกครั้งหนึ่ง” เป็นชื่อพระอริยบุคคลชั้นที่ ๒ ใน ๔ ชั้น คือ พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์, บางทีก็เรียกสั้น ๆ ว่า พระสกทาคา หรือ พระสกิทาคา. (ป.; ส. สกฺฤทาคามินฺ).
สกนธ์ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-นอ-หนู-ทอ-ทง-ทัน-ทะ-คาด[สะกน] เป็นคำนาม หมายถึง ขันธ์, กอง, ส่วนร่างกาย, ร่างกาย. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี ขนฺธ เขียนว่า ขอ-ไข่-นอ-หนู-พิน-ทุ-ทอ-ทง.สกนธ์ [สะกน] น. ขันธ์, กอง, ส่วนร่างกาย, ร่างกาย. (ส.; ป. ขนฺธ).
สกปรก เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ปอ-ปลา-รอ-เรือ-กอ-ไก่[สกกะปฺรก] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เปรอะหรือเปื้อนด้วยสิ่งที่ถือว่าน่าเกลียดหรือที่ไม่พึงประสงค์ เช่น เสื้อผ้าสกปรก เนื้อตัวสกปรกด้วยฝุ่นละออง, ขุ่นมัว, ไม่สะอาดหมดจด, เช่น น้ำสกปรก จิตใจสกปรก, ลักษณะกิริยาวาจาที่แสดงออกอย่างหยาบคาย เช่น พูดจาสกปรก, โดยปริยายหมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น เขาเป็นคนสกปรก เล่นสกปรก.สกปรก [สกกะปฺรก] ว. เปรอะหรือเปื้อนด้วยสิ่งที่ถือว่าน่าเกลียดหรือที่ไม่พึงประสงค์ เช่น เสื้อผ้าสกปรก เนื้อตัวสกปรกด้วยฝุ่นละออง, ขุ่นมัว, ไม่สะอาดหมดจด, เช่น น้ำสกปรก จิตใจสกปรก, ลักษณะกิริยาวาจาที่แสดงออกอย่างหยาบคาย เช่น พูดจาสกปรก, โดยปริยายหมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น เขาเป็นคนสกปรก เล่นสกปรก.
สกรณีย์ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-รอ-เรือ-นอ-เนน-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด[สะกะระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง ผู้ยังมีหน้าที่จะต้องทํา. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี .สกรณีย์ [สะกะระ–] (แบบ) น. ผู้ยังมีหน้าที่จะต้องทํา. (ป.).
สกรรจ์ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-รอ-เรือ-รอ-เรือ-จอ-จาน-ทัน-ทะ-คาด[สะกัน] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ร้าย, ดุร้าย, เก่งกาจ, แข็งแรง, โดยมากใช้ ฉกรรจ์.สกรรจ์ [สะกัน] ว. ร้าย, ดุร้าย, เก่งกาจ, แข็งแรง, โดยมากใช้ ฉกรรจ์.
สกรรถ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-รอ-เรือ-รอ-เรือ-ถอ-ถุง[สะกัด] เป็นคำนาม หมายถึง เรียกคำที่เพิ่มเข้าข้างหลังคำเดิม เมื่อเพิ่มแล้ว มีความหมายคงเดิม หรือหมายถึงพวกหรือหมู่ ว่า คำสกรรถ เช่น อากร (ในคำเช่น นรากร ประชากร) อาการ (ในคำเช่น คมนาการ ทัศนาการ) ชาติ (ในคำเช่น มนุษยชาติ ติณชาติ) ประเทศ (ในคำเช่น อุรประเทศ หทัยประเทศ).สกรรถ [สะกัด] น. เรียกคำที่เพิ่มเข้าข้างหลังคำเดิม เมื่อเพิ่มแล้ว มีความหมายคงเดิม หรือหมายถึงพวกหรือหมู่ ว่า คำสกรรถ เช่น อากร (ในคำเช่น นรากร ประชากร) อาการ (ในคำเช่น คมนาการ ทัศนาการ) ชาติ (ในคำเช่น มนุษยชาติ ติณชาติ) ประเทศ (ในคำเช่น อุรประเทศ หทัยประเทศ).
สกรรมกริยา เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า-กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา[สะกํากฺริยา, สะกํากะริยา] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในไวยากรณ์ เป็นคำนาม หมายถึง กริยาที่มีกรรมหรือผู้ถูกกระทํามารับ เช่น ดื่มน้ำ เตะฟุตบอล.สกรรมกริยา [สะกํากฺริยา, สะกํากะริยา] (ไว) น. กริยาที่มีกรรมหรือผู้ถูกกระทํามารับ เช่น ดื่มน้ำ เตะฟุตบอล.
สกล, สกล– สกล เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ลอ-ลิง สกล– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ลอ-ลิง [สะกน, สะกนละ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สากล. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต .สกล, สกล– [สะกน, สะกนละ–] ว. สากล. (ป., ส.).
สกลโลก เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ลอ-ลิง-สะ-หระ-โอ-ลอ-ลิง-กอ-ไก่ เป็นคำนาม หมายถึง ทั้งโลก, โลกทั้งสิ้น, ทั่วโลก.สกลโลก น. ทั้งโลก, โลกทั้งสิ้น, ทั่วโลก.
สกลมหาสังฆปริณายก เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ลอ-ลิง-มอ-ม้า-หอ-หีบ-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู-คอ-ระ-คัง-ปอ-ปลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-นอ-เนน-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-กอ-ไก่[สะกนมะหาสังคะปะรินายก] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ตําแหน่งของสมเด็จพระสังฆราชในฐานะที่ทรงเป็นประมุขแห่งคณะสงฆ์ทั้งปวง ทรงมีอํานาจบัญชาการคณะสงฆ์ ทรงตราพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชโดยไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมาย พระธรรมวินัย และกฎมหาเถรสมาคม.สกลมหาสังฆปริณายก [สะกนมะหาสังคะปะรินายก] (กฎ) น. ตําแหน่งของสมเด็จพระสังฆราชในฐานะที่ทรงเป็นประมุขแห่งคณะสงฆ์ทั้งปวง ทรงมีอํานาจบัญชาการคณะสงฆ์ ทรงตราพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชโดยไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมาย พระธรรมวินัย และกฎมหาเถรสมาคม.
สกัด เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ไม้-หัน-อา-กาด-ดอ-เด็ก เป็นคำกริยา หมายถึง กั้น, ขวาง, เช่น สกัดหน้า; ตัดหรือกะเทาะของแข็งเช่นเหล็ก หิน ให้เป็นร่อง รอย ทะลุ หรือให้ขาดจากกัน, เรียกเหล็กที่ใช้ตัดหรือกะเทาะของแข็งเช่นนั้นว่า เหล็กสกัด; เค้นหรือแยกเอาออกมา เช่น สกัดนํ้ามัน สกัดน้ำหอมจากดอกกุหลาบ. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร .สกัด ก. กั้น, ขวาง, เช่น สกัดหน้า; ตัดหรือกะเทาะของแข็งเช่นเหล็ก หิน ให้เป็นร่อง รอย ทะลุ หรือให้ขาดจากกัน, เรียกเหล็กที่ใช้ตัดหรือกะเทาะของแข็งเช่นนั้นว่า เหล็กสกัด; เค้นหรือแยกเอาออกมา เช่น สกัดนํ้ามัน สกัดน้ำหอมจากดอกกุหลาบ. (ข.).
สกัดแคร่ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-ไม้-หัน-อา-กาด-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-แอ-คอ-ควาย-รอ-เรือ-ไม้-เอก เป็นคำนาม หมายถึง โคลงทวารประดับ.สกัดแคร่ น. โคลงทวารประดับ.
สกา เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องเล่นการพนันอย่างหนึ่งใช้ลูกบาศก์ทอดแล้วเดินตัวสกาตามแต้มลูกบาศก์. ในวงเล็บ เทียบ ภาษาทมิฬ บาสกา เขียนว่า บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา.สกา น. เครื่องเล่นการพนันอย่างหนึ่งใช้ลูกบาศก์ทอดแล้วเดินตัวสกาตามแต้มลูกบาศก์. (เทียบทมิฬ บาสกา).
สกาว เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน[สะกาว] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ขาว, สะอาด, หมดจด.สกาว [สะกาว] ว. ขาว, สะอาด, หมดจด.
สกิทาคามี เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-อี เป็นคำนาม หมายถึง สกทาคามี.สกิทาคามี น. สกทาคามี.
สกี เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อี เป็นคำนาม หมายถึง แผ่นไม้แคบ ๆ ๒ แผ่น ปรกติยาวแผ่นละ ๑.๕–๒.๔ เมตร มีที่สําหรับสวมเท้าผู้เล่น ใช้ในการเล่นสกี; กีฬาอย่างหนึ่ง ผู้เล่นยืนบนแผ่นสกี แล้วไถตัวให้ลื่นไถลลงไปตามเนินเขาที่มีหิมะปกคลุม โดยมีไม้คู่หนึ่งสําหรับยันหรือถ่อเวลาเล่น. ในวงเล็บ มาจากภาษาอังกฤษ ski เขียนว่า เอส-เค-ไอ.สกี น. แผ่นไม้แคบ ๆ ๒ แผ่น ปรกติยาวแผ่นละ ๑.๕–๒.๔ เมตร มีที่สําหรับสวมเท้าผู้เล่น ใช้ในการเล่นสกี; กีฬาอย่างหนึ่ง ผู้เล่นยืนบนแผ่นสกี แล้วไถตัวให้ลื่นไถลลงไปตามเนินเขาที่มีหิมะปกคลุม โดยมีไม้คู่หนึ่งสําหรับยันหรือถ่อเวลาเล่น. (อ. ski).
สกีน้ำ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อี-นอ-หนู-ไม้-โท-สะ-หระ-อำ เป็นคำนาม หมายถึง กีฬาอย่างหนึ่งคล้ายสกี แต่เล่นในนํ้า ใช้เรือยนต์ลาก. ในวงเล็บ มาจากภาษาอังกฤษ water เขียนว่า ดับเบิลยู-เอ-ที-อี-อา ski เขียนว่า เอส-เค-ไอ .สกีน้ำ น. กีฬาอย่างหนึ่งคล้ายสกี แต่เล่นในนํ้า ใช้เรือยนต์ลาก. (อ. water ski).
สกุณ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-นอ-เนน เป็นคำนาม หมายถึง นก. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต ศกุน เขียนว่า สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู.สกุณ น. นก. (ป.; ส. ศกุน).
สกุณา, สกุณี สกุณา เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-นอ-เนน-สะ-หระ-อา สกุณี เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-นอ-เนน-สะ-หระ-อี ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำนาม หมายถึง นก.สกุณา, สกุณี (กลอน) น. นก.
สกุน เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง รก, ราชาศัพท์ใช้ว่า พระสกุน.สกุน น. รก, ราชาศัพท์ใช้ว่า พระสกุน.
สกุนต์ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู-ตอ-เต่า-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง นก. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต ศกุนฺต เขียนว่า สอ-สา-ลา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู-พิน-ทุ-ตอ-เต่า.สกุนต์ น. นก. (ป.; ส. ศกุนฺต).
สกุล เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-ลอ-ลิง[สะกุน] เป็นคำนาม หมายถึง ตระกูล, วงศ์, เชื้อสาย, เผ่าพันธุ์; เชื้อชาติผู้ดี เช่น เป็นคนมีสกุล ผู้ดีมีสกุล.สกุล [สะกุน] น. ตระกูล, วงศ์, เชื้อสาย, เผ่าพันธุ์; เชื้อชาติผู้ดี เช่น เป็นคนมีสกุล ผู้ดีมีสกุล.
สกุลรุนชาติ เขียนว่า สอ-เสือ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-ลอ-ลิง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อา-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ[สะกุนรุนชาด] เป็นคำนาม หมายถึง ตระกูลผู้ดี เช่น เขาเป็นคนมีสกุลรุนชาติ.สกุลรุนชาติ [สะกุนรุนชาด] น. ตระกูลผู้ดี เช่น เขาเป็นคนมีสกุลรุนชาติ.
สเกต เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-เอ-กอ-ไก่-ตอ-เต่า เป็นคำนาม หมายถึง ที่สวมเท้าทําด้วยโลหะมีล้อเล็ก ๆ ใช้สวมเวลาเล่นสเกต; ชื่อการเล่นอย่างหนึ่งที่ผู้เล่นต้องสวมสเกตวิ่งไปมาบนพื้นเรียบ ๆ. ในวงเล็บ มาจากภาษาอังกฤษ roller เขียนว่า อา-โอ-แอล-แอล-อี-อา skate เขียนว่า เอส-เค-เอ-ที-อี .สเกต น. ที่สวมเท้าทําด้วยโลหะมีล้อเล็ก ๆ ใช้สวมเวลาเล่นสเกต; ชื่อการเล่นอย่างหนึ่งที่ผู้เล่นต้องสวมสเกตวิ่งไปมาบนพื้นเรียบ ๆ. (อ. roller skate).
สเกตน้ำแข็ง เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-เอ-กอ-ไก่-ตอ-เต่า-นอ-หนู-ไม้-โท-สะ-หระ-อำ-สะ-หระ-แอ-ขอ-ไข่-ไม้-ไต่-คู้-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง รองเท้าหุ้มข้อซึ่งมีพื้นติดแผ่นโลหะคล้ายสันมีดสําหรับแล่นลื่นไปบนลานนํ้าแข็ง; ชื่อการเล่นอย่างหนึ่งที่ผู้เล่นต้องสวมรองเท้าสเกตเช่นนั้นแล้วแล่นลื่นไปบนลานน้ำแข็ง. ในวงเล็บ มาจากภาษาอังกฤษ skate เขียนว่า เอส-เค-เอ-ที-อี.สเกตน้ำแข็ง น. รองเท้าหุ้มข้อซึ่งมีพื้นติดแผ่นโลหะคล้ายสันมีดสําหรับแล่นลื่นไปบนลานนํ้าแข็ง; ชื่อการเล่นอย่างหนึ่งที่ผู้เล่นต้องสวมรองเท้าสเกตเช่นนั้นแล้วแล่นลื่นไปบนลานน้ำแข็ง. (อ. skate).
สแกนเดียม เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-แอ-กอ-ไก่-นอ-หนู-สะ-หระ-เอ-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง ธาตุลําดับที่ ๒๑ สัญลักษณ์ Sc เป็นโลหะที่หายาก ลักษณะเป็นของแข็งสีขาว หลอมละลายที่ ๑๕๓๙°ซ. ในวงเล็บ มาจากภาษาอังกฤษ scandium เขียนว่า เอส-ซี-เอ-เอ็น-ดี-ไอ-ยู-เอ็ม.สแกนเดียม น. ธาตุลําดับที่ ๒๑ สัญลักษณ์ Sc เป็นโลหะที่หายาก ลักษณะเป็นของแข็งสีขาว หลอมละลายที่ ๑๕๓๙°ซ. (อ. scandium).
สขะ, สขา, สขิ สขะ เขียนว่า สอ-เสือ-ขอ-ไข่-สะ-หระ-อะ สขา เขียนว่า สอ-เสือ-ขอ-ไข่-สะ-หระ-อา สขิ เขียนว่า สอ-เสือ-ขอ-ไข่-สะ-หระ-อิ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง เพื่อน, สหาย. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต .สขะ, สขา, สขิ (แบบ) น. เพื่อน, สหาย. (ป., ส.).
สง เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู เป็นคำกริยา หมายถึง หย่งให้กระจายตัวหรือยกขึ้นให้นํ้าหรือของเล็ก ๆ ร่วงลง เช่น สงข้าว สงฟาง สงถั่วงอก สงเส้นบะหมี่. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สุกจัด, แก่จัด, (ใช้แก่หมาก) ในคำว่า หมากสง.สง ก. หย่งให้กระจายตัวหรือยกขึ้นให้นํ้าหรือของเล็ก ๆ ร่วงลง เช่น สงข้าว สงฟาง สงถั่วงอก สงเส้นบะหมี่. ว. สุกจัด, แก่จัด, (ใช้แก่หมาก) ในคำว่า หมากสง.
ส่ง เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู เป็นคำกริยา หมายถึง ทําให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งเคลื่อนพ้นจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เพื่อให้ถึงผู้รับหรือเป้าหมายด้วยอาการต่าง ๆ กัน เช่น ส่งข้าม ส่งผ่าน ส่งต่อ; หนุน ดัน หรือเสริมให้สูงขึ้น เช่น คนอยู่ข้างล่างช่วยส่งก้นคนข้างบนให้ปีนพ้นกำแพง ติดไม้ปั้นลมส่งหลังคาเรือน; แสดงอัธยาศัยในเมื่อมีผู้จะจากไป เช่น ไปส่ง เลี้ยงส่ง; อาการที่ส่งเครื่องหมาย ข้อความ ข่าวสาร หรือภาพ เป็นต้น ไปให้อีกฝ่ายหนึ่งโดยอาศัยกรรมวิธีต่าง ๆ เช่น ส่งสัญญาณ ส่งรหัส ส่งโทรเลข ส่งวิทยุ ส่งโทรภาพ.ส่ง ก. ทําให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งเคลื่อนพ้นจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เพื่อให้ถึงผู้รับหรือเป้าหมายด้วยอาการต่าง ๆ กัน เช่น ส่งข้าม ส่งผ่าน ส่งต่อ; หนุน ดัน หรือเสริมให้สูงขึ้น เช่น คนอยู่ข้างล่างช่วยส่งก้นคนข้างบนให้ปีนพ้นกำแพง ติดไม้ปั้นลมส่งหลังคาเรือน; แสดงอัธยาศัยในเมื่อมีผู้จะจากไป เช่น ไปส่ง เลี้ยงส่ง; อาการที่ส่งเครื่องหมาย ข้อความ ข่าวสาร หรือภาพ เป็นต้น ไปให้อีกฝ่ายหนึ่งโดยอาศัยกรรมวิธีต่าง ๆ เช่น ส่งสัญญาณ ส่งรหัส ส่งโทรเลข ส่งวิทยุ ส่งโทรภาพ.
ส่ง ๆ เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู ไม้-ยะ-มก ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ลวก ๆ, มักง่าย, เช่น พูดส่ง ๆ พอเอาตัวรอด, ส่งเดช ก็ว่า.ส่ง ๆ (ปาก) ว. ลวก ๆ, มักง่าย, เช่น พูดส่ง ๆ พอเอาตัวรอด, ส่งเดช ก็ว่า.
ส่งกระแสจิต เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-แอ-สอ-เสือ-จอ-จาน-สะ-หระ-อิ-ตอ-เต่า เป็นคำกริยา หมายถึง อาการที่ส่งความนึกคิดติดต่อกันระหว่างจิตของคนหนึ่งกับอีกคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างกันโดยไม่ต้องอาศัยประสาทสัมผัสทั้ง ๕ อย่างใดอย่างหนึ่ง.ส่งกระแสจิต ก. อาการที่ส่งความนึกคิดติดต่อกันระหว่างจิตของคนหนึ่งกับอีกคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างกันโดยไม่ต้องอาศัยประสาทสัมผัสทั้ง ๕ อย่างใดอย่างหนึ่ง.
ส่งกลิ่น เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-กอ-ไก่-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ-ไม้-เอก-นอ-หนู เป็นคำกริยา หมายถึง กระจายออกไปจนได้กลิ่น เช่น อาหารส่งกลิ่นหอมน่ากิน.ส่งกลิ่น ก. กระจายออกไปจนได้กลิ่น เช่น อาหารส่งกลิ่นหอมน่ากิน.
ส่งกลีบ เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-กอ-ไก่-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-บอ-ไบ-ไม้ เป็นคำกริยา หมายถึง อาการที่ใช้เข็มร้อยมาลัยให้กลีบดอกไม้หรือใบไม้ยื่นยาวออกมาจากเข็มเสมอกัน.ส่งกลีบ ก. อาการที่ใช้เข็มร้อยมาลัยให้กลีบดอกไม้หรือใบไม้ยื่นยาวออกมาจากเข็มเสมอกัน.
ส่งข่าว เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-ขอ-ไข่-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน เป็นคำกริยา หมายถึง บอกข่าว เช่น จะเดินทางเมื่อไรก็ส่งข่าวด้วยนะ.ส่งข่าว ก. บอกข่าว เช่น จะเดินทางเมื่อไรก็ส่งข่าวด้วยนะ.
ส่งข้าวส่งน้ำ, ส่งปิ่นโต ส่งข้าวส่งน้ำ เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-ขอ-ไข่-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-นอ-หนู-ไม้-โท-สะ-หระ-อำ ส่งปิ่นโต เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อิ-ไม้-เอก-นอ-หนู-สะ-หระ-โอ-ตอ-เต่า เป็นคำกริยา หมายถึง เอาข้าวปลาอาหารเป็นต้นไปให้แก่ผู้ต้องหาหรือนักโทษ เช่น ถ้าติดตะรางใครจะส่งข้าวส่งน้ำให้ ญาติติดคุกเลยต้องส่งปิ่นโตให้เป็นประจำ.ส่งข้าวส่งน้ำ, ส่งปิ่นโต ก. เอาข้าวปลาอาหารเป็นต้นไปให้แก่ผู้ต้องหาหรือนักโทษ เช่น ถ้าติดตะรางใครจะส่งข้าวส่งน้ำให้ ญาติติดคุกเลยต้องส่งปิ่นโตให้เป็นประจำ.
ส่งความสุข เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-คอ-ควาย-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สอ-เสือ-สะ-หระ-อุ-ขอ-ไข่ เป็นคำกริยา หมายถึง ตั้งจิตอธิษฐานให้ผู้รับบัตรอวยพรมีความสุขความเจริญในวันสำคัญ เช่น วันปีใหม่ วันเกิด.ส่งความสุข ก. ตั้งจิตอธิษฐานให้ผู้รับบัตรอวยพรมีความสุขความเจริญในวันสำคัญ เช่น วันปีใหม่ วันเกิด.
ส่งใจ เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-สะ-หระ-ไอ-ไม้-ม้วน-จอ-จาน เป็นคำกริยา หมายถึง ส่งน้ำใจที่มีความปรารถนาดีเพื่อให้เป็นกำลังใจแก่ผู้รับ เช่น ส่งใจไปช่วยทหารในแนวหน้า.ส่งใจ ก. ส่งน้ำใจที่มีความปรารถนาดีเพื่อให้เป็นกำลังใจแก่ผู้รับ เช่น ส่งใจไปช่วยทหารในแนวหน้า.
ส่งดอก เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-ดอ-เด็ก-ออ-อ่าง-กอ-ไก่ เป็นคำกริยา หมายถึง อาการที่ใช้เข็มร้อยก้านดอกไม้เช่นดอกพุด ดอกมะลิ ให้แต่ละดอกยื่นยาวจากเข็มได้ระยะเสมอกัน; นําดอกเบี้ยไปส่งให้, ชําระดอกเบี้ย.ส่งดอก ก. อาการที่ใช้เข็มร้อยก้านดอกไม้เช่นดอกพุด ดอกมะลิ ให้แต่ละดอกยื่นยาวจากเข็มได้ระยะเสมอกัน; นําดอกเบี้ยไปส่งให้, ชําระดอกเบี้ย.
ส่งเดช เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-สะ-หระ-เอ-ดอ-เด็ก-ชอ-ช้าง ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ลวก ๆ, มักง่าย, เช่น ทำส่งเดชพอให้พ้นตัว, ส่ง ๆ ก็ว่า.ส่งเดช (ปาก) ว. ลวก ๆ, มักง่าย, เช่น ทำส่งเดชพอให้พ้นตัว, ส่ง ๆ ก็ว่า.
ส่งตัว เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-ตอ-เต่า-ไม้-หัน-อา-กาด-วอ-แหวน เป็นคำกริยา หมายถึง นําตัวเจ้าสาวไปส่งให้แก่เจ้าบ่าวตามฤกษ์ เช่น ได้ฤกษ์ส่งตัว.ส่งตัว ก. นําตัวเจ้าสาวไปส่งให้แก่เจ้าบ่าวตามฤกษ์ เช่น ได้ฤกษ์ส่งตัว.
ส่งท้าย เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-ทอ-ทะ-หาน-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก เป็นคำกริยา หมายถึง พายกระตุ้นท้ายเรือเพื่อให้แล่นเร็ว เช่น เมื่อใกล้จะถึงเส้นชัยนายท้ายก็เร่งพายส่งท้าย; พูดหรือทําท้ายสุดเพื่ออําลา เช่น เขียนบทส่งท้ายต้องไว้ฝีมือหน่อย ส่งท้ายการเลี้ยงด้วยการให้พร.ส่งท้าย ก. พายกระตุ้นท้ายเรือเพื่อให้แล่นเร็ว เช่น เมื่อใกล้จะถึงเส้นชัยนายท้ายก็เร่งพายส่งท้าย; พูดหรือทําท้ายสุดเพื่ออําลา เช่น เขียนบทส่งท้ายต้องไว้ฝีมือหน่อย ส่งท้ายการเลี้ยงด้วยการให้พร.
ส่งทุกข์ เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-ขอ-ไข่-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำกริยา หมายถึง ถ่ายอุจจาระ.ส่งทุกข์ ก. ถ่ายอุจจาระ.
ส่งพระเคราะห์ เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-พอ-พาน-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-คอ-ควาย-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ-หอ-หีบ-ทัน-ทะ-คาด ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในโหราศาสตร์ เป็นคำกริยา หมายถึง ทำพิธีส่งเทวดาประจำดาวพระเคราะห์ดวงที่กำลังจะสิ้นสุดการเสวยอายุเพื่อความสวัสดิมงคลตามความเชื่อทางโหราศาสตร์.ส่งพระเคราะห์ (โหร) ก. ทำพิธีส่งเทวดาประจำดาวพระเคราะห์ดวงที่กำลังจะสิ้นสุดการเสวยอายุเพื่อความสวัสดิมงคลตามความเชื่อทางโหราศาสตร์.
ส่งภาษา เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อา-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อา เป็นคำกริยา หมายถึง เจรจาปราศรัยกับผู้ที่พูดอีกภาษาหนึ่ง โดยกล่าวคําเป็นภาษานั้น เช่น ให้ล่ามไปส่งภาษาถามเขาดูว่าต้องการอะไร; พูดเป็นภาษาอื่นหรือสำเนียงอื่นที่ตนฟังไม่เข้าใจ เช่น เขาส่งภาษาจีนกัน เขาส่งภาษาถิ่นมาเลยฟังไม่รู้เรื่อง.ส่งภาษา ก. เจรจาปราศรัยกับผู้ที่พูดอีกภาษาหนึ่ง โดยกล่าวคําเป็นภาษานั้น เช่น ให้ล่ามไปส่งภาษาถามเขาดูว่าต้องการอะไร; พูดเป็นภาษาอื่นหรือสำเนียงอื่นที่ตนฟังไม่เข้าใจ เช่น เขาส่งภาษาจีนกัน เขาส่งภาษาถิ่นมาเลยฟังไม่รู้เรื่อง.
ส่งลำ เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อำ เป็นคำกริยา หมายถึง ร้องเพลงส่งให้ปี่พาทย์รับบรรเลงตามทํานองที่ร้อง (ใช้แก่การขับเสภาและสักวา); กระทําครั้งสุดท้าย เช่น เตะส่งลำ.ส่งลำ ก. ร้องเพลงส่งให้ปี่พาทย์รับบรรเลงตามทํานองที่ร้อง (ใช้แก่การขับเสภาและสักวา); กระทําครั้งสุดท้าย เช่น เตะส่งลำ.
ส่งวิญญาณ เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-วอ-แหวน-สะ-หระ-อิ-ยอ-หยิง-ยอ-หยิง-สะ-หระ-อา-นอ-เนน เป็นคำกริยา หมายถึง ทำพิธีเพื่อให้วิญญาณผู้ตายไปเกิดในสุคติตามคติความเชื่อถือของพระพุทธศาสนาลัทธิมหายาน.ส่งวิญญาณ ก. ทำพิธีเพื่อให้วิญญาณผู้ตายไปเกิดในสุคติตามคติความเชื่อถือของพระพุทธศาสนาลัทธิมหายาน.
ส่งส่วย เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-สอ-เสือ-ไม้-เอก-วอ-แหวน-ยอ-ยัก เป็นคำกริยา หมายถึง ส่งเงินเป็นต้นให้เป็นประจำตามที่ตกลงกัน (มักใช้ในทางไม่สุจริต) เช่น ผู้ลักลอบเล่นการพนันต้องส่งส่วยให้พวกนักเลงเจ้าถิ่น.ส่งส่วย ก. ส่งเงินเป็นต้นให้เป็นประจำตามที่ตกลงกัน (มักใช้ในทางไม่สุจริต) เช่น ผู้ลักลอบเล่นการพนันต้องส่งส่วยให้พวกนักเลงเจ้าถิ่น.
ส่งสัมผัส เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-สอ-เสือ-ไม้-หัน-อา-กาด-มอ-ม้า-ผอ-ผึ้ง-ไม้-หัน-อา-กาด-สอ-เสือ เป็นคำกริยา หมายถึง เรียกคำสุดท้ายของวรรคหน้าแห่งคำประพันธ์ที่คล้องจองกับคำใดคำหนึ่งในวรรคถัดไปว่า คำส่งสัมผัส.ส่งสัมผัส ก. เรียกคำสุดท้ายของวรรคหน้าแห่งคำประพันธ์ที่คล้องจองกับคำใดคำหนึ่งในวรรคถัดไปว่า คำส่งสัมผัส.
ส่งสายตา เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อา เป็นคำกริยา หมายถึง มองโดยมีเจตนาให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้ว่าตนมีความรู้สึกพอใจ ไม่พอใจ อ้อนวอน หรือเพื่อเป็นการปรามเป็นต้น เช่น ส่งสายตาปรามไม่ให้เพื่อนพูด.ส่งสายตา ก. มองโดยมีเจตนาให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้ว่าตนมีความรู้สึกพอใจ ไม่พอใจ อ้อนวอน หรือเพื่อเป็นการปรามเป็นต้น เช่น ส่งสายตาปรามไม่ให้เพื่อนพูด.
ส่งเสริม เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-สะ-หระ-เอ-สอ-เสือ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-มอ-ม้า เป็นคำกริยา หมายถึง เกื้อหนุน, ช่วยเหลือสนับสนุนให้ดีขึ้น, เช่น ส่งเสริมการลงทุน ส่งเสริมการศึกษา.ส่งเสริม ก. เกื้อหนุน, ช่วยเหลือสนับสนุนให้ดีขึ้น, เช่น ส่งเสริมการลงทุน ส่งเสริมการศึกษา.
ส่งเสีย เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-สะ-หระ-เอ-สอ-เสือ-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก เป็นคำกริยา หมายถึง ให้การอุดหนุน, เกื้อกูล, เช่น ส่งเสียลูกเรียนหนังสือ.ส่งเสีย ก. ให้การอุดหนุน, เกื้อกูล, เช่น ส่งเสียลูกเรียนหนังสือ.
ส่งเสียง เขียนว่า สอ-เสือ-ไม้-เอก-งอ-งู-สะ-หระ-เอ-สอ-เสือ-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-งอ-งู เป็นคำกริยา หมายถึง ร้องเสียงดัง, แผดเสียง, เช่น ดีใจอะไรส่งเสียงมาแต่ไกล ส่งเสียงอื้ออึง.ส่งเสียง ก. ร้องเสียงดัง, แผดเสียง, เช่น ดีใจอะไรส่งเสียงมาแต่ไกล ส่งเสียงอื้ออึง.
สงกร เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-กอ-ไก่-รอ-เรือ[–กอน] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง การปะปน, การคาบเกี่ยว. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต สํกร เขียนว่า สอ-เสือ-นิก-คะ-หิด-กอ-ไก่-รอ-เรือ.สงกร [–กอน] (แบบ) น. การปะปน, การคาบเกี่ยว. (ป.; ส. สํกร).
สงกรานต์ เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-ตอ-เต่า-ทัน-ทะ-คาด ความหมายที่ [–กฺราน] เป็นคำนาม หมายถึง เทศกาลเนื่องในการขึ้นปีใหม่อย่างเก่า ซึ่งกําหนดตามสุริยคติ ปรกติตกวันที่ ๑๓–๑๔–๑๕ เมษายน วันที่ ๑๓ คือวันมหาสงกรานต์ วันที่ ๑๔ คือวันเนา และวันที่ ๑๕ คือวันเถลิงศก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต สงฺกฺรานฺติ เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-พิน-ทุ-กอ-ไก่-พิน-ทุ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-พิน-ทุ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ.สงกรานต์ ๑ [–กฺราน] น. เทศกาลเนื่องในการขึ้นปีใหม่อย่างเก่า ซึ่งกําหนดตามสุริยคติ ปรกติตกวันที่ ๑๓–๑๔–๑๕ เมษายน วันที่ ๑๓ คือวันมหาสงกรานต์ วันที่ ๑๔ คือวันเนา และวันที่ ๑๕ คือวันเถลิงศก. (ส. สงฺกฺรานฺติ).
สงกรานต์ เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-ตอ-เต่า-ทัน-ทะ-คาด ความหมายที่ [–กฺราน] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อสัตว์พวกหนอนทะเล มีหลายวงศ์ เช่น วงศ์ Phyllodocidae ลำตัวยาวเป็นปล้อง แต่ละปล้องมีรยางค์สีรุ้ง ๑ คู่อยู่ข้างลำตัว อาศัยอยู่ในทะเล ช่วงประมาณเดือนเมษายนใกล้วันสงกรานต์จะพบอยู่ในบริเวณน้ำกร่อยหรือแม่น้ำลำคลองที่ติดต่อกับทะเลเพื่อผสมพันธุ์ จึงเรียกว่า ตัวสงกรานต์.สงกรานต์ ๒ [–กฺราน] น. ชื่อสัตว์พวกหนอนทะเล มีหลายวงศ์ เช่น วงศ์ Phyllodocidae ลำตัวยาวเป็นปล้อง แต่ละปล้องมีรยางค์สีรุ้ง ๑ คู่อยู่ข้างลำตัว อาศัยอยู่ในทะเล ช่วงประมาณเดือนเมษายนใกล้วันสงกรานต์จะพบอยู่ในบริเวณน้ำกร่อยหรือแม่น้ำลำคลองที่ติดต่อกับทะเลเพื่อผสมพันธุ์ จึงเรียกว่า ตัวสงกรานต์.
สงกา เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง ความสงสัย. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี สงฺกา เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-พิน-ทุ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา และมาจากภาษาสันสกฤต ศงฺกา เขียนว่า สอ-สา-ลา-งอ-งู-พิน-ทุ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา.สงกา น. ความสงสัย. (ป. สงฺกา; ส. ศงฺกา).
สงโกจ เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-สะ-หระ-โอ-กอ-ไก่-จอ-จาน[–โกด] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำกริยา หมายถึง หดเข้า, สั้นเข้า; สยิ้ว, หน้านิ่วคิ้วขมวด. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี สงฺโกจ เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-พิน-ทุ-สะ-หระ-โอ-กอ-ไก่-จอ-จาน และมาจากภาษาสันสกฤต สํโกจ เขียนว่า สอ-เสือ-นิก-คะ-หิด-สะ-หระ-โอ-กอ-ไก่-จอ-จาน.สงโกจ [–โกด] (แบบ) ก. หดเข้า, สั้นเข้า; สยิ้ว, หน้านิ่วคิ้วขมวด. (ป. สงฺโกจ; ส. สํโกจ).
สงค์ เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-คอ-ควาย-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง ความข้องอยู่, ความเกี่ยวพัน, การติดอยู่. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี สงฺค เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-พิน-ทุ-คอ-ควาย และมาจากภาษาสันสกฤต สํค เขียนว่า สอ-เสือ-นิก-คะ-หิด-คอ-ควาย.สงค์ น. ความข้องอยู่, ความเกี่ยวพัน, การติดอยู่. (ป. สงฺค; ส. สํค).
สงคร เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-คอ-ควาย-รอ-เรือ[–คอน] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง ความตกลง, สัญญา, ความผัดเพี้ยน. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี สงฺคร เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-พิน-ทุ-คอ-ควาย-รอ-เรือ และมาจากภาษาสันสกฤต สํคร เขียนว่า สอ-เสือ-นิก-คะ-หิด-คอ-ควาย-รอ-เรือ.สงคร [–คอน] (แบบ) น. ความตกลง, สัญญา, ความผัดเพี้ยน. (ป. สงฺคร; ส. สํคร).
สงคราม เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-คอ-ควาย-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า[–คฺราม] เป็นคำนาม หมายถึง การรบใหญ่ที่มีคนจำนวนมากต่อสู้ฆ่าฟันกัน, โดยปริยายหมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น สงครามชีวิต สงครามปาก. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต สํคฺราม เขียนว่า สอ-เสือ-นิก-คะ-หิด-คอ-ควาย-พิน-ทุ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า และมาจากภาษาบาลี สงฺคาม เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-พิน-ทุ-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า.สงคราม [–คฺราม] น. การรบใหญ่ที่มีคนจำนวนมากต่อสู้ฆ่าฟันกัน, โดยปริยายหมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น สงครามชีวิต สงครามปาก. (ส. สํคฺราม; ป. สงฺคาม).
สงครามกลางเมือง เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-คอ-ควาย-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-กอ-ไก่-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-งอ-งู-สะ-หระ-เอ-มอ-ม้า-สะ-หระ-อือ-ออ-อ่าง-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง สงครามระหว่างชนที่อาศัยอยู่ในประเทศเดียวกัน.สงครามกลางเมือง น. สงครามระหว่างชนที่อาศัยอยู่ในประเทศเดียวกัน.
สงครามนิวเคลียร์ เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-คอ-ควาย-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-นอ-หนู-สะ-หระ-อิ-วอ-แหวน-สะ-หระ-เอ-คอ-ควาย-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง สงครามที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์.สงครามนิวเคลียร์ น. สงครามที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์.
สงครามเย็น เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-คอ-ควาย-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-เอ-ยอ-ยัก-ไม้-ไต่-คู้-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง การต่อสู้ระหว่างประเทศต่อประเทศโดยไม่ใช้อาวุธ แต่ใช้อํานาจอื่นแทน เช่น อำนาจทางการเมือง อำนาจทางเศรษฐกิจ.สงครามเย็น น. การต่อสู้ระหว่างประเทศต่อประเทศโดยไม่ใช้อาวุธ แต่ใช้อํานาจอื่นแทน เช่น อำนาจทางการเมือง อำนาจทางเศรษฐกิจ.
สงครามโลก เขียนว่า สอ-เสือ-งอ-งู-คอ-ควาย-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-โอ-ลอ-ลิง-กอ-ไก่ เป็นคำนาม หมายถึง สงครามใหญ่ที่มีประเทศมหาอำนาจเป็นคู่สงคราม.สงครามโลก น. สงครามใหญ่ที่มีประเทศมหาอำนาจเป็นคู่สงคราม.