ฉลัก เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่[ฉะหฺลัก] เป็นคำกริยา หมายถึง สลัก, แกะให้เป็นลวดลาย. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร ฉฺลาก่ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ไม้-เอก ว่า สลัก .ฉลัก [ฉะหฺลัก] ก. สลัก, แกะให้เป็นลวดลาย. (ข. ฉฺลาก่ ว่า สลัก).
ฉลับ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-บอ-ไบ-ไม้[ฉะหฺลับ] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง สลับ เช่น แล่นลล้าวฉลับพล. ในวงเล็บ มาจาก สมุทรโฆษคำฉันท์ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๘.ฉลับ [ฉะหฺลับ] (กลอน) ก. สลับ เช่น แล่นลล้าวฉลับพล. (สมุทรโฆษ).
ฉลาก เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่[ฉะหฺลาก] เป็นคำนาม หมายถึง สิ่งเช่นติ้ว ตั๋ว หรือแผ่นกระดาษเล็ก ๆ เป็นต้น ซึ่งทําเป็นเครื่องหมายกําหนดไว้เนื่องในการเสี่ยงโชคเสี่ยงทายเป็นต้น; ป้ายบอกชื่อยา ใช้ปิดขวดยารักษาโรค เรียกว่า ฉลากยา; สลาก ก็ว่า; ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย หมายถึง รูป รอยประดิษฐ์ เครื่องหมาย หรือข้อความใด ๆ ที่แสดงไว้ที่ภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยา อาหาร หรือผลิตภัณฑ์อื่น เช่น ฉลากยา ฉลากเครื่องสําอาง.ฉลาก [ฉะหฺลาก] น. สิ่งเช่นติ้ว ตั๋ว หรือแผ่นกระดาษเล็ก ๆ เป็นต้น ซึ่งทําเป็นเครื่องหมายกําหนดไว้เนื่องในการเสี่ยงโชคเสี่ยงทายเป็นต้น; ป้ายบอกชื่อยา ใช้ปิดขวดยารักษาโรค เรียกว่า ฉลากยา; สลาก ก็ว่า; (กฎ) รูป รอยประดิษฐ์ เครื่องหมาย หรือข้อความใด ๆ ที่แสดงไว้ที่ภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยา อาหาร หรือผลิตภัณฑ์อื่น เช่น ฉลากยา ฉลากเครื่องสําอาง.
ฉลากบาง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-อา-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเรือชนิดหนึ่ง.ฉลากบาง น. ชื่อเรือชนิดหนึ่ง.
ฉลาง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-งอ-งู[ฉะหฺลาง] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อชนชาติเดิมพวกหนึ่ง อยู่ทางทะเลด้านตะวันตกของแหลมมลายู, ชาวนํ้า หรือ ชาวเล ก็เรียก. ในวงเล็บ มาจากภาษามลายู ว่า ซะลัง ; ชื่อผ้าที่มีลายชนิดหนึ่ง เรียกว่า ผ้าลายฉลาง เช่น พวกโขลนเลวลายฉลางกับริ้วญวน. ในวงเล็บ มาจาก หนังสือบทเสภา เรื่องขุนช้างขุนแผน ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐-๖๑.ฉลาง [ฉะหฺลาง] น. ชื่อชนชาติเดิมพวกหนึ่ง อยู่ทางทะเลด้านตะวันตกของแหลมมลายู, ชาวนํ้า หรือ ชาวเล ก็เรียก. (ม. ว่า ซะลัง); ชื่อผ้าที่มีลายชนิดหนึ่ง เรียกว่า ผ้าลายฉลาง เช่น พวกโขลนเลวลายฉลางกับริ้วญวน. (ขุนช้างขุนแผน).
ฉลาด เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก ความหมายที่ [ฉะหฺลาด] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เฉียบแหลม, ไหวพริบดี, ปัญญาดี. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร ฉฺลาต เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ตอ-เต่า ฉฺลาส เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ .ฉลาด ๑ [ฉะหฺลาด] ว. เฉียบแหลม, ไหวพริบดี, ปัญญาดี. (ข. ฉฺลาต, ฉฺลาส).
ฉลาดเฉลียว เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-วอ-แหวน เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีปัญญาและไหวพริบดี, เฉลียวฉลาด ก็ว่า. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร ฉฺลาตเฉฺลียว เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ตอ-เต่า-สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-วอ-แหวน ฉฺลาสเฉฺลียว เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-วอ-แหวน .ฉลาดเฉลียว ว. มีปัญญาและไหวพริบดี, เฉลียวฉลาด ก็ว่า. (ข. ฉฺลาตเฉฺลียว, ฉฺลาสเฉฺลียว).
ฉลาด เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก ความหมายที่ [ฉะหฺลาด]ดู สลาด เขียนว่า สอ-เสือ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก.ฉลาด ๒ [ฉะหฺลาด] ดู สลาด.
ฉลาม เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า[ฉะหฺลาม] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อปลาทะเลหลายวงศ์ในอันดับ Lamniformes เป็นปลากระดูกอ่อน เหงือกส่วนใหญ่มี ๕ คู่อยู่ข้างส่วนหัว แฉกบนของหางยกสูงขึ้นและยาวมาก ตัวผู้ขอบในของครีบท้องขยายใหญ่มีแท่งอวัยวะสืบพันธุ์ เรียกว่า เดือย บางชนิดเป็นปลาผิวนํ้า เช่น ฉลามหนู (Scoliodon sorrakowvah), ฉลามเสือ เสือทะเล พิมพา หรือ ตะเพียนทอง (Galeocer–do cuvieri) บางชนิดอยู่สงบตามพื้นท้องทะเล เช่น ฉลามกบ หรือ ฉลามหิน (Chiloscyllium griseum) บางชนิดอยู่ในนํ้าลึกมาก เช่น ฉลามนํ้าลึก (Squalus fernandinus) บางชนิดขนาดใหญ่มาก เช่น ฉลามวาฬ (Rhincodon typus) บางชนิดหัวแผ่แบน เรียก ฉลามหัวค้อน หรือ อ้ายแบ้ เช่น ชนิด Sphyrna leweni.ฉลาม [ฉะหฺลาม] น. ชื่อปลาทะเลหลายวงศ์ในอันดับ Lamniformes เป็นปลากระดูกอ่อน เหงือกส่วนใหญ่มี ๕ คู่อยู่ข้างส่วนหัว แฉกบนของหางยกสูงขึ้นและยาวมาก ตัวผู้ขอบในของครีบท้องขยายใหญ่มีแท่งอวัยวะสืบพันธุ์ เรียกว่า เดือย บางชนิดเป็นปลาผิวนํ้า เช่น ฉลามหนู (Scoliodon sorrakowvah), ฉลามเสือ เสือทะเล พิมพา หรือ ตะเพียนทอง (Galeocer–do cuvieri) บางชนิดอยู่สงบตามพื้นท้องทะเล เช่น ฉลามกบ หรือ ฉลามหิน (Chiloscyllium griseum) บางชนิดอยู่ในนํ้าลึกมาก เช่น ฉลามนํ้าลึก (Squalus fernandinus) บางชนิดขนาดใหญ่มาก เช่น ฉลามวาฬ (Rhincodon typus) บางชนิดหัวแผ่แบน เรียก ฉลามหัวค้อน หรือ อ้ายแบ้ เช่น ชนิด Sphyrna leweni.
ฉลามเสือ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สะ-หระ-เอ-สอ-เสือ-สะ-หระ-อือ-ออ-อ่างดู พิมพา เขียนว่า พอ-พาน-สะ-หระ-อิ-มอ-ม้า-พอ-พาน-สะ-หระ-อา.ฉลามเสือ ดู พิมพา.
ฉลาย เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก[ฉะหฺลาย] เป็นคำกริยา หมายถึง สลาย, แตกพัง, ทลาย, ละลาย.ฉลาย [ฉะหฺลาย] ก. สลาย, แตกพัง, ทลาย, ละลาย.
ฉลิว เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ-วอ-แหวน[ฉะหฺลิว] เป็นคำนาม หมายถึง เฉลว.ฉลิว [ฉะหฺลิว] น. เฉลว.
ฉลีก เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-กอ-ไก่[ฉะหฺลีก] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ฉีก, ทําให้ขาดจากกัน; แยกออกจากกัน.ฉลีก [ฉะหฺลีก] (กลอน) ก. ฉีก, ทําให้ขาดจากกัน; แยกออกจากกัน.
ฉลุ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อุ[ฉะหฺลุ] เป็นคำกริยา หมายถึง ปรุ, สลัก.ฉลุ [ฉะหฺลุ] ก. ปรุ, สลัก.
ฉลุลาย เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อุ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก เป็นคำกริยา หมายถึง ฉลุให้เป็นลาย, ลายที่ฉลุแล้ว เรียกว่า ลายฉลุ.ฉลุลาย ก. ฉลุให้เป็นลาย, ลายที่ฉลุแล้ว เรียกว่า ลายฉลุ.
ฉลุกฉลวย เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-วอ-แหวน-ยอ-ยัก[ฉะหฺลุกฉะหฺลวย] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง รวดเร็ว.ฉลุกฉลวย [ฉะหฺลุกฉะหฺลวย] ว. รวดเร็ว.
ฉลู เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อู[ฉะหฺลู] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อปีที่ ๒ ของรอบปีนักษัตร มีวัวเป็นเครื่องหมาย. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร ฉฺลูว เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อู-วอ-แหวน.ฉลู [ฉะหฺลู] น. ชื่อปีที่ ๒ ของรอบปีนักษัตร มีวัวเป็นเครื่องหมาย. (ข. ฉฺลูว).
ฉวย เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-วอ-แหวน-ยอ-ยัก เป็นคำกริยา หมายถึง คว้า จับ หรือหยิบเอาโดยเร็ว. เป็นคำสันธาน หมายถึง ถ้า, แม้.ฉวย ก. คว้า จับ หรือหยิบเอาโดยเร็ว. สัน. ถ้า, แม้.
ฉวยฉาบ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-วอ-แหวน-ยอ-ยัก-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-บอ-ไบ-ไม้ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง จิกหรือหยิบแล้วบินหรือพาไป เช่น ฉวยฉาบคาบนาคี เป็นเหยื่อ. ในวงเล็บ มาจาก กาพย์ห่อโคลงเห่เรือ แบบเรียนกวีนิพนธ์.ฉวยฉาบ (กลอน) ก. จิกหรือหยิบแล้วบินหรือพาไป เช่น ฉวยฉาบคาบนาคี เป็นเหยื่อ. (เห่เรือ).
ฉวะ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-วอ-แหวน-สะ-หระ-อะ[ฉะวะ] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง ร่างสัตว์หรือคนที่ตายแล้ว, ซากศพ. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต ศว เขียนว่า สอ-สา-ลา-วอ-แหวน.ฉวะ [ฉะวะ] (แบบ) น. ร่างสัตว์หรือคนที่ตายแล้ว, ซากศพ. (ป.; ส. ศว).
ฉวัดเฉวียน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-วอ-แหวน-ไม้-หัน-อา-กาด-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-วอ-แหวน-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-นอ-หนู[ฉะหฺวัดฉะเหฺวียน] เป็นคำกริยา หมายถึง อาการที่บินวนเวียนไปมาอย่างผาดโผน เช่น บินฉวัดเฉวียน, แล่นเร็วอย่างผาดโผน เช่น ขับรถฉวัดเฉวียน. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง วนเวียน. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร ฉฺวาต่เฉวียล เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-ตอ-เต่า-ไม้-เอก-สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-วอ-แหวน-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-ลอ-ลิง.ฉวัดเฉวียน [ฉะหฺวัดฉะเหฺวียน] ก. อาการที่บินวนเวียนไปมาอย่างผาดโผน เช่น บินฉวัดเฉวียน, แล่นเร็วอย่างผาดโผน เช่น ขับรถฉวัดเฉวียน. ว. วนเวียน. (ข. ฉฺวาต่เฉวียล).
ฉวาง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-งอ-งู[ฉะหฺวาง] เป็นคำนาม หมายถึง วิธีเลขชั้นสูงของโบราณอย่างหนึ่ง. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร ฉฺวาง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-งอ-งู เป็นคำกริยา หมายถึง ขวาง เช่น อันว่าพยัคฆราช อันฉวางมรรคาพระมัทรี. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์มัทรี.ฉวาง [ฉะหฺวาง] น. วิธีเลขชั้นสูงของโบราณอย่างหนึ่ง. (ข. ฉฺวาง) ก. ขวาง เช่น อันว่าพยัคฆราช อันฉวางมรรคาพระมัทรี. (ม. คำหลวง มัทรี).
ฉวี เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-วอ-แหวน-สะ-หระ-อี[ฉะหฺวี] เป็นคำนาม หมายถึง ผิวกาย. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต ฉวิ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-วอ-แหวน-สะ-หระ-อิ.ฉวี [ฉะหฺวี] น. ผิวกาย. (ป., ส. ฉวิ).
ฉ้อ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-โท-ออ-อ่าง เป็นคำกริยา หมายถึง โกง เช่น ฉ้อทรัพย์.ฉ้อ ก. โกง เช่น ฉ้อทรัพย์.
ฉ้อโกง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-สะ-หระ-โอ-กอ-ไก่-งอ-งู ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อความผิดอาญาฐานหลอกลวงผู้อื่นโดยทุจริต ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง โดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทําให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทํา ถอน หรือทําลายเอกสารสิทธิ เรียกว่า ความผิดฐานฉ้อโกง.ฉ้อโกง (กฎ) น. ชื่อความผิดอาญาฐานหลอกลวงผู้อื่นโดยทุจริต ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง โดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทําให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทํา ถอน หรือทําลายเอกสารสิทธิ เรียกว่า ความผิดฐานฉ้อโกง.
ฉ้อฉล เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง เป็นคำกริยา หมายถึง ใช้อุบายหลอกลวงโดยเอาความเท็จมากล่าวเพื่อให้เขาหลงผิด.ฉ้อฉล ก. ใช้อุบายหลอกลวงโดยเอาความเท็จมากล่าวเพื่อให้เขาหลงผิด.
ฉ้อราษฎร์บังหลวง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-สอ-รือ-สี-ดอ-ชะ-ดา-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด-บอ-ไบ-ไม้-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู-หอ-หีบ-ลอ-ลิง-วอ-แหวน-งอ-งู เป็นคำกริยา หมายถึง การที่พนักงานเจ้าหน้าที่เก็บเงินจากราษฎรแล้วไม่ส่งหลวงหรือเบียดบังเงินหลวง.ฉ้อราษฎร์บังหลวง ก. การที่พนักงานเจ้าหน้าที่เก็บเงินจากราษฎรแล้วไม่ส่งหลวงหรือเบียดบังเงินหลวง.
ฉอก เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ออ-อ่าง-กอ-ไก่ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง แหว่ง, เว้า, (ใช้กับลักษณะของผม) ในคําว่า ผมฉอก, กระฉอก ก็ใช้.ฉอก ว. แหว่ง, เว้า, (ใช้กับลักษณะของผม) ในคําว่า ผมฉอก, กระฉอก ก็ใช้.
ฉ่อง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-งอ-งู เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ข้างล่างแคบข้างบนกว้าง คือ ตีนสอบ เช่นพูดว่า เรือนหลังนี้ตีนมันฉ่องเข้าไปนัก. ในวงเล็บ มาจาก ดิกชนารีไทย ค.ศ. ๑๘๔๖ ตัวเขียนของ J.H. Chandler. เป็นคำกริยา หมายถึง กระจ่าง เช่น ฉ่องพระโฉม; ส่อง เช่น คันฉ่อง.ฉ่อง ว. ข้างล่างแคบข้างบนกว้าง คือ ตีนสอบ เช่นพูดว่า เรือนหลังนี้ตีนมันฉ่องเข้าไปนัก. (ดิกชนารีไทย). ก. กระจ่าง เช่น ฉ่องพระโฉม; ส่อง เช่น คันฉ่อง.
ฉอด ๆ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ออ-อ่าง-ดอ-เด็ก ไม้-ยะ-มก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อาการที่พูดหรือเถียงไม่หยุดปาก เช่น พูดฉอด ๆ เถียงฉอด ๆ.ฉอด ๆ ว. อาการที่พูดหรือเถียงไม่หยุดปาก เช่น พูดฉอด ๆ เถียงฉอด ๆ.
ฉ่อย เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเพลงสําหรับว่าแก้กันระหว่างชายกับหญิง เป็นเพลงที่นิยมว่าปากเปล่าโดยอาศัยปฏิภาณเป็นสําคัญ เมื่อว่าจบบทแล้ว ลูกคู่จะรับพร้อมกันว่า ชา ฉา ชา ฉาด ชา หน่อยแม่.ฉ่อย น. ชื่อเพลงสําหรับว่าแก้กันระหว่างชายกับหญิง เป็นเพลงที่นิยมว่าปากเปล่าโดยอาศัยปฏิภาณเป็นสําคัญ เมื่อว่าจบบทแล้ว ลูกคู่จะรับพร้อมกันว่า ชา ฉา ชา ฉาด ชา หน่อยแม่.
ฉอเลาะ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ออ-อ่าง-สะ-หระ-เอ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง พูดออดอ้อนหรือแสดงกิริยาทํานองนั้นเพื่อให้เขาเอ็นดูเป็นต้น (มักใช้เฉพาะเด็กหรือผู้หญิง).ฉอเลาะ ว. พูดออดอ้อนหรือแสดงกิริยาทํานองนั้นเพื่อให้เขาเอ็นดูเป็นต้น (มักใช้เฉพาะเด็กหรือผู้หญิง).
ฉะ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง ฟันลงไป; ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก หมายถึง คําใช้แทนกริยาได้หลายอย่างแล้วแต่คําห้อมล้อม เช่น ฉะปาก หมายความว่า ต่อยปาก, ฉะข้าว หมายความว่า กินข้าว.ฉะ ๑ ก. ฟันลงไป; (ปาก) คําใช้แทนกริยาได้หลายอย่างแล้วแต่คําห้อมล้อม เช่น ฉะปาก หมายความว่า ต่อยปาก, ฉะข้าว หมายความว่า กินข้าว.
ฉะหน้าโรง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ-หอ-หีบ-นอ-หนู-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-โอ-รอ-เรือ-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง วิธีของเพลงทำนองหนึ่ง.ฉะหน้าโรง น. วิธีของเพลงทำนองหนึ่ง.
ฉะ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ ความหมายที่ คำกร่อนของคำหน้าซึ่งซ้ำกับคำหลังในคำที่มี ฉ เป็นพยัญชนะต้นในบทกลอน เช่น ฉาดฉาด กร่อนเป็น ฉะฉาด ฉ่ำฉ่ำ กร่อนเป็น ฉะฉ่ำ มีคำแปลอย่างเดียวกับคำเดิมนั้น และมีความหมายในทางย้ำหรือเน้นคำ.ฉะ ๒ คำกร่อนของคำหน้าซึ่งซ้ำกับคำหลังในคำที่มี ฉ เป็นพยัญชนะต้นในบทกลอน เช่น ฉาดฉาด กร่อนเป็น ฉะฉาด ฉ่ำฉ่ำ กร่อนเป็น ฉะฉ่ำ มีคำแปลอย่างเดียวกับคำเดิมนั้น และมีความหมายในทางย้ำหรือเน้นคำ.
ฉะกะ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อะ เป็นคำกริยา หมายถึง ระกะ เช่น โกมุทอุบลบานฉะกะ. ในวงเล็บ มาจาก อนิรุทธ์คำฉันท์ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ.ฉะกะ ก. ระกะ เช่น โกมุทอุบลบานฉะกะ. (อนิรุทธ์).
ฉะฉาด เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ฉาด, เสียงอย่างเสียงของแข็งกระทบกัน.ฉะฉาด (กลอน) ว. ฉาด, เสียงอย่างเสียงของแข็งกระทบกัน.
ฉะฉาน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-นอ-หนู เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อาการที่พูดห้าวหาญและชัดถ้อยชัดคํา, ฉาดฉาน ก็ใช้.ฉะฉาน ว. อาการที่พูดห้าวหาญและชัดถ้อยชัดคํา, ฉาดฉาน ก็ใช้.
ฉะฉ่ำ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ-ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก-สะ-หระ-อำ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ฉํ่า, ชุ่มชื้น.ฉะฉ่ำ (กลอน) ว. ฉํ่า, ชุ่มชื้น.
ฉะฉี่ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ไม้-เอก ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ฉี่, เสียงดังอย่างเสียงของที่ทอดนํ้ามัน.ฉะฉี่ (กลอน) ว. ฉี่, เสียงดังอย่างเสียงของที่ทอดนํ้ามัน.
ฉะเฉื่อย เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อือ-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เฉื่อย, ช้า, เรื่อย ๆ, ไม่รีบร้อน.ฉะเฉื่อย (กลอน) ว. เฉื่อย, ช้า, เรื่อย ๆ, ไม่รีบร้อน.
ฉะต้า เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ-ตอ-เต่า-ไม้-โท-สะ-หระ-อา ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ เป็นคำอุทาน หมายถึง ชะต้า.ฉะต้า (โบ) อ. ชะต้า.
ฉะนั้น เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ-นอ-หนู-ไม้-หัน-อา-กาด-ไม้-โท-นอ-หนู เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ฉันนั้น, เช่นนั้น, อย่างนั้น, ดังนั้น, ดั่งนั้น, เพราะฉะนั้น, เพราะเหตุนั้น.ฉะนั้น ว. ฉันนั้น, เช่นนั้น, อย่างนั้น, ดังนั้น, ดั่งนั้น, เพราะฉะนั้น, เพราะเหตุนั้น.
ฉะนี้ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ-นอ-หนู-สะ-หระ-อี-ไม้-โท เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ฉันนี้, เช่นนี้, อย่างนี้, ดังนี้, ดั่งนี้, เพราะฉะนี้, เพราะเหตุนี้.ฉะนี้ ว. ฉันนี้, เช่นนี้, อย่างนี้, ดังนี้, ดั่งนี้, เพราะฉะนี้, เพราะเหตุนี้.
ฉะอ้อน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ-ออ-อ่าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-นอ-หนู เป็นคำกริยา หมายถึง แสดงกิริยาวาจาเพื่อให้เขาเมตตา, ชะอ้อน ก็ใช้. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง กล้องแกล้ง, แน่งน้อย, รูปเล็กบาง, ชะอ้อน ก็ใช้.ฉะอ้อน ก. แสดงกิริยาวาจาเพื่อให้เขาเมตตา, ชะอ้อน ก็ใช้. ว. กล้องแกล้ง, แน่งน้อย, รูปเล็กบาง, ชะอ้อน ก็ใช้.
ฉักกะ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-กอ-ไก่-สะ-หระ-อะ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง หมวด ๖ คือ รวมสิ่งละหก ๆ. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี .ฉักกะ (แบบ) น. หมวด ๖ คือ รวมสิ่งละหก ๆ. (ป.).
ฉัฐ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-ถอ-ถาน[ฉัดถะ] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ที่ ๖. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี ฉฏฺ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ตอ-ปะ-ตัก-พิน-ทุ-ถอ-ถาน.ฉัฐ [ฉัดถะ] (แบบ) ว. ที่ ๖. (ป. ฉฏฺ).
ฉัด เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-ดอ-เด็ก ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาถิ่นภาคใต้ เป็นคำกริยา หมายถึง เตะ.ฉัด (ถิ่น–ปักษ์ใต้) ก. เตะ.
ฉัตร ๑, ฉัตร– ฉัตร ความหมายที่ ๑ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-รอ-เรือ ฉัตร– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-รอ-เรือ [ฉัด, ฉัดตฺระ–] เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องสูงชนิดหนึ่ง มีรูปคล้ายร่มที่ซ้อนกันขึ้นไปเป็นชั้น ๆ ชั้นบนมีขนาดเล็กกว่า ชั้นล่างลดหลั่นกันไปโดยลําดับ สําหรับแขวน ปัก ตั้ง หรือเชิญเข้ากระบวนแห่เป็นเกียรติยศ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ฉตฺร เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ตอ-เต่า-พิน-ทุ-รอ-เรือ และมาจากภาษาบาลี ฉตฺต เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ตอ-เต่า-พิน-ทุ-ตอ-เต่า ว่า ร่ม ; ส่วนที่ต่อจากปุ่มฆ้องเป็นฐานแผ่ออกไปแล้วงองุ้มลงมาเป็นขอบโดยรอบอย่างฉัตร; ชื่อดาวฤกษ์อารทรา.ฉัตร ๑, ฉัตร– [ฉัด, ฉัดตฺระ–] น. เครื่องสูงชนิดหนึ่ง มีรูปคล้ายร่มที่ซ้อนกันขึ้นไปเป็นชั้น ๆ ชั้นบนมีขนาดเล็กกว่า ชั้นล่างลดหลั่นกันไปโดยลําดับ สําหรับแขวน ปัก ตั้ง หรือเชิญเข้ากระบวนแห่เป็นเกียรติยศ. (ส. ฉตฺร; ป. ฉตฺต ว่า ร่ม); ส่วนที่ต่อจากปุ่มฆ้องเป็นฐานแผ่ออกไปแล้วงองุ้มลงมาเป็นขอบโดยรอบอย่างฉัตร; ชื่อดาวฤกษ์อารทรา.
ฉัตรบรรณ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-บอ-ไบ-ไม้-รอ-เรือ-รอ-เรือ-นอ-เนน[ฉัดตฺระบัน] เป็นคำนาม หมายถึง ต้นสัตบรรณ.ฉัตรบรรณ [ฉัดตฺระบัน] น. ต้นสัตบรรณ.
ฉัตรมงคล เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-มอ-ม้า-งอ-งู-คอ-ควาย-ลอ-ลิง[ฉัดตฺระ–] เป็นคำนาม หมายถึง พระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร ทําในวันซึ่งตรงกับวันบรมราชาภิเษก.ฉัตรมงคล [ฉัดตฺระ–] น. พระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร ทําในวันซึ่งตรงกับวันบรมราชาภิเษก.
ฉัตรสามชั้น เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-ไม้-โท-นอ-หนู[ฉัด–] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อกลบทชนิดหนึ่ง ตัวอย่างว่า หวนสวาทโหยถวิลโหยสวาทหวน ครวญคะนึงคะเนนึกคะนึงครวญ ใจเศร้าโศกแสนกําสรวลโศกเศร้าใจ.ฉัตรสามชั้น [ฉัด–] น. ชื่อกลบทชนิดหนึ่ง ตัวอย่างว่า หวนสวาทโหยถวิลโหยสวาทหวน ครวญคะนึงคะเนนึกคะนึงครวญ ใจเศร้าโศกแสนกําสรวลโศกเศร้าใจ.
ฉัตร เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-รอ-เรือ ความหมายที่ [ฉัด] เป็นคำนาม หมายถึง ไม้เล็ก ๆ ซึ่งจัดไว้ที่วงฆ้องระหว่างลูกฆ้อง.ฉัตร ๒ [ฉัด] น. ไม้เล็ก ๆ ซึ่งจัดไว้ที่วงฆ้องระหว่างลูกฆ้อง.
ฉัททันต์ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-ทอ-ทะ-หาน-ทอ-ทะ-หาน-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ตอ-เต่า-ทัน-ทะ-คาด ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อช้างตระกูล ๑ ใน ๑๐ ตระกูลเรียกว่า ฉัททันตหัตถี กายสีขาวบริสุทธิ์ดั่งสีเงินยวง แต่ปากและเท้าสีแดง. ในวงเล็บ ดู กาฬาวก เขียนว่า กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-ลอ-จุ-ลา-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-กอ-ไก่; ชื่อสระใหญ่สระ ๑ ในสระทั้ง ๗ ในป่าหิมพานต์. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี .ฉัททันต์ (แบบ) น. ชื่อช้างตระกูล ๑ ใน ๑๐ ตระกูลเรียกว่า ฉัททันตหัตถี กายสีขาวบริสุทธิ์ดั่งสีเงินยวง แต่ปากและเท้าสีแดง. (ดู กาฬาวก); ชื่อสระใหญ่สระ ๑ ในสระทั้ง ๗ ในป่าหิมพานต์. (ป.).
ฉัน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู ความหมายที่ เป็นคำสรรพนาม หมายถึง คําใช้แทนตัวผู้พูด พูดกับผู้ที่เสมอกันหรือผู้ใหญ่พูดกับผู้น้อย, เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑.ฉัน ๑ ส. คําใช้แทนตัวผู้พูด พูดกับผู้ที่เสมอกันหรือผู้ใหญ่พูดกับผู้น้อย, เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑.
ฉัน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง กิน (ใช้แก่ภิกษุสามเณร).ฉัน ๒ ก. กิน (ใช้แก่ภิกษุสามเณร).
ฉัน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู ความหมายที่ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เสมอเหมือน, เช่น, อย่าง, เช่น ฉันญาติ.ฉัน ๓ ว. เสมอเหมือน, เช่น, อย่าง, เช่น ฉันญาติ.
ฉันใด เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-สะ-หระ-ไอ-ไม้-ม้วน-ดอ-เด็ก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อย่างไร, อย่างใด, เช่นใด. เป็นคำสรรพนาม หมายถึง อย่างใด, เช่นใด, (เป็นคำที่ใช้เข้าคู่กับคำ ฉันนั้น ซึ่งเป็นคํารับ).ฉันใด ว. อย่างไร, อย่างใด, เช่นใด. ส. อย่างใด, เช่นใด, (เป็นคำที่ใช้เข้าคู่กับคำ ฉันนั้น ซึ่งเป็นคํารับ).
ฉันนั้น เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-นอ-หนู-ไม้-หัน-อา-กาด-ไม้-โท-นอ-หนู เป็นคำสรรพนาม หมายถึง อย่างนั้น, เช่นนั้น, (เป็นคำรับใช้เข้าคู่กับคำ ฉันใด).ฉันนั้น ส. อย่างนั้น, เช่นนั้น, (เป็นคำรับใช้เข้าคู่กับคำ ฉันใด).
ฉัน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู ความหมายที่ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีแสงกล้า, มีแสงพุ่งออกไป, เช่น พระสุริฉัน.ฉัน ๔ ว. มีแสงกล้า, มีแสงพุ่งออกไป, เช่น พระสุริฉัน.
ฉันท– , ฉันท์ ๑ ฉันท– ความหมายที่ ๑ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน ฉันท์ ความหมายที่ ๑ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-ทัน-ทะ-คาด [ฉันทะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อคําประพันธ์ประเภทหนึ่งที่วางคํา ครุ ลหุ เป็นแบบต่าง ๆ. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี .ฉันท– ๑, ฉันท์ ๑ [ฉันทะ–] น. ชื่อคําประพันธ์ประเภทหนึ่งที่วางคํา ครุ ลหุ เป็นแบบต่าง ๆ. (ป.).
ฉันทลักษณ์ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-นอ-เนน-ทัน-ทะ-คาด[ฉันทะลัก] เป็นคำนาม หมายถึง ลักษณะแบบแผนคำประพันธ์ประเภทร้อยกรอง, ชื่อตำราไวยากรณ์ตอนที่ว่าด้วยลักษณะของคำประพันธ์.ฉันทลักษณ์ [ฉันทะลัก] น. ลักษณะแบบแผนคำประพันธ์ประเภทร้อยกรอง, ชื่อตำราไวยากรณ์ตอนที่ว่าด้วยลักษณะของคำประพันธ์.
ฉันทวิลาส เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-วอ-แหวน-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ[ฉันทะวิลาด] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเพลงทำนองหนึ่ง. ในวงเล็บ มาจาก ประชุมบทละครดึกดำบรรพ์ ฉบับหลวง พ.ศ. ๒๔๖๗.ฉันทวิลาส [ฉันทะวิลาด] น. ชื่อเพลงทำนองหนึ่ง. (ดึกดําบรรพ์).
ฉันทศาสตร์ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด[ฉันทะสาด] เป็นคำนาม หมายถึง ตำราว่าด้วยการแต่งฉันท์ทั้งที่เป็นมาตราพฤติและวรรณพฤติ เป็นศิลปศาสตร์อย่างหนึ่งในศิลปศาสตร์ ๑๘ ประการ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ฉันทศาสตร์ [ฉันทะสาด] น. ตำราว่าด้วยการแต่งฉันท์ทั้งที่เป็นมาตราพฤติและวรรณพฤติ เป็นศิลปศาสตร์อย่างหนึ่งในศิลปศาสตร์ ๑๘ ประการ. (ส.).
ฉันท– ๒, ฉันท์ ๒, ฉันทะ ฉันท– ความหมายที่ ๒ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน ฉันท์ ความหมายที่ ๒ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-ทัน-ทะ-คาด ฉันทะ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อะ เป็นคำนาม หมายถึง ความพอใจ, ความรักใคร่, ความชอบใจ, ความยินดี; ความร่วมความคิดความเห็นกัน เช่น ลงมติเป็นเอกฉันท์, ความไว้เนื้อเชื่อใจ เช่น มอบฉันทะ. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี .ฉันท– ๒, ฉันท์ ๒, ฉันทะ น. ความพอใจ, ความรักใคร่, ความชอบใจ, ความยินดี; ความร่วมความคิดความเห็นกัน เช่น ลงมติเป็นเอกฉันท์, ความไว้เนื้อเชื่อใจ เช่น มอบฉันทะ. (ป.).
ฉันทา เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ลําเอียงเพราะรักใคร่ชอบใจ เช่น พระแก่วันชันษากว่าข้านี้ นึกว่าพี่น้องกันไม่ฉันทา. ในวงเล็บ มาจาก พระอภัยมณีคำกลอน ของ สุนทรภู่ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๗.ฉันทา (กลอน) ก. ลําเอียงเพราะรักใคร่ชอบใจ เช่น พระแก่วันชันษากว่าข้านี้ นึกว่าพี่น้องกันไม่ฉันทา. (อภัย).
ฉันทาคติ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ เป็นคำนาม หมายถึง ความลำเอียงเพราะความรักใคร่ชอบใจ เป็นอคติ ๑ ในอคติ ๔ ได้แก่ ฉันทาคติ โทสาคติ ภยาคติ และโมหาคติ. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี ฉนฺท เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-นอ-หนู-พิน-ทุ-ทอ-ทะ-หาน + อคติ เขียนว่า ออ-อ่าง-คอ-ควาย-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ .ฉันทาคติ น. ความลำเอียงเพราะความรักใคร่ชอบใจ เป็นอคติ ๑ ในอคติ ๔ ได้แก่ ฉันทาคติ โทสาคติ ภยาคติ และโมหาคติ. (ป. ฉนฺท + อคติ).
ฉันทานุมัติ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-สะ-หระ-อุ-มอ-ม้า-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ[ฉันทานุมัด] เป็นคำนาม หมายถึง ความเห็นชอบตามโดยความพอใจ, การได้รับมอบหมายด้วยความเต็มใจ. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี ฉนฺท เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-นอ-หนู-พิน-ทุ-ทอ-ทะ-หาน + อนุมติ เขียนว่า ออ-อ่าง-นอ-หนู-สะ-หระ-อุ-มอ-ม้า-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ .ฉันทานุมัติ [ฉันทานุมัด] น. ความเห็นชอบตามโดยความพอใจ, การได้รับมอบหมายด้วยความเต็มใจ. (ป. ฉนฺท + อนุมติ).
ฉันทา เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อาดู ฉันท– ๒, ฉันท์ ๒, ฉันทะ ฉันท– ความหมายที่ ๒ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน ฉันท์ ความหมายที่ ๒ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-ทัน-ทะ-คาด ฉันทะ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อะ .ฉันทา ดู ฉันท– ๒, ฉันท์ ๒, ฉันทะ.
ฉันทาคติ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-คอ-ควาย-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิดู ฉันท– ๒, ฉันท์ ๒, ฉันทะ ฉันท– ความหมายที่ ๒ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน ฉันท์ ความหมายที่ ๒ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-ทัน-ทะ-คาด ฉันทะ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อะ .ฉันทาคติ ดู ฉันท– ๒, ฉันท์ ๒, ฉันทะ.
ฉันทานุมัติ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-สะ-หระ-อุ-มอ-ม้า-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิดู ฉันท– ๒, ฉันท์ ๒, ฉันทะ ฉันท– ความหมายที่ ๒ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน ฉันท์ ความหมายที่ ๒ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-ทัน-ทะ-คาด ฉันทะ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อะ .ฉันทานุมัติ ดู ฉันท– ๒, ฉันท์ ๒, ฉันทะ.
ฉันวุติ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-วอ-แหวน-สะ-หระ-อุ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ[ฉันนะวุดติ] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เก้าสิบหก เช่น เป็นที่หมายฉันวุติโรค. ในวงเล็บ มาจาก เรื่องพระราชพิธีสิบสองเดือน พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฉบับพิมพ์ พ.ศ. ๒๔๖๓ ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี ฉนฺนวุติ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-นอ-หนู-พิน-ทุ-นอ-หนู-วอ-แหวน-สะ-หระ-อุ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ.ฉันวุติ [ฉันนะวุดติ] ว. เก้าสิบหก เช่น เป็นที่หมายฉันวุติโรค. (สิบสองเดือน). (ป. ฉนฺนวุติ).
ฉับ, ฉับ ๆ ฉับ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-บอ-ไบ-ไม้ ฉับ ๆ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-บอ-ไบ-ไม้ ไม้-ยะ-มก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อาการที่พูดหรือฟันเป็นต้นอย่างเร็ว เช่น ฟันฉับ พูดฉับ ๆ; เสียงดังเช่นนั้น.ฉับ, ฉับ ๆ ว. อาการที่พูดหรือฟันเป็นต้นอย่างเร็ว เช่น ฟันฉับ พูดฉับ ๆ; เสียงดังเช่นนั้น.
ฉับพลัน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-บอ-ไบ-ไม้-พอ-พาน-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ทันทีทันใด, ทันทีทันควัน.ฉับพลัน ว. ทันทีทันใด, ทันทีทันควัน.
ฉับไว เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-วอ-แหวน เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง รวดเร็ว.ฉับไว ว. รวดเร็ว.
ฉับฉ่ำ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-บอ-ไบ-ไม้-ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก-สะ-หระ-อำ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ไพเราะ, เสนาะหู, เช่น ละครก็ฟ้อนร้อง สุรศัพทกลับขาน ฉับฉ่ำที่ตำนาน อนิรุทธกินรี. ในวงเล็บ มาจาก บุณโณวาทคำฉันท์ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๖.ฉับฉ่ำ (กลอน) ว. ไพเราะ, เสนาะหู, เช่น ละครก็ฟ้อนร้อง สุรศัพทกลับขาน ฉับฉ่ำที่ตำนาน อนิรุทธกินรี. (บุณโณวาท).
ฉัพพรรณรังสี เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-พอ-พาน-พอ-พาน-รอ-เรือ-รอ-เรือ-นอ-เนน-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู-สอ-เสือ-สะ-หระ-อี[ฉับพันนะ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง รัศมี ๖ ประการ คือ ๑. นีล เขียวเหมือนดอกอัญชัน ๒. ปีต เหลืองเหมือนหรดาลทอง ๓. โลหิต แดงเหมือนตะวันอ่อน ๔. โอทาต ขาวเหมือนแผ่นเงิน ๕. มัญเชฐ สีหงสบาทเหมือนดอกเซ่งหรือหงอนไก่ ๖. ประภัสสร เลื่อมพรายเหมือนแก้วผลึก. (ปฐมสมโพธิ). (ป. ฉพฺพณฺณรํสี).ฉัพพรรณรังสี [ฉับพันนะ–] (แบบ) น. รัศมี ๖ ประการ คือ ๑. นีล เขียวเหมือนดอกอัญชัน ๒. ปีต เหลืองเหมือนหรดาลทอง ๓. โลหิต แดงเหมือนตะวันอ่อน ๔. โอทาต ขาวเหมือนแผ่นเงิน ๕. มัญเชฐ สีหงสบาทเหมือนดอกเซ่งหรือหงอนไก่ ๖. ประภัสสร เลื่อมพรายเหมือนแก้วผลึก. (ปฐมสมโพธิ). (ป. ฉพฺพณฺณรํสี).
ฉัยยา เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยัก-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำนาม หมายถึง ผู้หญิง, นางผู้มีโฉมงาม, เขียนเป็น ไฉยา ก็มี เช่น เมื่อนั้น นางรจนาไฉยา แลเห็นสมเด็จพระมารดา กัลยาออกมารับทันที. (บทละครสังข์ทอง). ในวงเล็บ ดู ชายา เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา ความหมายที่ ๒.ฉัยยา (กลอน) น. ผู้หญิง, นางผู้มีโฉมงาม, เขียนเป็น ไฉยา ก็มี เช่น เมื่อนั้น นางรจนาไฉยา แลเห็นสมเด็จพระมารดา กัลยาออกมารับทันที. (บทละครสังข์ทอง). (ดู ชายา ๒).
ฉ่า เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เสียงนํ้ามันเดือดเมื่อเวลาทอดของ; เสียงลูกคู่เพลงร้องรับจังหวะพ่อเพลงแม่เพลง; เสียงอื้ออึง เช่น จะชุมฉ่าชายจะมาก. ในวงเล็บ มาจาก มหาเวสสันดรชาดก ในวงเล็บ แบบเรียน กัณฑ์ชูชก; เสียงนํ้าดังเช่นนั้น เช่น พรายสายชลฉ่าเพียง สินธุ์สวรรค์. ในวงเล็บ มาจาก โคลงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์ พระศรีมโหสถ แต่ง ฉบับราชบัณฑิตยสภา พ.ศ. ๒๔๖๘.ฉ่า ว. เสียงนํ้ามันเดือดเมื่อเวลาทอดของ; เสียงลูกคู่เพลงร้องรับจังหวะพ่อเพลงแม่เพลง; เสียงอื้ออึง เช่น จะชุมฉ่าชายจะมาก. (ม. ร่ายยาว ชูชก); เสียงนํ้าดังเช่นนั้น เช่น พรายสายชลฉ่าเพียง สินธุ์สวรรค์. (เฉลิมพระเกียรติพระนารายณ์).
ฉาก เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่ เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องบังหรือเครื่องกั้น มีหลายชนิด ใช้ตั้ง แขวน หรือพับได้, เครื่องประกอบเวทีละครเพื่อให้ดูสมจริงตามเนื้อเรื่อง เช่น ฉากป่า ฉากเมือง; เครื่องสําหรับวัดมุมซึ่งมี ๙๐ องศา, มุมซึ่งกางได้ ๙๐ องศา เรียกว่า มุมฉาก, ลักษณนามเรียกตอนย่อยของละครในองก์หนึ่ง ๆ หรือตอนหนึ่งของละครที่เปิดม่านหน้าเวทีครั้งหนึ่ง ๆ เช่น ละคร ๓ ฉาก.ฉาก น. เครื่องบังหรือเครื่องกั้น มีหลายชนิด ใช้ตั้ง แขวน หรือพับได้, เครื่องประกอบเวทีละครเพื่อให้ดูสมจริงตามเนื้อเรื่อง เช่น ฉากป่า ฉากเมือง; เครื่องสําหรับวัดมุมซึ่งมี ๙๐ องศา, มุมซึ่งกางได้ ๙๐ องศา เรียกว่า มุมฉาก, ลักษณนามเรียกตอนย่อยของละครในองก์หนึ่ง ๆ หรือตอนหนึ่งของละครที่เปิดม่านหน้าเวทีครั้งหนึ่ง ๆ เช่น ละคร ๓ ฉาก.
ฉากแข็ง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-สะ-หระ-แอ-ขอ-ไข่-ไม้-ไต่-คู้-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ฉากตั้ง.ฉากแข็ง น. ฉากตั้ง.
ฉากญี่ปุ่น เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ยอ-หยิง-สะ-หระ-อี-ไม้-เอก-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อุ-ไม้-เอก-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องบังตาที่ประกอบด้วยแผ่นพับหลายแผ่น.ฉากญี่ปุ่น น. เครื่องบังตาที่ประกอบด้วยแผ่นพับหลายแผ่น.
ฉากตั้ง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ตอ-เต่า-ไม้-หัน-อา-กาด-ไม้-โท-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ฉากละครที่ทําเป็นรูปต่าง ๆ แล้วนํามาตั้งไว้, ฉากแข็ง ก็เรียก.ฉากตั้ง น. ฉากละครที่ทําเป็นรูปต่าง ๆ แล้วนํามาตั้งไว้, ฉากแข็ง ก็เรียก.
ฉากทิ้ง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อิ-ไม้-โท-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ฉากลิเกละครเป็นต้นเขียนเป็นภาพต่าง ๆ แขวนทิ้งไว้กับที่ อาจชักรอกขึ้นลงได้, ฉากอ่อน ก็เรียก.ฉากทิ้ง น. ฉากลิเกละครเป็นต้นเขียนเป็นภาพต่าง ๆ แขวนทิ้งไว้กับที่ อาจชักรอกขึ้นลงได้, ฉากอ่อน ก็เรียก.
ฉากน้อย, ฉากใหญ่ ฉากน้อย เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-นอ-หนู-ไม้-โท-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก ฉากใหญ่ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-สะ-หระ-ไอ-ไม้-ม้วน-หอ-หีบ-ยอ-หยิง-ไม้-เอก เป็นคำนาม หมายถึง ท่าละครชนิดหนึ่ง.ฉากน้อย, ฉากใหญ่ น. ท่าละครชนิดหนึ่ง.
ฉากบังเพลิง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-บอ-ไบ-ไม้-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู-สะ-หระ-เอ-พอ-พาน-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ฉากพับได้ที่ติดไว้กับเสาเมรุทั้ง ๔ ด้าน ใช้สําหรับกั้นบังในเวลาเผาศพชั้นโกศเท่านั้น, ถ้าเป็นเมรุธรรมดาและเป็นศพข้าราชการ ใช้ลายเถาไม้, ถ้าเป็นพระศพพระราชวงศ์ ใช้ฉากรูปเทวดา.ฉากบังเพลิง น. ฉากพับได้ที่ติดไว้กับเสาเมรุทั้ง ๔ ด้าน ใช้สําหรับกั้นบังในเวลาเผาศพชั้นโกศเท่านั้น, ถ้าเป็นเมรุธรรมดาและเป็นศพข้าราชการ ใช้ลายเถาไม้, ถ้าเป็นพระศพพระราชวงศ์ ใช้ฉากรูปเทวดา.
ฉากอ่อน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ออ-อ่าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง ฉากทิ้ง.ฉากอ่อน น. ฉากทิ้ง.
ฉาก เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่ ความหมายที่ ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำกริยา หมายถึง หลบ, เลี่ยง เช่น ฉากหนี.ฉาก ๒ (ปาก) ก. หลบ, เลี่ยง เช่น ฉากหนี.
ฉาง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง สิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่สําหรับเก็บข้าวหรือเกลือเป็นต้น.ฉาง น. สิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่สําหรับเก็บข้าวหรือเกลือเป็นต้น.
ฉ่าง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา-งอ-งู เป็นคำกริยา หมายถึง เสี่ยงทายว่าใครจะเป็นผู้ขึ้นต้น, ลองดูว่าท่าไหนจะดี, (โดยมากใช้สําหรับเล่นลูกเต๋าหรือไพ่). เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เสียงดังเช่นเสียงม้าล่อ.ฉ่าง ก. เสี่ยงทายว่าใครจะเป็นผู้ขึ้นต้น, ลองดูว่าท่าไหนจะดี, (โดยมากใช้สําหรับเล่นลูกเต๋าหรือไพ่). ว. เสียงดังเช่นเสียงม้าล่อ.
ฉ่าฉาว เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เกรียวกราว, เลื่องลือ, อื้ออึง.ฉ่าฉาว ว. เกรียวกราว, เลื่องลือ, อื้ออึง.
ฉาด เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เสียงดังเช่นนั้นอย่างเสียงดังเมื่อตบหน้าโดยแรงเป็นต้น.ฉาด ว. เสียงดังเช่นนั้นอย่างเสียงดังเมื่อตบหน้าโดยแรงเป็นต้น.
ฉาดฉาน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-นอ-หนู เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อาการที่พูดห้าวหาญและชัดถ้อยชัดคํา, ฉะฉาน ก็ใช้.ฉาดฉาน ว. อาการที่พูดห้าวหาญและชัดถ้อยชัดคํา, ฉะฉาน ก็ใช้.
ฉาตกภัย เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ตอ-เต่า-กอ-ไก่-พอ-สำ-เพา-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยัก[ฉาตะกะไพ] เป็นคำนาม หมายถึง ภัยที่เกิดจากความแห้งแล้ง, ภัยที่เกิดจากข้าวยากหมากแพง. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี ฉาต เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ตอ-เต่า ฉาตก เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ตอ-เต่า-กอ-ไก่ ว่า หิว, อิดโรยเพราะการอดอาหาร .ฉาตกภัย [ฉาตะกะไพ] น. ภัยที่เกิดจากความแห้งแล้ง, ภัยที่เกิดจากข้าวยากหมากแพง. (ป. ฉาต, ฉาตก, ว่า หิว, อิดโรยเพราะการอดอาหาร).
ฉาทนะ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ทอ-ทะ-หาน-นอ-หนู-สะ-หระ-อะ[ฉาทะนะ] เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องปิดคลุม, เครื่องกําบัง, หนัง, การซ่อน, การบัง, เช่น ท้าวก็แรงสุกลพัสตรฉาทน อนนขาวตระดาษดุจสังข์ โสดแล. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ นครกัณฑ์ ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต .ฉาทนะ [ฉาทะนะ] น. เครื่องปิดคลุม, เครื่องกําบัง, หนัง, การซ่อน, การบัง, เช่น ท้าวก็แรงสุกลพัสตรฉาทน อนนขาวตระดาษดุจสังข์ โสดแล. (ม. คำหลวง นครกัณฑ์). (ป., ส.).
ฉาน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-นอ-หนู ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ข้างหน้า เช่น ธงฉาน; ลาน เช่น ตัดหน้าฉาน.ฉาน ๑ น. ข้างหน้า เช่น ธงฉาน; ลาน เช่น ตัดหน้าฉาน.
ฉาน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-นอ-หนู ความหมายที่ ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาถิ่นภาคใต้ เป็นคำสรรพนาม หมายถึง ฉัน, เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑.ฉาน ๒ (ถิ่น–ปักษ์ใต้) ส. ฉัน, เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑.
ฉาน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-นอ-หนู ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง แตก, กระจาย, ซ่าน, เช่น แตกฉานซ่านเซ็น. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีแสงกล้า, มีแสงพุ่งออกไป, สว่าง, กระจ่างแจ้ง, จ้า, เช่น แสงฉาน ปัญญาแตกฉาน; ฉาด เช่น ขวิดควิ้วอยู่ฉาน ๆ. ในวงเล็บ มาจาก มหาเวสสันดรชาดก ในวงเล็บ แบบเรียน กัณฑ์กุมาร.ฉาน ๓ ก. แตก, กระจาย, ซ่าน, เช่น แตกฉานซ่านเซ็น. ว. มีแสงกล้า, มีแสงพุ่งออกไป, สว่าง, กระจ่างแจ้ง, จ้า, เช่น แสงฉาน ปัญญาแตกฉาน; ฉาด เช่น ขวิดควิ้วอยู่ฉาน ๆ. (ม. ร่ายยาว กุมาร).
ฉาน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-นอ-หนู ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง.ฉาน ๔ น. ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง.
ฉาน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-นอ-หนู ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อรัฐหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศพม่า ติดต่อกับทางภาคเหนือของประเทศไทย, ไทยใหญ่ ก็เรียก.ฉาน ๕ น. ชื่อรัฐหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศพม่า ติดต่อกับทางภาคเหนือของประเทศไทย, ไทยใหญ่ ก็เรียก.
ฉาบ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-บอ-ไบ-ไม้ ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องตีประกอบจังหวะชนิดหนึ่ง ทําด้วยโลหะรูปร่างเป็นแผ่นกลมคล้ายจาน แต่มีปุ่มนูนขึ้นตรงกลาง เจาะรูตรงกลางปุ่มไว้ร้อยเชือกหรือเส้นหนังสําหรับถือตี.ฉาบ ๑ น. เครื่องตีประกอบจังหวะชนิดหนึ่ง ทําด้วยโลหะรูปร่างเป็นแผ่นกลมคล้ายจาน แต่มีปุ่มนูนขึ้นตรงกลาง เจาะรูตรงกลางปุ่มไว้ร้อยเชือกหรือเส้นหนังสําหรับถือตี.
ฉาบ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-บอ-ไบ-ไม้ ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง ทา เกลือก หรือเคลือบแต่ผิว ๆ เช่น ฉาบปูน ฉาบกล้วย.ฉาบ ๒ ก. ทา เกลือก หรือเคลือบแต่ผิว ๆ เช่น ฉาบปูน ฉาบกล้วย.
ฉาบหน้า เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-บอ-ไบ-ไม้-หอ-หีบ-นอ-หนู-ไม้-โท-สะ-หระ-อา ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำกริยา หมายถึง เสแสร้งเพื่อให้เข้าใจว่ามีสถานะดีกว่าที่เป็นจริง.ฉาบหน้า (ปาก) ก. เสแสร้งเพื่อให้เข้าใจว่ามีสถานะดีกว่าที่เป็นจริง.
ฉาบฉวย เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-บอ-ไบ-ไม้-ฉอ-ฉิ่ง-วอ-แหวน-ยอ-ยัก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ชั่วครั้งชั่วคราว, ขอไปที, ไม่จริงจัง, เช่น ทําอย่างฉาบฉวย.ฉาบฉวย ว. ชั่วครั้งชั่วคราว, ขอไปที, ไม่จริงจัง, เช่น ทําอย่างฉาบฉวย.
ฉาปะ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อะ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง ลูกสัตว์, แผลงเป็น จาปะ ก็มี. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต ศาว เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน.ฉาปะ (แบบ) น. ลูกสัตว์, แผลงเป็น จาปะ ก็มี. (ป.; ส. ศาว).
ฉาย เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง เงา, ที่ร่ม; ราชาศัพท์เรียกกระจกส่องหน้าว่า พระฉาย. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต ฉายา เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา.ฉาย ๑ น. เงา, ที่ร่ม; ราชาศัพท์เรียกกระจกส่องหน้าว่า พระฉาย. (ป., ส. ฉายา).
ฉาย เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง ส่องแสงออกไป; ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก หมายถึง กรายให้เห็น เช่น หล่อนฉายไปฉายมาทั้งวัน.ฉาย ๒ ก. ส่องแสงออกไป; (ปาก) กรายให้เห็น เช่น หล่อนฉายไปฉายมาทั้งวัน.
ฉายเฉิด เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-ดอ-เด็ก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง งาม, สดใส.ฉายเฉิด ว. งาม, สดใส.
ฉายซ้ำ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-ซอ-โซ่-ไม้-โท-สะ-หระ-อำ ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำกริยา หมายถึง กระทำซ้ำ ๆ เช่น เขามักฉายซ้ำเรื่องเก่า ๆ.ฉายซ้ำ (ปาก) ก. กระทำซ้ำ ๆ เช่น เขามักฉายซ้ำเรื่องเก่า ๆ.
ฉายหนัง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-หอ-หีบ-นอ-หนู-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำกริยา หมายถึง ฉายแสงผ่านฟิล์มภาพยนตร์ให้ปรากฏภาพเคลื่อนไหวบนจอ.ฉายหนัง (ปาก) ก. ฉายแสงผ่านฟิล์มภาพยนตร์ให้ปรากฏภาพเคลื่อนไหวบนจอ.
ฉาย เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง เกลี่ยให้เสมอ, กระจายให้เสมอ, เช่น ฉายดิน.ฉาย ๓ ก. เกลี่ยให้เสมอ, กระจายให้เสมอ, เช่น ฉายดิน.
ฉายา เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง เงา, ร่มไม้. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี ; ชื่อที่พระอุปัชฌาย์ตั้งให้เป็นภาษาบาลีเมื่ออุปสมบท, ชื่อตั้งให้กันเล่น ๆ หรือตามลักษณะที่หมายรู้กันในหมู่คณะ. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต .ฉายา ๑ น. เงา, ร่มไม้. (ป.); ชื่อที่พระอุปัชฌาย์ตั้งให้เป็นภาษาบาลีเมื่ออุปสมบท, ชื่อตั้งให้กันเล่น ๆ หรือตามลักษณะที่หมายรู้กันในหมู่คณะ. (ป., ส.).
ฉายาลักษณ์ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-นอ-เนน-ทัน-ทะ-คาด ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในราชาศัพท์ เป็นคำนาม หมายถึง รูปถ่าย.ฉายาลักษณ์ (ราชา) น. รูปถ่าย.
ฉายา เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา ความหมายที่ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง และเป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำนาม หมายถึง ผู้หญิง, นางผู้มีโฉมงาม, เช่น ฉายามิใคร่จะจากไป. ในวงเล็บ มาจาก บทละครครั้งกรุงเก่า เรื่องมโนห์รา ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ.ฉายา ๒ (กลอน; ปาก) น. ผู้หญิง, นางผู้มีโฉมงาม, เช่น ฉายามิใคร่จะจากไป. (มโนห์รา).
ฉาว เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อื้ออึง, เอิกเกริก, เกรียวกราว.ฉาว ว. อื้ออึง, เอิกเกริก, เกรียวกราว.
ฉาวโฉ่ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อื้ออึง, เกรียวกราวขึ้น, รู้กันทั่วไป, (ใช้แก่ข่าวที่ไม่ดีไม่งาม), โฉ่ฉาว ก็ว่า.ฉาวโฉ่ ว. อื้ออึง, เกรียวกราวขึ้น, รู้กันทั่วไป, (ใช้แก่ข่าวที่ไม่ดีไม่งาม), โฉ่ฉาว ก็ว่า.
ฉ่ำ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก-สะ-หระ-อำ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ชุ่มชื้น, ชุ่มนํ้าในตัว.ฉ่ำ ว. ชุ่มชื้น, ชุ่มนํ้าในตัว.
ฉำฉา เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อำ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเรียกไม้เนื้ออ่อน โดยมากเป็นพวกไม้สนที่ใช้ทําหีบบรรจุของมาจากต่างประเทศ.ฉำฉา ๑ น. ชื่อเรียกไม้เนื้ออ่อน โดยมากเป็นพวกไม้สนที่ใช้ทําหีบบรรจุของมาจากต่างประเทศ.
ฉำฉา เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อำ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา ความหมายที่ ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาถิ่นภาคพายัพ เป็นคำนาม หมายถึง ต้นก้ามปู. ในวงเล็บ ดู ก้ามปู เขียนว่า กอ-ไก่-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อู.ฉำฉา ๒ (ถิ่น–พายัพ) น. ต้นก้ามปู. (ดู ก้ามปู).
ฉำเฉง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อำ-สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง มูลฝิ่นครั้งที่ ๓. ในวงเล็บ มาจากภาษาจีน ซำเฉง เขียนว่า ซอ-โซ่-สะ-หระ-อำ-สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-งอ-งู.ฉำเฉง น. มูลฝิ่นครั้งที่ ๓. (จ. ซำเฉง).
ฉำแฉะ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อำ-สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เฉอะแฉะ; อืดอาดล่าช้า.ฉำแฉะ ว. เฉอะแฉะ; อืดอาดล่าช้า.
ฉิ่ง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-ไม้-เอก-งอ-งู ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องตีกำหนดจังหวะชนิดหนึ่ง ทําด้วยโลหะหล่อหนา รูปร่างกลมคล้ายถ้วย เจาะรูตรงกลางไว้ร้อยเชือกให้เป็นคู่กันสําหรับถือตีบอกจังหวะเข้ากับดนตรี; ชื่อเพลงไทยประเภทหนึ่ง.ฉิ่ง ๑ น. เครื่องตีกำหนดจังหวะชนิดหนึ่ง ทําด้วยโลหะหล่อหนา รูปร่างกลมคล้ายถ้วย เจาะรูตรงกลางไว้ร้อยเชือกให้เป็นคู่กันสําหรับถือตีบอกจังหวะเข้ากับดนตรี; ชื่อเพลงไทยประเภทหนึ่ง.
ฉิ่งตรัง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-ไม้-เอก-งอ-งู-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง. ในวงเล็บ มาจาก ประชุมบทละครดึกดำบรรพ์ ฉบับหลวง พ.ศ. ๒๔๖๗.ฉิ่งตรัง น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง. (ดึกดําบรรพ์).
ฉิ่ง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-ไม้-เอก-งอ-งู ความหมายที่ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เก, เฉ, ไม่ตรง, (ใช้แก่แขนขา) เช่น ขาฉิ่ง แขนฉิ่ง.ฉิ่ง ๒ ว. เก, เฉ, ไม่ตรง, (ใช้แก่แขนขา) เช่น ขาฉิ่ง แขนฉิ่ง.
ฉิน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง ติ, ติเตียน, เช่น สามสิ่งนี้โหดให้ โทษแท้คนฉิน. ในวงเล็บ มาจาก แบบเรียนกวีนิพนธ์ โลกนิติคำโคลง, มักใช้เข้าคู่กับคํา ติ เป็น ติฉิน.ฉิน ๑ ก. ติ, ติเตียน, เช่น สามสิ่งนี้โหดให้ โทษแท้คนฉิน. (โลกนิติ), มักใช้เข้าคู่กับคํา ติ เป็น ติฉิน.
ฉิน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู ความหมายที่ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ฉัน, เช่น, คล้าย, เหมือน, เช่น ทิพฉายฉวงฉินฉัตร ใบชรอัดอรชร. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์วนปเวสน์.ฉิน ๒ (กลอน) ว. ฉัน, เช่น, คล้าย, เหมือน, เช่น ทิพฉายฉวงฉินฉัตร ใบชรอัดอรชร. (ม. คำหลวง วนประเวสน์).
ฉิน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู ความหมายที่ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ฉัน, มีแสงกล้า, มีแสงที่พุ่งออกไป; งาม, มักใช้เข้าคู่กับคํา โฉม เป็น ฉินโฉม หรือ โฉมฉิน เช่น ฉินโฉมเฉกช่างวาด. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ ทานกัณฑ์.ฉิน ๓ ว. ฉัน, มีแสงกล้า, มีแสงที่พุ่งออกไป; งาม, มักใช้เข้าคู่กับคํา โฉม เป็น ฉินโฉม หรือ โฉมฉิน เช่น ฉินโฉมเฉกช่างวาด. (ม. คำหลวง ทานกัณฑ์).
ฉินท–, ฉินท์ ฉินท– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน ฉินท์ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-ทัน-ทะ-คาด [ฉินทะ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำกริยา หมายถึง ตัด, ขาด, ทําลาย. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต .ฉินท–, ฉินท์ [ฉินทะ–] (แบบ) ก. ตัด, ขาด, ทําลาย. (ป., ส.).
ฉินทฤกษ์ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-รอ-รึ-กอ-ไก่-สอ-รือ-สี-ทัน-ทะ-คาด[ฉินทะเริก] เป็นคำนาม หมายถึง ฤกษ์ตัดจุก.ฉินทฤกษ์ [ฉินทะเริก] น. ฤกษ์ตัดจุก.
ฉิบ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-บอ-ไบ-ไม้ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อาการที่หายไปหรือจากไปเร็วเกินคาด.ฉิบ ว. อาการที่หายไปหรือจากไปเร็วเกินคาด.
ฉิบหาย เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-บอ-ไบ-ไม้-หอ-หีบ-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก เป็นคำกริยา หมายถึง สูญหมด, เสียหมด, หมดเร็ว, ป่นปี้, โดยปริยายใช้เป็นคําด่า คําแช่ง หมายความเช่นนั้น. ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มาก เช่น เก่งฉิบหาย.ฉิบหาย ก. สูญหมด, เสียหมด, หมดเร็ว, ป่นปี้, โดยปริยายใช้เป็นคําด่า คําแช่ง หมายความเช่นนั้น. (ปาก) ว. มาก เช่น เก่งฉิบหาย.
ฉิมพลี เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-มอ-ม้า-พอ-พาน-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี[ฉิมพะลี] เป็นคำนาม หมายถึง ไม้งิ้ว. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี สิมฺพลิ เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-มอ-ม้า-พิน-ทุ-พอ-พาน-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ และมาจากภาษาสันสกฤต ศาลฺมลิ เขียนว่า สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-พิน-ทุ-มอ-ม้า-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ.ฉิมพลี [ฉิมพะลี] น. ไม้งิ้ว. (ป. สิมฺพลิ; ส. ศาลฺมลิ).
ฉิว เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-วอ-แหวน เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เร็วเรื่อยไปไม่ขาดสาย เช่น ลมพัดฉิว, เร็วไม่มีติดขัด เช่น แล่นฉิว เดินฉิว; คล่อง, สะดวก. เป็นคำกริยา หมายถึง รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที.ฉิว ว. เร็วเรื่อยไปไม่ขาดสาย เช่น ลมพัดฉิว, เร็วไม่มีติดขัด เช่น แล่นฉิว เดินฉิว; คล่อง, สะดวก. ก. รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที.
ฉี่ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ไม้-เอก ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำกริยา หมายถึง ถ่ายปัสสาวะ. เป็นคำนาม หมายถึง ปัสสาวะ. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เสียงดังเช่นนั้นอย่างเสียงของที่ทอดนํ้ามัน; อย่างยิ่ง เช่น เงียบฉี่ ร้อนฉี่.ฉี่ (ปาก) ก. ถ่ายปัสสาวะ. น. ปัสสาวะ. ว. เสียงดังเช่นนั้นอย่างเสียงของที่ทอดนํ้ามัน; อย่างยิ่ง เช่น เงียบฉี่ ร้อนฉี่.
ฉีก เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-กอ-ไก่ เป็นคำกริยา หมายถึง ขาดแยกออกจากกันหรือทําให้ขาดหรือแยกออกจากกัน เช่น ผ้าฉีก ฉีกผ้า ฉีกทุเรียน, โดยปริยายหมายความว่า แยกสิ่งที่เป็นคู่หรือเป็นสํารับออกจากกัน เช่น ฉีกตองไพ่.ฉีก ก. ขาดแยกออกจากกันหรือทําให้ขาดหรือแยกออกจากกัน เช่น ผ้าฉีก ฉีกผ้า ฉีกทุเรียน, โดยปริยายหมายความว่า แยกสิ่งที่เป็นคู่หรือเป็นสํารับออกจากกัน เช่น ฉีกตองไพ่.
ฉีกคำ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-กอ-ไก่-คอ-ควาย-สะ-หระ-อำ เป็นคำกริยา หมายถึง แยกพยางค์ของคำให้อยู่คนละวรรคหรือคนละบรรทัด มักใช้ในคำประพันธ์.ฉีกคำ ก. แยกพยางค์ของคำให้อยู่คนละวรรคหรือคนละบรรทัด มักใช้ในคำประพันธ์.
ฉีกแนว เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-กอ-ไก่-สะ-หระ-แอ-นอ-หนู-วอ-แหวน เป็นคำกริยา หมายถึง แหวกแนว.ฉีกแนว ก. แหวกแนว.
ฉีกหน้า เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-กอ-ไก่-หอ-หีบ-นอ-หนู-ไม้-โท-สะ-หระ-อา เป็นคำกริยา หมายถึง ทําให้ได้รับความอับอาย.ฉีกหน้า ก. ทําให้ได้รับความอับอาย.
ฉีด เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ดอ-เด็ก เป็นคำกริยา หมายถึง ใช้กําลังอัดหรือดันให้ของเหลวอย่างนํ้าพุ่งออกจากช่องเล็ก ๆ.ฉีด ก. ใช้กําลังอัดหรือดันให้ของเหลวอย่างนํ้าพุ่งออกจากช่องเล็ก ๆ.
ฉีดยา เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ดอ-เด็ก-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา เป็นคำกริยา หมายถึง เอายาฉีดเข้าไปในร่างกายทางใต้ผิวหนัง ทางกล้ามเนื้อ หรือทางเส้นเลือด.ฉีดยา ก. เอายาฉีดเข้าไปในร่างกายทางใต้ผิวหนัง ทางกล้ามเนื้อ หรือทางเส้นเลือด.
ฉุ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีเนื้อไม่แน่น, ใช้แก่ อ้วน หรือ บวม เป็น อ้วนฉุ บวมฉุ.ฉุ ว. มีเนื้อไม่แน่น, ใช้แก่ อ้วน หรือ บวม เป็น อ้วนฉุ บวมฉุ.
ฉุก เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่ เป็นคำกริยา หมายถึง อาการที่เกิดขึ้นโดยพลัน, มักใช้เข้าคู่กับคำอื่น เช่น ฉุกคิด ฉุกใจ.ฉุก ก. อาการที่เกิดขึ้นโดยพลัน, มักใช้เข้าคู่กับคำอื่น เช่น ฉุกคิด ฉุกใจ.
ฉุกคิด เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-คอ-ควาย-สะ-หระ-อิ-ดอ-เด็ก เป็นคำกริยา หมายถึง คิดขึ้นมาทันที, คิดได้ในขณะนั้น, บังเอิญคิดได้.ฉุกคิด ก. คิดขึ้นมาทันที, คิดได้ในขณะนั้น, บังเอิญคิดได้.
ฉุกใจ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-สะ-หระ-ไอ-ไม้-ม้วน-จอ-จาน เป็นคำกริยา หมายถึง สะดุดใจ.ฉุกใจ ก. สะดุดใจ.
ฉุกเฉิน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ที่เป็นไปโดยปัจจุบันทันด่วนและจะต้องรีบแก้ไขโดยฉับพลัน เช่น เหตุฉุกเฉิน, ที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือความปลอดภัยแห่งราชอาณาจักร เช่น ภาวะฉุกเฉิน สถานการณ์ฉุกเฉิน.ฉุกเฉิน ว. ที่เป็นไปโดยปัจจุบันทันด่วนและจะต้องรีบแก้ไขโดยฉับพลัน เช่น เหตุฉุกเฉิน, ที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือความปลอดภัยแห่งราชอาณาจักร เช่น ภาวะฉุกเฉิน สถานการณ์ฉุกเฉิน.
ฉุกละหุก เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อะ-หอ-หีบ-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่ เป็นคำกริยา หมายถึง สับสนวุ่นวายเพราะมีเรื่องเกิดขึ้นปัจจุบันทันด่วนโดยไม่คาดฝัน.ฉุกละหุก ก. สับสนวุ่นวายเพราะมีเรื่องเกิดขึ้นปัจจุบันทันด่วนโดยไม่คาดฝัน.
ฉุด เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-ดอ-เด็ก เป็นคำกริยา หมายถึง ออกแรงลากหรือคร่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป หรือรั้งสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้น หรือดึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้.ฉุด ก. ออกแรงลากหรือคร่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป หรือรั้งสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้น หรือดึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้.
ฉุน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง แรง, กล้า, (ใช้แก่กลิ่นและรส) เช่น บุหรี่ฉุน เหล้าฉุน. เป็นคำกริยา หมายถึง รู้สึกชักโกรธขึ้นมาทันที. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร ฉุรฺ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-รอ-เรือ-พิน-ทุ.ฉุน ว. แรง, กล้า, (ใช้แก่กลิ่นและรส) เช่น บุหรี่ฉุน เหล้าฉุน. ก. รู้สึกชักโกรธขึ้นมาทันที. (ข. ฉุรฺ).
ฉุนเฉียว เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู-สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-วอ-แหวน เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ฉุนจัด, โกรธง่าย, โกรธเร็ว, เฉียวฉุน ก็ว่า.ฉุนเฉียว ว. ฉุนจัด, โกรธง่าย, โกรธเร็ว, เฉียวฉุน ก็ว่า.
ฉุบ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-บอ-ไบ-ไม้ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อาการที่แทงเข้าไปโดยเร็ว เช่น เขาใช้เหล็กแหลมแทงฉุบเข้าไป.ฉุบ ว. อาการที่แทงเข้าไปโดยเร็ว เช่น เขาใช้เหล็กแหลมแทงฉุบเข้าไป.
ฉุป, ฉุป– ฉุป เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-ปอ-ปลา ฉุป– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-ปอ-ปลา [ฉุบ, ฉุปะ–] เป็นคำนาม หมายถึง การรบกัน, สงคราม, การสัมผัสถูกต้อง; เถาวัลย์; ลม. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี .ฉุป, ฉุป– [ฉุบ, ฉุปะ–] น. การรบกัน, สงคราม, การสัมผัสถูกต้อง; เถาวัลย์; ลม. (ส., ป.).
ฉุปศาสตร์ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-ปอ-ปลา-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด[ฉุปะสาด] เป็นคำนาม หมายถึง วิชาว่าด้วยการสงคราม. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ฉุปศาสตร์ [ฉุปะสาด] น. วิชาว่าด้วยการสงคราม. (ส.).
ฉุย เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-ยอ-ยัก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อาการที่กลิ่นโชยมากระทบจมูก; อาการของควันที่พลุ่งขึ้นมาเรื่อย ๆ เช่น ควันฉุย; คล่องแคล่ว เช่น เดินฉุย.ฉุย ว. อาการที่กลิ่นโชยมากระทบจมูก; อาการของควันที่พลุ่งขึ้นมาเรื่อย ๆ เช่น ควันฉุย; คล่องแคล่ว เช่น เดินฉุย.
ฉุยฉาย เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-ยอ-ยัก-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเพลงร้องและท่ารําแบบหนึ่ง. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง กรีดกราย.ฉุยฉาย น. ชื่อเพลงร้องและท่ารําแบบหนึ่ง. ว. กรีดกราย.
ฉุยฉายเข้าวัง เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-ยอ-ยัก-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-เอ-ขอ-ไข่-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ท่าละครท่าหนึ่ง.ฉุยฉายเข้าวัง น. ท่าละครท่าหนึ่ง.
ฉู่ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อู-ไม้-เอก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง โฉ่, ฟุ้ง, (ใช้แก่กลิ่นเหม็น); เสียงแมลงวันซึ่งตอมสิ่งของอยู่มาก ๆ.ฉู่ ว. โฉ่, ฟุ้ง, (ใช้แก่กลิ่นเหม็น); เสียงแมลงวันซึ่งตอมสิ่งของอยู่มาก ๆ.
ฉู่ฉี่ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อู-ไม้-เอก-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ไม้-เอก ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อแกงอย่างหนึ่ง คล้ายแกงคั่ว มีนํ้าแกงข้น, ถ้าไม่มีนํ้าแกง เรียกว่า ฉู่ฉี่แห้ง.ฉู่ฉี่ ๑ น. ชื่อแกงอย่างหนึ่ง คล้ายแกงคั่ว มีนํ้าแกงข้น, ถ้าไม่มีนํ้าแกง เรียกว่า ฉู่ฉี่แห้ง.
ฉู่ฉี่ เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อู-ไม้-เอก-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ไม้-เอก ความหมายที่ ดู จี่ เขียนว่า จอ-จาน-สะ-หระ-อี-ไม้-เอก ความหมายที่ ๒.ฉู่ฉี่ ๒ ดู จี่ ๒.
ฉูด เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อู-ดอ-เด็ก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อาการที่พุ่งหรือไปโดยเร็ว เช่น นํ้าพุ่งฉูด เรือแล่นฉูด.ฉูด ว. อาการที่พุ่งหรือไปโดยเร็ว เช่น นํ้าพุ่งฉูด เรือแล่นฉูด.
ฉูดฉาด เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อู-ดอ-เด็ก-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง จ้ากว่าปรกติ อาจทําให้รู้สึกบาดตา (ใช้แก่สีบางสี).ฉูดฉาด ว. จ้ากว่าปรกติ อาจทําให้รู้สึกบาดตา (ใช้แก่สีบางสี).
เฉ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เหไป, ไม่ตรงเส้นตรงแนว.เฉ ว. เหไป, ไม่ตรงเส้นตรงแนว.
เฉไฉ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-ฉอ-ฉิ่ง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เถลไถล, เชือนแช.เฉไฉ ว. เถลไถล, เชือนแช.
เฉก เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-กอ-ไก่ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เช่น, เหมือน.เฉก ว. เช่น, เหมือน.
เฉโก เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-โอ-กอ-ไก่ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ฉลาดแกมโกง, ไม่ตรงไปตรงมา, โฉเก ก็ว่า. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี เฉโก เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-โอ-กอ-ไก่ ว่า ฉลาด .เฉโก ว. ฉลาดแกมโกง, ไม่ตรงไปตรงมา, โฉเก ก็ว่า. (ป. เฉโก ว่า ฉลาด).
เฉ่ง เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก-งอ-งู เป็นคำกริยา หมายถึง ชําระเงินที่ได้เสียกัน, ชําระเงินที่ติดค้างกันอยู่, โดยปริยายหมายความว่า ด่า ว่า หรือทําร้ายร่างกาย. ในวงเล็บ มาจากภาษาจีน .เฉ่ง ก. ชําระเงินที่ได้เสียกัน, ชําระเงินที่ติดค้างกันอยู่, โดยปริยายหมายความว่า ด่า ว่า หรือทําร้ายร่างกาย. (จ.).
เฉด เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ดอ-เด็ก เป็นคำกริยา หมายถึง ขับไล่ไสส่ง เช่น เฉดหัวไป. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง คําร้องไล่หมา.เฉด ก. ขับไล่ไสส่ง เช่น เฉดหัวไป. ว. คําร้องไล่หมา.
เฉท เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ทอ-ทะ-หาน[เฉด] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง การตัด, การฟัน, การฉีก, การเด็ด, การขาด, เช่น เฉทเฌอ. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ ทานกัณฑ์ ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต .เฉท [เฉด] (แบบ) น. การตัด, การฟัน, การฉีก, การเด็ด, การขาด, เช่น เฉทเฌอ. (ม. คำหลวง ทานกัณฑ์). (ป., ส.).
เฉนียน เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-นอ-หนู-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-นอ-หนู[ฉะเหฺนียน] เป็นคำนาม หมายถึง ฝั่งนํ้า. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร เฉฺนร เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-นอ-หนู-รอ-เรือ ว่า ชายฝั่ง .เฉนียน [ฉะเหฺนียน] น. ฝั่งนํ้า. (ข. เฉฺนร ว่า ชายฝั่ง).
เฉพาะ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-พอ-พาน-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ[ฉะเพาะ] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง โดยเจาะจง, เพ่งตรง, ตรงตัว; เผอิญ; แต่; จํากัด, เท่านี้, เท่านั้น. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร เฉฺพาะ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-พอ-พาน-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ.เฉพาะ [ฉะเพาะ] ว. โดยเจาะจง, เพ่งตรง, ตรงตัว; เผอิญ; แต่; จํากัด, เท่านี้, เท่านั้น. (ข. เฉฺพาะ).
เฉพาะกาล เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-พอ-พาน-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ชั่วคราว ในคําว่า บทเฉพาะกาล.เฉพาะกาล ว. ชั่วคราว ในคําว่า บทเฉพาะกาล.
เฉพาะกิจ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-พอ-พาน-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อิ-จอ-จาน เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เจาะจงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น หน่วยปราบปรามเฉพาะกิจ.เฉพาะกิจ ว. เจาะจงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น หน่วยปราบปรามเฉพาะกิจ.
เฉพาะตัว เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-พอ-พาน-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ-ตอ-เต่า-ไม้-หัน-อา-กาด-วอ-แหวน เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เฉพาะบุคคล, ส่วนตัว.เฉพาะตัว ว. เฉพาะบุคคล, ส่วนตัว.
เฉพาะพระพักตร์ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-พอ-พาน-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ-พอ-พาน-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-พอ-พาน-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในราชาศัพท์ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ต่อหน้า.เฉพาะพระพักตร์ (ราชา) ว. ต่อหน้า.
เฉพาะหน้า เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-พอ-พาน-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ-หอ-หีบ-นอ-หนู-ไม้-โท-สะ-หระ-อา เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ๆ และจะต้องรีบแก้ไขให้ทันท่วงที เช่น ปัญหาเฉพาะหน้า เหตุการณ์เฉพาะหน้า.เฉพาะหน้า ว. ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ๆ และจะต้องรีบแก้ไขให้ทันท่วงที เช่น ปัญหาเฉพาะหน้า เหตุการณ์เฉพาะหน้า.
เฉย เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ยอ-ยัก เป็นคำกริยา หมายถึง แสดงอาการเป็นปรกติไม่สนใจไยดีต่อสิ่งหรือเหตุการณ์ที่ประสบ เช่น ถูกด่าว่าก็เฉย. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง นิ่งอยู่ไม่แสดงอาการอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา เช่น นอนเฉย.เฉย ก. แสดงอาการเป็นปรกติไม่สนใจไยดีต่อสิ่งหรือเหตุการณ์ที่ประสบ เช่น ถูกด่าว่าก็เฉย. ว. นิ่งอยู่ไม่แสดงอาการอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา เช่น นอนเฉย.
เฉย ๆ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ยอ-ยัก ไม้-ยะ-มก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ใช้ประกอบข้อความหรือคําอื่น มีความหมายต่าง ๆ แล้วแต่ข้อความแวดล้อม เช่น หยิบไปเฉย ๆ คือ หยิบไปโดยไม่ได้บอกกล่าว, อยู่บ้านเฉย ๆ คือ อยู่บ้านโดยไม่ทําอะไรให้เป็นกิจจะลักษณะ หรือไม่ได้ทํามาหากินอะไร; ไม่ยินดียินร้าย เช่น เขาเป็นคนเฉย ๆ, เท่านั้น เช่น ปลูกเรือนไว้เฉย ๆ ไม่ให้ใครอยู่.เฉย ๆ ว. ใช้ประกอบข้อความหรือคําอื่น มีความหมายต่าง ๆ แล้วแต่ข้อความแวดล้อม เช่น หยิบไปเฉย ๆ คือ หยิบไปโดยไม่ได้บอกกล่าว, อยู่บ้านเฉย ๆ คือ อยู่บ้านโดยไม่ทําอะไรให้เป็นกิจจะลักษณะ หรือไม่ได้ทํามาหากินอะไร; ไม่ยินดียินร้าย เช่น เขาเป็นคนเฉย ๆ, เท่านั้น เช่น ปลูกเรือนไว้เฉย ๆ ไม่ให้ใครอยู่.
เฉยเมย เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ยอ-ยัก-สะ-หระ-เอ-มอ-ม้า-ยอ-ยัก เป็นคำกริยา หมายถึง ละเลย, เพิกเฉย, ไม่นําพา.เฉยเมย ก. ละเลย, เพิกเฉย, ไม่นําพา.
เฉลย เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-ยอ-ยัก[ฉะเหฺลย] เป็นคำกริยา หมายถึง อธิบายหรือชี้แจงข้อปัญหาต่าง ๆ ให้เข้าใจ เช่น เฉลยปัญหา เฉลยความ. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร เฉฺลิย เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ-ยอ-ยัก ว่า ตอบ .เฉลย [ฉะเหฺลย] ก. อธิบายหรือชี้แจงข้อปัญหาต่าง ๆ ให้เข้าใจ เช่น เฉลยปัญหา เฉลยความ. (ข. เฉฺลิย ว่า ตอบ).
เฉลว เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-วอ-แหวน[ฉะเหฺลว] เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องจักสานชนิดหนึ่ง ทําด้วยตอกหักขัดกันเป็นมุม ๆ ตั้งแต่ ๕ มุมขึ้นไป สําหรับปักหม้อยา ปักเป็นเครื่องหมายที่สิ่งของซึ่งจะขาย ปักบอกเขต หรือปักบอกเขตด่านเสียค่าขนอน, ฉลิว หรือ ตาเหลว ก็ว่า.เฉลว [ฉะเหฺลว] น. เครื่องจักสานชนิดหนึ่ง ทําด้วยตอกหักขัดกันเป็นมุม ๆ ตั้งแต่ ๕ มุมขึ้นไป สําหรับปักหม้อยา ปักเป็นเครื่องหมายที่สิ่งของซึ่งจะขาย ปักบอกเขต หรือปักบอกเขตด่านเสียค่าขนอน, ฉลิว หรือ ตาเหลว ก็ว่า.
เฉลา เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา[ฉะเหฺลา] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สวย, งาม, เกลี้ยงเกลา, เพราพริ้ง.เฉลา [ฉะเหฺลา] ว. สวย, งาม, เกลี้ยงเกลา, เพราพริ้ง.
เฉลิม เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ-มอ-ม้า[ฉะเหฺลิม] เป็นคำกริยา หมายถึง ยกย่อง เช่น เฉลิมพระเกียรติ, เพิ่มพูน, เสริม, เช่น เฉลิมศรัทธา. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เลิศ, ยอด.เฉลิม [ฉะเหฺลิม] ก. ยกย่อง เช่น เฉลิมพระเกียรติ, เพิ่มพูน, เสริม, เช่น เฉลิมศรัทธา. ว. เลิศ, ยอด.
เฉลิมพระชนมพรรษา เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ-มอ-ม้า-พอ-พาน-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ชอ-ช้าง-นอ-หนู-มอ-ม้า-พอ-พาน-รอ-เรือ-รอ-เรือ-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อา[ฉะเหฺลิมพฺระชนมะพันสา] เป็นคำนาม หมายถึง เรียกวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมราชินี สมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระยุพราช และ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ว่า วันเฉลิมพระชนมพรรษา.เฉลิมพระชนมพรรษา [ฉะเหฺลิมพฺระชนมะพันสา] น. เรียกวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมราชินี สมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระยุพราช และ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ว่า วันเฉลิมพระชนมพรรษา.
เฉลี่ย เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-ไม้-เอก-ยอ-ยัก[ฉะเหฺลี่ย] เป็นคำกริยา หมายถึง แบ่งส่วนให้เท่ากัน, แจกจ่ายให้ทั่วกัน. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ที่ถัวให้มีส่วนเสมอกัน เช่น รายเฉลี่ย.เฉลี่ย [ฉะเหฺลี่ย] ก. แบ่งส่วนให้เท่ากัน, แจกจ่ายให้ทั่วกัน. ว. ที่ถัวให้มีส่วนเสมอกัน เช่น รายเฉลี่ย.
เฉลียง เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-งอ-งู[ฉะเหฺลียง] เป็นคำนาม หมายถึง ส่วนของโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญที่ต่อออกมาโดยรอบ หรือส่วนของเรือนที่ต่อออกมาด้านหัวและท้ายเรือน สําหรับนั่งเล่นหรือเดินติดต่อกันเป็นต้น. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เฉียง.เฉลียง [ฉะเหฺลียง] น. ส่วนของโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญที่ต่อออกมาโดยรอบ หรือส่วนของเรือนที่ต่อออกมาด้านหัวและท้ายเรือน สําหรับนั่งเล่นหรือเดินติดต่อกันเป็นต้น. ว. เฉียง.
เฉลี่ยง เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-ไม้-เอก-ยอ-ยัก-งอ-งู[ฉะเหฺลี่ยง] เป็นคำนาม หมายถึง ยาน, คานหาม, โดยมากใช้ว่า เสลี่ยง.เฉลี่ยง [ฉะเหฺลี่ยง] น. ยาน, คานหาม, โดยมากใช้ว่า เสลี่ยง.
เฉลียบ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-บอ-ไบ-ไม้ ความหมายที่ [ฉะเหฺลียบ] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อปลาทะเลชนิด Scomberoides lysan ในวงศ์ Carangidae หัวและลําตัวแบนข้างมาก เกล็ดละเอียดแทรกแน่นอยู่ในหนัง เกล็ดบนเส้นข้างตัวไม่เป็นสันแข็ง ลําตัวและปากไม่กว้างเท่าปลาสละ แต่เพรียวและค่อนข้างยาว ปากกว้างกว่าปลาสีเสียดเล็กน้อยและมีจุดดํา ๒ แถว เรียงตามยาวอยู่ข้างลําตัว.เฉลียบ ๑ [ฉะเหฺลียบ] น. ชื่อปลาทะเลชนิด Scomberoides lysan ในวงศ์ Carangidae หัวและลําตัวแบนข้างมาก เกล็ดละเอียดแทรกแน่นอยู่ในหนัง เกล็ดบนเส้นข้างตัวไม่เป็นสันแข็ง ลําตัวและปากไม่กว้างเท่าปลาสละ แต่เพรียวและค่อนข้างยาว ปากกว้างกว่าปลาสีเสียดเล็กน้อยและมีจุดดํา ๒ แถว เรียงตามยาวอยู่ข้างลําตัว.
เฉลียบ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-บอ-ไบ-ไม้ ความหมายที่ [ฉะเหฺลียบ] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อหอยทะเลกาบคู่ชนิด Isognomon isognomum ในวงศ์ Isognomonidae เปลือกแบน ขอบด้านบนค่อนข้างเป็นแนวตรง ขอบด้านล่างโค้งเว้าทางด้านหน้า นูนทางด้านตรงข้าม สีเข้มเกือบดำ เกาะอยู่ตามรากไม้หรือหินในป่าชายเลน.เฉลียบ ๒ [ฉะเหฺลียบ] น. ชื่อหอยทะเลกาบคู่ชนิด Isognomon isognomum ในวงศ์ Isognomonidae เปลือกแบน ขอบด้านบนค่อนข้างเป็นแนวตรง ขอบด้านล่างโค้งเว้าทางด้านหน้า นูนทางด้านตรงข้าม สีเข้มเกือบดำ เกาะอยู่ตามรากไม้หรือหินในป่าชายเลน.
เฉลียว เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-วอ-แหวน[ฉะเหฺลียว] เป็นคำกริยา หมายถึง นึกระแวงขึ้นมา เช่น ไม่เฉลียวว่าเขาจะหักหลัง, มีไหวพริบ เช่น ฉลาดแต่ไม่เฉลียว.เฉลียว [ฉะเหฺลียว] ก. นึกระแวงขึ้นมา เช่น ไม่เฉลียวว่าเขาจะหักหลัง, มีไหวพริบ เช่น ฉลาดแต่ไม่เฉลียว.
เฉลียวใจ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-วอ-แหวน-สะ-หระ-ไอ-ไม้-ม้วน-จอ-จาน เป็นคำกริยา หมายถึง นึกระแวงขึ้นมา, ชักจะสงสัย.เฉลียวใจ ก. นึกระแวงขึ้นมา, ชักจะสงสัย.
เฉลียวฉลาด เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-วอ-แหวน-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีปัญญาและไหวพริบดี, ฉลาดเฉลียว ก็ว่า. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร เฉฺลียวฉฺลาต เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-วอ-แหวน-ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ตอ-เต่า เฉฺลียวฉฺลาส เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-วอ-แหวน-ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ .เฉลียวฉลาด ว. มีปัญญาและไหวพริบดี, ฉลาดเฉลียว ก็ว่า. (ข. เฉฺลียวฉฺลาต, เฉฺลียวฉฺลาส).
เฉวียง เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-วอ-แหวน-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-งอ-งู[ฉะเหฺวียง] เป็นคำนาม หมายถึง ซ้าย; เอียง, ตะแคง, ทแยง. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร เฉฺวง เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-พิน-ทุ-วอ-แหวน-งอ-งู.เฉวียง [ฉะเหฺวียง] น. ซ้าย; เอียง, ตะแคง, ทแยง. (ข. เฉฺวง).
เฉวียงบ่า เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-วอ-แหวน-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-งอ-งู-บอ-ไบ-ไม้-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เรียกการห่มผ้าปิดทางบ่าซ้ายเปิดบ่าขวาว่า ห่มเฉวียงบ่า.เฉวียงบ่า ว. เรียกการห่มผ้าปิดทางบ่าซ้ายเปิดบ่าขวาว่า ห่มเฉวียงบ่า.
เฉวียน เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-วอ-แหวน-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-นอ-หนู[ฉะเหฺวียน] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เวียน, วนเวียน.เฉวียน [ฉะเหฺวียน] ว. เวียน, วนเวียน.
เฉอะแฉะ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ออ-อ่าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เปียกเลอะเทอะเปรอะเปื้อน.เฉอะแฉะ ว. เปียกเลอะเทอะเปรอะเปื้อน.
เฉา เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา เป็นคำกริยา หมายถึง เหี่ยว, ไม่สดชื่น.เฉา ก. เหี่ยว, ไม่สดชื่น.
เฉาก๊วย เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ไม้-ตรี-วอ-แหวน-ยอ-ยัก เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อขนมชนิดหนึ่ง สีดํา ทําจากเมือกที่ได้จากการต้มเคี่ยวพรรณไม้ชนิดหนึ่ง ใส่แป้งลงไปผสม กวนให้ทั่ว ทิ้งไว้ให้เย็น กินกับนํ้าหวานหรือใส่นํ้าตาลทรายแดง. ในวงเล็บ มาจากภาษาจีน .เฉาก๊วย น. ชื่อขนมชนิดหนึ่ง สีดํา ทําจากเมือกที่ได้จากการต้มเคี่ยวพรรณไม้ชนิดหนึ่ง ใส่แป้งลงไปผสม กวนให้ทั่ว ทิ้งไว้ให้เย็น กินกับนํ้าหวานหรือใส่นํ้าตาลทรายแดง. (จ.).
เฉาโฉด เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-ดอ-เด็ก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง โง่, เซ่อ, โง่เขลา, โฉดเฉา ก็ว่า.เฉาโฉด ว. โง่, เซ่อ, โง่เขลา, โฉดเฉา ก็ว่า.
เฉาฮื้อ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ฮอ-นก-ฮูก-สะ-หระ-อือ-ไม้-โท-ออ-อ่าง เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Ctenopharyngodon idellus ในวงศ์ Cyprinidae ปากเล็กอยู่ปลายสุดของหัว ไม่มีหนวด ที่สําคัญคือ ลําตัวยาว ท้องกลม เกล็ดใหญ่เรียบ ลําตัวสีเงิน อาศัยหากินพืชนํ้าอยู่ใกล้ผิวนํ้า มีถิ่นเดิมอยู่ในประเทศจีน นําเข้ามาเลี้ยงเป็นอาหาร.เฉาฮื้อ น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Ctenopharyngodon idellus ในวงศ์ Cyprinidae ปากเล็กอยู่ปลายสุดของหัว ไม่มีหนวด ที่สําคัญคือ ลําตัวยาว ท้องกลม เกล็ดใหญ่เรียบ ลําตัวสีเงิน อาศัยหากินพืชนํ้าอยู่ใกล้ผิวนํ้า มีถิ่นเดิมอยู่ในประเทศจีน นําเข้ามาเลี้ยงเป็นอาหาร.
เฉาะ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ เป็นคำกริยา หมายถึง เอามีดสับลงเป็นที่ ๆ เฉพาะที่ต้องการแล้วงัดให้แยกออก เช่น เฉาะตาล เฉาะฝรั่ง. เป็นคำนาม หมายถึง เรียกเนื้อในตาลอ่อนที่เฉาะออกมาจากเต้าตาลว่า ตาลเฉาะ.เฉาะ ก. เอามีดสับลงเป็นที่ ๆ เฉพาะที่ต้องการแล้วงัดให้แยกออก เช่น เฉาะตาล เฉาะฝรั่ง. น. เรียกเนื้อในตาลอ่อนที่เฉาะออกมาจากเต้าตาลว่า ตาลเฉาะ.
เฉาะ ๆ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ ไม้-ยะ-มก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ง่าย ๆ, สะดวก, เหนาะ ๆ.เฉาะ ๆ ว. ง่าย ๆ, สะดวก, เหนาะ ๆ.
เฉาะปล่อง เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ-ปอ-ปลา-ลอ-ลิง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-งอ-งู เป็นคำกริยา หมายถึง ทําให้เป็นช่องไป.เฉาะปล่อง ก. ทําให้เป็นช่องไป.
เฉิด เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-ดอ-เด็ก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง งามเด่น, สง่าผ่าเผย.เฉิด ว. งามเด่น, สง่าผ่าเผย.
เฉิดฉัน, เฉิดฉิน เฉิดฉัน เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-ดอ-เด็ก-ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู เฉิดฉิน เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-ดอ-เด็ก-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง งาม, เพริศพริ้ง.เฉิดฉัน, เฉิดฉิน (กลอน) ว. งาม, เพริศพริ้ง.
เฉิดฉาย เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-ดอ-เด็ก-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง งามผุดผาดสดใส.เฉิดฉาย ว. งามผุดผาดสดใส.
เฉิบ, เฉิบ ๆ เฉิบ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-บอ-ไบ-ไม้ เฉิบ ๆ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-บอ-ไบ-ไม้ ไม้-ยะ-มก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง คําร้องบอกจังหวะในการเต้นหรือรํา, มีท่าทางเนิบ ๆ เป็นจังหวะ เช่น รําเฉิบ ๆ เดินเฉิบ ๆ พายเรือเฉิบ ๆ, ใช้ประกอบคําอื่นมีความหมายไปในทางที่มีอาการประหนึ่งว่าเป็นเช่นนั้น เช่น นั่งสบายใจเฉิบ.เฉิบ, เฉิบ ๆ ว. คําร้องบอกจังหวะในการเต้นหรือรํา, มีท่าทางเนิบ ๆ เป็นจังหวะ เช่น รําเฉิบ ๆ เดินเฉิบ ๆ พายเรือเฉิบ ๆ, ใช้ประกอบคําอื่นมีความหมายไปในทางที่มีอาการประหนึ่งว่าเป็นเช่นนั้น เช่น นั่งสบายใจเฉิบ.
เฉียง เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-งอ-งู ความหมายที่ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เฉหรือเบี่ยงจากแนวไปทางใดทางหนึ่ง เช่น เฉียงเหนือ เฉียงใต้ ห่มสไบเฉียง.เฉียง ๑ ว. เฉหรือเบี่ยงจากแนวไปทางใดทางหนึ่ง เช่น เฉียงเหนือ เฉียงใต้ ห่มสไบเฉียง.
เฉียง เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-งอ-งู ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ต้นไม้ใช้ใบทํายา. ในวงเล็บ มาจาก พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๔๙๓.เฉียง ๒ น. ต้นไม้ใช้ใบทํายา. (พจน. ๒๔๙๓).
เฉียงพร้าดำ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-งอ-งู-พอ-พาน-รอ-เรือ-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อำ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้พุ่มชนิด Justicia ventricosa Wall. ในวงศ์ Acanthaceae ต้นสูงได้ถึง ๓ เมตร ใบออกตรงข้ามกัน ปลายและโคนใบแหลม ดอกสีขาวประแดง ออกเป็นช่อแน่นที่ปลายกิ่ง ต้นและใบใช้ทํายาได้, บัวฮาดํา ก็เรียก.เฉียงพร้าดำ น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Justicia ventricosa Wall. ในวงศ์ Acanthaceae ต้นสูงได้ถึง ๓ เมตร ใบออกตรงข้ามกัน ปลายและโคนใบแหลม ดอกสีขาวประแดง ออกเป็นช่อแน่นที่ปลายกิ่ง ต้นและใบใช้ทํายาได้, บัวฮาดํา ก็เรียก.
เฉียงพร้านางแอ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-งอ-งู-พอ-พาน-รอ-เรือ-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-สะ-หระ-อา-งอ-งู-สะ-หระ-แอ-ออ-อ่าง เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Carallia brachiata Merr. ในวงศ์ Rhizophoraceae เนื้อไม้ใช้ทําเครื่องเรือน, คอแห้ง เขียงพระนางอี่ เขียงพร้า สันพร้านางแอ หรือ สีฟันนางแอ ก็เรียก.เฉียงพร้านางแอ น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Carallia brachiata Merr. ในวงศ์ Rhizophoraceae เนื้อไม้ใช้ทําเครื่องเรือน, คอแห้ง เขียงพระนางอี่ เขียงพร้า สันพร้านางแอ หรือ สีฟันนางแอ ก็เรียก.
เฉียงพร้ามอญ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-งอ-งู-พอ-พาน-รอ-เรือ-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-ออ-อ่าง-ยอ-หยิงดู กระดูกไก่ดํา เขียนว่า กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อู-กอ-ไก่-สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-กอ-ไก่-ไม้-เอก-ดอ-เด็ก-นิก-คะ-หิด-สะ-หระ-อา.เฉียงพร้ามอญ ดู กระดูกไก่ดํา.
เฉียด เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-ดอ-เด็ก เป็นคำกริยา หมายถึง ผ่านไปในระยะกระชั้นชิด, โดยปริยายหมายความว่า จวนถูก เช่น เฉียดรางวัล, เกือบ, จวนเจียน, เช่น เฉียดตาย.เฉียด ก. ผ่านไปในระยะกระชั้นชิด, โดยปริยายหมายความว่า จวนถูก เช่น เฉียดรางวัล, เกือบ, จวนเจียน, เช่น เฉียดตาย.
เฉียบ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-บอ-ไบ-ไม้ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ยิ่งนัก, จัด, เช่น เย็นเฉียบ คมเฉียบ.เฉียบ ว. ยิ่งนัก, จัด, เช่น เย็นเฉียบ คมเฉียบ.
เฉียบขาด เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-บอ-ไบ-ไม้-ขอ-ไข่-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เด็ดขาด.เฉียบขาด ว. เด็ดขาด.
เฉียบพลัน เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-บอ-ไบ-ไม้-พอ-พาน-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อาการที่เริ่มอย่างรวดเร็วและรุนแรงมาก (มักใช้แก่อาการของโรค) เช่น หัวใจวายเฉียบพลัน.เฉียบพลัน ว. อาการที่เริ่มอย่างรวดเร็วและรุนแรงมาก (มักใช้แก่อาการของโรค) เช่น หัวใจวายเฉียบพลัน.
เฉียบแหลม เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-แอ-หอ-หีบ-ลอ-ลิง-มอ-ม้า เป็นคำกริยา หมายถึง ฉลาดหลักแหลม.เฉียบแหลม ก. ฉลาดหลักแหลม.
เฉียว เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-วอ-แหวน เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง แรง, จัด.เฉียว ว. แรง, จัด.
เฉียวฉุน เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-วอ-แหวน-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อุ-นอ-หนู เป็นคำกริยา หมายถึง ฉุนจัด, โกรธง่าย, โกรธเร็ว, ฉุนเฉียว ก็ว่า.เฉียวฉุน ก. ฉุนจัด, โกรธง่าย, โกรธเร็ว, ฉุนเฉียว ก็ว่า.
เฉี่ยว เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อี-ไม้-เอก-ยอ-ยัก-วอ-แหวน เป็นคำกริยา หมายถึง กิริยาของนกที่โฉบลงมาคว้าอาหารไปโดยเร็ว, อาการที่กระทบหรือเสียดสีไปโดยเร็ว เช่น รถเฉี่ยวคน. ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ล้ำยุค, นำสมัย, เช่น ผู้หญิงคนนี้แต่งตัวเฉี่ยว.เฉี่ยว ก. กิริยาของนกที่โฉบลงมาคว้าอาหารไปโดยเร็ว, อาการที่กระทบหรือเสียดสีไปโดยเร็ว เช่น รถเฉี่ยวคน. (ปาก) ว. ล้ำยุค, นำสมัย, เช่น ผู้หญิงคนนี้แต่งตัวเฉี่ยว.
เฉือน เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อือ-ออ-อ่าง-นอ-หนู เป็นคำกริยา หมายถึง เชือดแบ่งเอาแต่บางส่วน, โดยปริยายหมายความว่า ชนะไปนิดเดียว, ชนะอย่างหวุดหวิด.เฉือน ก. เชือดแบ่งเอาแต่บางส่วน, โดยปริยายหมายความว่า ชนะไปนิดเดียว, ชนะอย่างหวุดหวิด.
เฉื่อย ๑, เฉื่อย ๆ เฉื่อย ความหมายที่ ๑ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อือ-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก เฉื่อย ๆ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อือ-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก ไม้-ยะ-มก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เรื่อย ๆ, ช้า ๆ, เช่น ลมเฉื่อย ลมพัดเฉื่อย ๆ, ไม่รีบร้อน, อืดอาด, เช่น คนเฉื่อย ทํางานเฉื่อย ๆ.เฉื่อย ๑, เฉื่อย ๆ ว. เรื่อย ๆ, ช้า ๆ, เช่น ลมเฉื่อย ลมพัดเฉื่อย ๆ, ไม่รีบร้อน, อืดอาด, เช่น คนเฉื่อย ทํางานเฉื่อย ๆ.
เฉื่อยชา เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อือ-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อา เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อืดอาด, ไม่รีบร้อน, แฉะแบะ.เฉื่อยชา ว. อืดอาด, ไม่รีบร้อน, แฉะแบะ.
เฉื่อย เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อือ-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก ความหมายที่ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในเคมี เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ไม่เปลี่ยนไปง่ายโดยปฏิกิริยาเคมี, ไม่ไวต่อปฏิกิริยาเคมี.เฉื่อย ๒ (เคมี) ว. ไม่เปลี่ยนไปง่ายโดยปฏิกิริยาเคมี, ไม่ไวต่อปฏิกิริยาเคมี.
แฉ เขียนว่า สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องตีชนิดหนึ่ง ทําด้วยโลหะ สําหรับตีขัดจังหวะ เล็กกว่าฉาบ.แฉ ๑ น. เครื่องตีชนิดหนึ่ง ทําด้วยโลหะ สําหรับตีขัดจังหวะ เล็กกว่าฉาบ.
แฉ เขียนว่า สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง แบ, ตีแผ่, เปิดเผย, เช่น แฉไพ่.แฉ ๒ ก. แบ, ตีแผ่, เปิดเผย, เช่น แฉไพ่.
แฉโพย เขียนว่า สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-โอ-พอ-พาน-ยอ-ยัก เป็นคำกริยา หมายถึง เปิดเผยข้อที่ปิดบังหรือความลับ. ในวงเล็บ มาจากภาษาจีน .แฉโพย ก. เปิดเผยข้อที่ปิดบังหรือความลับ. (จ.).
แฉ่ เขียนว่า สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เสียงดังเช่นนั้นอย่างเสียงฝนตกพรํา ๆ เป็นระยะ ๆ หรือเสียงที่เอาโลหะเผาไฟร้อนจุ่มลงในนํ้า.แฉ่ ว. เสียงดังเช่นนั้นอย่างเสียงฝนตกพรํา ๆ เป็นระยะ ๆ หรือเสียงที่เอาโลหะเผาไฟร้อนจุ่มลงในนํ้า.
แฉก, แฉก ๆ แฉก เขียนว่า สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง-กอ-ไก่ แฉก ๆ เขียนว่า สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง-กอ-ไก่ ไม้-ยะ-มก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ลักษณะของสิ่งที่เป็นแผ่นและแยกออกเป็นจัก ๆ หรือเป็นทางยาว เช่น พัดแฉก ดาว ๕ แฉก ใบตาลเป็นแฉก ๆ; เรียกพัดยศพระราชาคณะ มียอดแหลมและริมเป็นจัก ๆ ว่า พัดแฉก. เป็นคำนาม หมายถึง ลักษณนามเรียกสิ่งที่มีลักษณะเป็นแฉก ๆ เช่น ใบมะละกอมี ๕ แฉก รูป ๓ แฉก.แฉก, แฉก ๆ ว. ลักษณะของสิ่งที่เป็นแผ่นและแยกออกเป็นจัก ๆ หรือเป็นทางยาว เช่น พัดแฉก ดาว ๕ แฉก ใบตาลเป็นแฉก ๆ; เรียกพัดยศพระราชาคณะ มียอดแหลมและริมเป็นจัก ๆ ว่า พัดแฉก. น. ลักษณนามเรียกสิ่งที่มีลักษณะเป็นแฉก ๆ เช่น ใบมะละกอมี ๕ แฉก รูป ๓ แฉก.
แฉง เขียนว่า สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง กระบังศัสตราวุธ เช่น คนถือหอกแฉงปลอกทอง. ในวงเล็บ มาจาก สุบินกุมาร โรงพิมพ์ครูสมิท บางคอแหลม จ.ศ. ๑๒๔๓ ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร .แฉง น. กระบังศัสตราวุธ เช่น คนถือหอกแฉงปลอกทอง. (สุบิน). (ข.).
แฉ่ง เขียนว่า สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก-งอ-งู เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ใช้ประกอบอาการของยิ้มหรือหน้าที่ร่าเริงเบิกบาน เช่น ยิ้มแฉ่ง หน้าแฉ่ง. เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องตีประกอบจังหวะทําด้วยโลหะ รูปอย่างม้าล่อ.แฉ่ง ว. ใช้ประกอบอาการของยิ้มหรือหน้าที่ร่าเริงเบิกบาน เช่น ยิ้มแฉ่ง หน้าแฉ่ง. น. เครื่องตีประกอบจังหวะทําด้วยโลหะ รูปอย่างม้าล่อ.
แฉลบ เขียนว่า สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-บอ-ไบ-ไม้ ความหมายที่ [ฉะแหฺลบ] เป็นคำกริยา หมายถึง อาการของสิ่งแบน ๆ เคลื่อนเฉไปเฉมาไม่ตรงแนวทาง เช่น ว่าวแฉลบ ร่อนกระเบื้องให้แฉลบไปตามผิวน้ำ. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อาการที่เคลื่อนเฉไปเฉมาไม่ตรงแนวทาง เช่น นกบินแฉลบ รถวิ่งแฉลบ.แฉลบ ๑ [ฉะแหฺลบ] ก. อาการของสิ่งแบน ๆ เคลื่อนเฉไปเฉมาไม่ตรงแนวทาง เช่น ว่าวแฉลบ ร่อนกระเบื้องให้แฉลบไปตามผิวน้ำ. ว. อาการที่เคลื่อนเฉไปเฉมาไม่ตรงแนวทาง เช่น นกบินแฉลบ รถวิ่งแฉลบ.
แฉลบ เขียนว่า สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-บอ-ไบ-ไม้ ความหมายที่ [ฉะแหฺลบ] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้ต้น ๒ ชนิดในสกุล Acacia วงศ์ Leguminosae คือ แฉลบขาว (A. harmandiana Gagnep.) และ แฉลบแดง (A. leucophloea Willd.) ดอกกลม ฝักรูปเคียวสีน้ำตาลเข้ม มีเปลือกสีขาว.แฉลบ ๒ [ฉะแหฺลบ] น. ชื่อไม้ต้น ๒ ชนิดในสกุล Acacia วงศ์ Leguminosae คือ แฉลบขาว (A. harmandiana Gagnep.) และ แฉลบแดง (A. leucophloea Willd.) ดอกกลม ฝักรูปเคียวสีน้ำตาลเข้ม มีเปลือกสีขาว.
แฉลบ เขียนว่า สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-บอ-ไบ-ไม้ ความหมายที่ [ฉะแหฺลบ] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อหอยทะเลกาบคู่ชนิด Placuna sella ในวงศ์ Anomiidae เปลือกค่อนข้างกลม แบน โค้งเล็กน้อยคล้ายอานม้า สีนํ้าตาลเข้ม, อานม้า ก็เรียก.แฉลบ ๓ [ฉะแหฺลบ] น. ชื่อหอยทะเลกาบคู่ชนิด Placuna sella ในวงศ์ Anomiidae เปลือกค่อนข้างกลม แบน โค้งเล็กน้อยคล้ายอานม้า สีนํ้าตาลเข้ม, อานม้า ก็เรียก.
แฉล้ม เขียนว่า สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-ไม้-โท-มอ-ม้า[ฉะแล่ม] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สวย, งดงาม, แช่มช้อย, แชล่ม หรือ แสล้ม ก็ใช้.แฉล้ม [ฉะแล่ม] ว. สวย, งดงาม, แช่มช้อย, แชล่ม หรือ แสล้ม ก็ใช้.
แฉละ เขียนว่า สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อะ[ฉะแหฺละ] เป็นคำกริยา หมายถึง แล่, เถือให้เป็นชิ้นบาง ๆ, เชือด, ชําแหละ ก็ใช้.แฉละ [ฉะแหฺละ] ก. แล่, เถือให้เป็นชิ้นบาง ๆ, เชือด, ชําแหละ ก็ใช้.
แฉว เขียนว่า สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง-วอ-แหวน[ฉะแหฺว] ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ที่รุ้ง, ที่คุ้ง, ที่เวิ้ง.แฉว [ฉะแหฺว] (โบ) ว. ที่รุ้ง, ที่คุ้ง, ที่เวิ้ง.
แฉะ เขียนว่า สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ เป็นคำกริยา หมายถึง เปียกหรือชุ่มนํ้าอยู่เสมอ เช่น ถนนแฉะ ตาแฉะ, เปียกหรือชุ่มนํ้าเกินไป เช่น ข้าวแฉะ; ไม่รีบร้อน, เฉื่อยชา, เช่น ทํางานแฉะ.แฉะ ก. เปียกหรือชุ่มนํ้าอยู่เสมอ เช่น ถนนแฉะ ตาแฉะ, เปียกหรือชุ่มนํ้าเกินไป เช่น ข้าวแฉะ; ไม่รีบร้อน, เฉื่อยชา, เช่น ทํางานแฉะ.
แฉะแบะ เขียนว่า สะ-หระ-แอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-แอ-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-อะ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อาการที่นั่งเฉื่อยชาอยู่นาน ๆ, เฉื่อยชา, แบะแฉะ ก็ว่า.แฉะแบะ ว. อาการที่นั่งเฉื่อยชาอยู่นาน ๆ, เฉื่อยชา, แบะแฉะ ก็ว่า.
โฉ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง เป็นคำกริยา หมายถึง ฟุ้งไป (ใช้แก่กลิ่นเหม็น).โฉ ก. ฟุ้งไป (ใช้แก่กลิ่นเหม็น).
โฉ่ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง คลุ้ง, ฟุ้ง, (มักใช้แก่กลิ่นที่เน่าเหม็นหรือเรื่องราวที่ไม่ดี) เช่น เหม็นโฉ่.โฉ่ ว. คลุ้ง, ฟุ้ง, (มักใช้แก่กลิ่นที่เน่าเหม็นหรือเรื่องราวที่ไม่ดี) เช่น เหม็นโฉ่.
โฉ่ฉาว เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-วอ-แหวน เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อื้ออึง, เกรียวกราวขึ้น, รู้กันทั่วไป, (ใช้แก่ข่าวที่ไม่ดีไม่งาม), ฉาวโฉ่ ก็ว่า.โฉ่ฉาว ว. อื้ออึง, เกรียวกราวขึ้น, รู้กันทั่วไป, (ใช้แก่ข่าวที่ไม่ดีไม่งาม), ฉาวโฉ่ ก็ว่า.
โฉเก เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-เอ-กอ-ไก่ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ฉลาดแกมโกง, ไม่ตรงไปตรงมา, เฉโก ก็ว่า.โฉเก ว. ฉลาดแกมโกง, ไม่ตรงไปตรงมา, เฉโก ก็ว่า.
โฉ่งฉ่าง เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก-งอ-งู-ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา-งอ-งู เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เสียงอย่างเสียงโลหะกระทบกัน, มีท่าทางเก้งก้างไม่รัดกุม เช่น กิริยาโฉ่งฉ่าง ชกโฉ่งฉ่าง, ส่งเสียงดังอย่างไม่เกรงใจใคร เช่น เขาพูดจาโฉ่งฉ่าง.โฉ่งฉ่าง ว. เสียงอย่างเสียงโลหะกระทบกัน, มีท่าทางเก้งก้างไม่รัดกุม เช่น กิริยาโฉ่งฉ่าง ชกโฉ่งฉ่าง, ส่งเสียงดังอย่างไม่เกรงใจใคร เช่น เขาพูดจาโฉ่งฉ่าง.
โฉงเฉง เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-งอ-งู-สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-งอ-งู เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เอะอะเอ็ดอึงเป็นทํานองเกะกะเกเร เช่น พูดจาโฉงเฉง.โฉงเฉง ว. เอะอะเอ็ดอึงเป็นทํานองเกะกะเกเร เช่น พูดจาโฉงเฉง.
โฉด เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-ดอ-เด็ก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง โง่เขลาเบาปัญญา.โฉด ว. โง่เขลาเบาปัญญา.
โฉดเฉา เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง โง่, เซ่อ, โง่เขลา, เฉาโฉด ก็ว่า.โฉดเฉา ว. โง่, เซ่อ, โง่เขลา, เฉาโฉด ก็ว่า.
โฉนด เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-นอ-หนู-ดอ-เด็ก[ฉะโหฺนด] เป็นคำนาม หมายถึง หนังสือสําคัญของทางราชการแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน, ก่อนนี้ถ้าเป็นสวนปลูกไม้ยืนต้น เรียกว่า โฉนดสวน, ถ้าเป็นสวนไม้ล้มลุก เรียกว่า โฉนดป่า, เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๔ เริ่มออกโฉนดแบบใหม่โดยวิธีรังวัดปักหลักเขตลงในที่ดินด้วยหมุดหลักฐานการแผนที่ และแสดงรูปแผนที่ที่ดินนั้นลงไว้ในโฉนดด้วย เรียกว่า โฉนดแผนที่; หนังสือ เช่น ออกโฉนดบาดหมายให้แก่ราชการ. (บรมราชาธิบาย ร. ๔).โฉนด [ฉะโหฺนด] น. หนังสือสําคัญของทางราชการแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน, ก่อนนี้ถ้าเป็นสวนปลูกไม้ยืนต้น เรียกว่า โฉนดสวน, ถ้าเป็นสวนไม้ล้มลุก เรียกว่า โฉนดป่า, เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๔ เริ่มออกโฉนดแบบใหม่โดยวิธีรังวัดปักหลักเขตลงในที่ดินด้วยหมุดหลักฐานการแผนที่ และแสดงรูปแผนที่ที่ดินนั้นลงไว้ในโฉนดด้วย เรียกว่า โฉนดแผนที่; หนังสือ เช่น ออกโฉนดบาดหมายให้แก่ราชการ. (บรมราชาธิบาย ร. ๔).
โฉนดที่ดิน เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-นอ-หนู-ดอ-เด็ก-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อี-ไม้-เอก-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำนาม หมายถึง หนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน.โฉนดที่ดิน (กฎ) น. หนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน.
โฉบ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-บอ-ไบ-ไม้ เป็นคำกริยา หมายถึง โผลงมาคว้าเอาสิ่งของไป (ใช้แก่นก) เช่น กาโฉบลูกไก่, ฉวยเอาไปอย่างรวดเร็ว เช่น เด็กโฉบมะม่วงนอกรั้วไปเสียแล้ว; เจตนาไปที่ใดที่หนึ่ง เช่น โฉบไปหน้าโรงเรียน.โฉบ ก. โผลงมาคว้าเอาสิ่งของไป (ใช้แก่นก) เช่น กาโฉบลูกไก่, ฉวยเอาไปอย่างรวดเร็ว เช่น เด็กโฉบมะม่วงนอกรั้วไปเสียแล้ว; เจตนาไปที่ใดที่หนึ่ง เช่น โฉบไปหน้าโรงเรียน.
โฉเบ๊ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-เอ-บอ-ไบ-ไม้-ไม้-ตรี ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำกริยา หมายถึง เกะกะแกมโกง.โฉเบ๊ (ปาก) ก. เกะกะแกมโกง.
โฉม เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-มอ-ม้า ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง รูปร่าง, ทรวดทรง, เค้า, เช่น เนื้อชาววังใช้ช้า โฉมใช่โฉมคนค้า หน้าใช่หน้ากริกกริว. ในวงเล็บ มาจาก ลิลิตพระลอ แบบเรียน. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง งาม.โฉม ๑ น. รูปร่าง, ทรวดทรง, เค้า, เช่น เนื้อชาววังใช้ช้า โฉมใช่โฉมคนค้า หน้าใช่หน้ากริกกริว. (ลอ). ว. งาม.
โฉมงาม เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-มอ-ม้า-งอ-งู-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง รูปงาม.โฉมงาม ๑ น. รูปงาม.
โฉมฉาย, โฉมฉิน, โฉมเฉิด โฉมฉาย เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-มอ-ม้า-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก โฉมฉิน เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-มอ-ม้า-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู โฉมเฉิด เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-มอ-ม้า-สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-อิ-ดอ-เด็ก เป็นคำนาม หมายถึง รูปร่างงามเปล่งปลั่ง, รูปร่างงามสง่าผ่าเผย.โฉมฉาย, โฉมฉิน, โฉมเฉิด น. รูปร่างงามเปล่งปลั่ง, รูปร่างงามสง่าผ่าเผย.
โฉมเฉลา เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-มอ-ม้า-สะ-หระ-เอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง รูปร่างหล่อเหลา, หญิงงามหล่อเหลา.โฉมเฉลา น. รูปร่างหล่อเหลา, หญิงงามหล่อเหลา.
โฉมตรู เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-มอ-ม้า-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-สะ-หระ-อู เป็นคำนาม หมายถึง รูปงาม, หญิงงาม.โฉมตรู น. รูปงาม, หญิงงาม.
โฉมยง เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-มอ-ม้า-ยอ-ยัก-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง รูปร่างงามสง่า เช่น หนุ่มน้อยโสภาน่าเสียดาย ควรจะนับว่าชายโฉมยง. ในวงเล็บ มาจาก อิเหนา พระราชนิพนธ์ ในรัชกาลที่ ๒ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๔, หญิงงามสง่า เช่น พระเพื่อนโฉมยงหย้อง อยู่เพี้ยงดวงเดือน. ในวงเล็บ มาจาก ลิลิตพระลอ แบบเรียน.โฉมยง น. รูปร่างงามสง่า เช่น หนุ่มน้อยโสภาน่าเสียดาย ควรจะนับว่าชายโฉมยง. (อิเหนา), หญิงงามสง่า เช่น พระเพื่อนโฉมยงหย้อง อยู่เพี้ยงดวงเดือน. (ลอ).
โฉมศรี เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-มอ-ม้า-สอ-สา-ลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี เป็นคำนาม หมายถึง รูปเป็นสง่า.โฉมศรี น. รูปเป็นสง่า.
โฉมหน้า เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-มอ-ม้า-หอ-หีบ-นอ-หนู-ไม้-โท-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง เค้าหน้า; เค้าที่คาดว่าจะเกิดในภายหน้า เช่น โฉมหน้าการเมืองยุคใหม่. เป็นคำกริยา หมายถึง บ่ายหน้า.โฉมหน้า น. เค้าหน้า; เค้าที่คาดว่าจะเกิดในภายหน้า เช่น โฉมหน้าการเมืองยุคใหม่. ก. บ่ายหน้า.
โฉม เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-มอ-ม้า ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ผักโฉม. ในวงเล็บ ดู กระโฉม เขียนว่า กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-มอ-ม้า.โฉม ๒ น. ผักโฉม. (ดู กระโฉม).
โฉมงาม เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-มอ-ม้า-งอ-งู-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า ความหมายที่ ดูใน โฉม เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-มอ-ม้า ความหมายที่ ๑.โฉมงาม ๑ ดูใน โฉม ๑.
โฉมงาม เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-มอ-ม้า-งอ-งู-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ปลาผมนาง. ในวงเล็บ มาจาก เสด็จประพาสไทรโยคและจันทบุรี พระราชนิพนธ์ ในรัชกาลที่ ๕ ร.ศ. ๑๓๑.โฉมงาม ๒ น. ปลาผมนาง. (ประพาสจันทบุรี).
โฉลก เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ฉอ-ฉิ่ง-ลอ-ลิง-กอ-ไก่[ฉะโหฺลก] เป็นคำนาม หมายถึง โชค, โอกาส; ลักษณะซึ่งมีทั้งส่วนดีและส่วนไม่ดี ถ้าดีเรียกว่า ถูกโฉลก ถ้าไม่ดีเรียกว่า ไม่ถูกโฉลก มักกำหนดด้วยการดูลักษณะ วัดขนาด นับจำนวน เป็นต้น ของคน สัตว์ สิ่งของ ว่าเป็นมงคลหรือไม่เป็นมงคล, อีสานเรียก โสก; ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง, โฉลกแรก ก็ว่า.โฉลก [ฉะโหฺลก] น. โชค, โอกาส; ลักษณะซึ่งมีทั้งส่วนดีและส่วนไม่ดี ถ้าดีเรียกว่า ถูกโฉลก ถ้าไม่ดีเรียกว่า ไม่ถูกโฉลก มักกำหนดด้วยการดูลักษณะ วัดขนาด นับจำนวน เป็นต้น ของคน สัตว์ สิ่งของ ว่าเป็นมงคลหรือไม่เป็นมงคล, อีสานเรียก โสก; ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง, โฉลกแรก ก็ว่า.
ไฉน เขียนว่า สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-ฉอ-ฉิ่ง-นอ-หนู ความหมายที่ [ฉะไหฺน] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ฉันใด, เช่นไร, อย่างไร, เช่น เป็นไฉน, ทำไม, เหตุใด, เช่น ไฉนจึงไม่มาให้ทันเวลา.ไฉน ๑ [ฉะไหฺน] ว. ฉันใด, เช่นไร, อย่างไร, เช่น เป็นไฉน, ทำไม, เหตุใด, เช่น ไฉนจึงไม่มาให้ทันเวลา.
ไฉน เขียนว่า สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-ฉอ-ฉิ่ง-นอ-หนู ความหมายที่ [ฉะไหฺน] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อปี่ชนิดหนึ่ง มีรูปร่างเหมือนปี่ชวา ใช้บรรเลงนำหมู่กลองชนะ สำหรับประโคมในงานพระราชทานเพลิงศพที่ได้รับพระราชทานโกศเป็นต้น มีหัวหน้าเรียกว่า จ่าปี่, สรไน ก็ว่า.ไฉน ๒ [ฉะไหฺน] น. ชื่อปี่ชนิดหนึ่ง มีรูปร่างเหมือนปี่ชวา ใช้บรรเลงนำหมู่กลองชนะ สำหรับประโคมในงานพระราชทานเพลิงศพที่ได้รับพระราชทานโกศเป็นต้น มีหัวหน้าเรียกว่า จ่าปี่, สรไน ก็ว่า.
ไฉยา เขียนว่า สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-ฉอ-ฉิ่ง-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำนาม หมายถึง ผู้หญิง, นางผู้มีโฉมงาม, เช่น เมื่อนั้น นางรจนาไฉยา แลเห็นสมเด็จพระมารดา กัลยาออกมารับทันที. (บทละครสังข์ทอง), เขียนเป็น ฉัยยา ก็มี. ในวงเล็บ ดู ชายา เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา ความหมายที่ ๒.ไฉยา (กลอน) น. ผู้หญิง, นางผู้มีโฉมงาม, เช่น เมื่อนั้น นางรจนาไฉยา แลเห็นสมเด็จพระมารดา กัลยาออกมารับทันที. (บทละครสังข์ทอง), เขียนเป็น ฉัยยา ก็มี. (ดู ชายา ๒).
ไฉไล เขียนว่า สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-ฉอ-ฉิ่ง-สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-ลอ-ลิง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง งาม; ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ หมายถึง เลี่ยน, เลื่อม.ไฉไล ว. งาม; (โบ) เลี่ยน, เลื่อม.
เขียนว่า ชอ-ช้าง ความหมายที่ พยัญชนะตัวที่ ๑๐ เป็นพวกอักษรตํ่า ใช้เป็นตัวสะกดในแม่กดในคําที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤตเป็นต้น เช่น ราช คช กริช แซนด์วิช.ช ๑ พยัญชนะตัวที่ ๑๐ เป็นพวกอักษรตํ่า ใช้เป็นตัวสะกดในแม่กดในคําที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤตเป็นต้น เช่น ราช คช กริช แซนด์วิช.
เขียนว่า ชอ-ช้าง ความหมายที่ ในภาษาบาลีและสันสกฤต ถ้าใช้ประกอบท้ายคำบางคำ แปลว่า เกิด เช่น บงกช ว่า เกิดในเปลือกตม หมายถึง บัว, วาริช ว่า เกิดในน้ำ หมายถึง ปลา, ทวิช ว่า เกิด ๒ ครั้ง หมายถึง พราหมณ์, นก.ช ๒ ในภาษาบาลีและสันสกฤต ถ้าใช้ประกอบท้ายคำบางคำ แปลว่า เกิด เช่น บงกช ว่า เกิดในเปลือกตม หมายถึง บัว, วาริช ว่า เกิดในน้ำ หมายถึง ปลา, ทวิช ว่า เกิด ๒ ครั้ง หมายถึง พราหมณ์, นก.
ชก เขียนว่า ชอ-ช้าง-กอ-ไก่ เป็นคำกริยา หมายถึง ต่อยด้วยหมัดหรือกําปั้น.ชก ก. ต่อยด้วยหมัดหรือกําปั้น.
ชกมวย เขียนว่า ชอ-ช้าง-กอ-ไก่-มอ-ม้า-วอ-แหวน-ยอ-ยัก เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง.ชกมวย น. ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง.
ชกา เขียนว่า ชอ-ช้าง-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา[ชะ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำนาม หมายถึง นกสาลิกา. ในวงเล็บ มาจาก บทกล่อมช้างของเก่า ในหนังสือชุมนุมฉันท์ดุษฎีสังเวย ฉบับโรงพิมพ์ ไท พ.ศ. ๒๔๕๗.ชกา [ชะ–] (กลอน) น. นกสาลิกา. (กล่อมช้างของเก่า).
ชค– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-คอ-ควาย[ชะคะ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง แผ่นดิน เช่น ชคสัตว์ ว่า สัตว์ที่อาศัยแผ่นดิน. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต .ชค– [ชะคะ–] (แบบ) น. แผ่นดิน เช่น ชคสัตว์ ว่า สัตว์ที่อาศัยแผ่นดิน. (ป., ส.).
ชคดี เขียนว่า ชอ-ช้าง-คอ-ควาย-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อี[ชะคะดี] เป็นคำนาม หมายถึง แผ่นดิน เช่น แลเนืองนองด้วยมนุษยชาติ เดียรดาษชคดี. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์วนปเวสน์ ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี ชคติ เขียนว่า ชอ-ช้าง-คอ-ควาย-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ และมาจากภาษาสันสกฤต ชคตี เขียนว่า ชอ-ช้าง-คอ-ควาย-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อี.ชคดี [ชะคะดี] น. แผ่นดิน เช่น แลเนืองนองด้วยมนุษยชาติ เดียรดาษชคดี. (ม. คำหลวง วนปเวสน์). (ป. ชคติ; ส. ชคตี).
ชคัตตรัย เขียนว่า ชอ-ช้าง-คอ-ควาย-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยัก[ชะคัดไตฺร] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง โลก ๓ เช่น ชคัตตรยาพดง ว่า ผู้เป็นยอดของโลก ๓. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์วนปเวสน์.ชคัตตรัย [ชะคัดไตฺร] (แบบ) น. โลก ๓ เช่น ชคัตตรยาพดง ว่า ผู้เป็นยอดของโลก ๓. (ม. คำหลวง วนปเวสน์).
ชคดี เขียนว่า ชอ-ช้าง-คอ-ควาย-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อีดู ชค– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-คอ-ควาย.ชคดี ดู ชค–.
ชคัตตรัย เขียนว่า ชอ-ช้าง-คอ-ควาย-ไม้-หัน-อา-กาด-ตอ-เต่า-ตอ-เต่า-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยักดู ชค– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-คอ-ควาย.ชคัตตรัย ดู ชค–.
ชง เขียนว่า ชอ-ช้าง-งอ-งู ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง เทนํ้าร้อนลงบนใบชาหรือยาเป็นต้นเพื่อให้รสออก.ชง ๑ ก. เทนํ้าร้อนลงบนใบชาหรือยาเป็นต้นเพื่อให้รสออก.
ชง เขียนว่า ชอ-ช้าง-งอ-งู ความหมายที่ ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาถิ่นภาคใต้ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง งง, ชะงัก, ประหม่า.ชง ๒ (ถิ่น–ปักษ์ใต้) ว. งง, ชะงัก, ประหม่า.
ชงคา เขียนว่า ชอ-ช้าง-งอ-งู-คอ-ควาย-สะ-หระ-อา ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำนาม หมายถึง ราชโองการ เช่น ชุลีกรรับชงคาครรไล. ในวงเล็บ มาจาก นิราศเกาะแก้วกัลกตา.ชงคา (กลอน) น. ราชโองการ เช่น ชุลีกรรับชงคาครรไล. (นิ. เกาะแก้วกัลกตา).
ชงโค เขียนว่า ชอ-ช้าง-งอ-งู-สะ-หระ-โอ-คอ-ควาย เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Bauhinia purpurea L. ในวงศ์ Leguminosae ดอกสีชมพูอมแดงหรือม่วงแดง.ชงโค น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Bauhinia purpurea L. ในวงศ์ Leguminosae ดอกสีชมพูอมแดงหรือม่วงแดง.
ชงฆ–, ชงฆ์, ชงฆา ชงฆ– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-งอ-งู-คอ-ระ-คัง ชงฆ์ เขียนว่า ชอ-ช้าง-งอ-งู-คอ-ระ-คัง-ทัน-ทะ-คาด ชงฆา เขียนว่า ชอ-ช้าง-งอ-งู-คอ-ระ-คัง-สะ-หระ-อา [ชงคะ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง และเป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง แข้ง, ราชาศัพท์ว่า พระชงฆ์. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี ชงฺฆ เขียนว่า ชอ-ช้าง-งอ-งู-พิน-ทุ-คอ-ระ-คัง และมาจากภาษาสันสกฤต ชงฺฆา เขียนว่า ชอ-ช้าง-งอ-งู-พิน-ทุ-คอ-ระ-คัง-สะ-หระ-อา.ชงฆ–, ชงฆ์, ชงฆา [ชงคะ–] (กลอน; แบบ) น. แข้ง, ราชาศัพท์ว่า พระชงฆ์. (ป. ชงฺฆ; ส. ชงฺฆา).
ชงโลง เขียนว่า ชอ-ช้าง-งอ-งู-สะ-หระ-โอ-ลอ-ลิง-งอ-งู ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง โพง, เครื่องวิดนํ้ารูปคล้ายเรือครึ่งท่อน มีด้ามถือ ผูกแขวนเข้ากับขาหยั่ง แล้วจับด้ามให้พุ้ยนํ้าเข้าออกตามต้องการ, โชงโลง ก็ว่า, ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาถิ่นภาคอีสาน หมายถึง กะโซ้. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร โชฺรง เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ชอ-ช้าง-พิน-ทุ-รอ-เรือ-งอ-งู. (รูปภาพ ชงโลง).ชงโลง ๑ น. โพง, เครื่องวิดนํ้ารูปคล้ายเรือครึ่งท่อน มีด้ามถือ ผูกแขวนเข้ากับขาหยั่ง แล้วจับด้ามให้พุ้ยนํ้าเข้าออกตามต้องการ, โชงโลง ก็ว่า, (ถิ่น–อีสาน) กะโซ้. (ข. โชฺรง). (รูปภาพ ชงโลง).
ชงโลง เขียนว่า ชอ-ช้าง-งอ-งู-สะ-หระ-โอ-ลอ-ลิง-งอ-งู ความหมายที่ ดู กดเหลือง เขียนว่า กอ-ไก่-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-เอ-หอ-หีบ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อือ-ออ-อ่าง-งอ-งู.ชงโลง ๒ ดู กดเหลือง.
ชฎา เขียนว่า ชอ-ช้าง-ดอ-ชะ-ดา-สะ-หระ-อา[ชะดา] เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องสวมศีรษะรูปคล้ายมงกุฎ, ผมที่เกล้าเป็นมวยสูงขึ้น. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต ชฏา เขียนว่า ชอ-ช้าง-ตอ-ปะ-ตัก-สะ-หระ-อา. (รูปภาพ ชฎา).ชฎา [ชะดา] น. เครื่องสวมศีรษะรูปคล้ายมงกุฎ, ผมที่เกล้าเป็นมวยสูงขึ้น. (ป., ส. ชฏา). (รูปภาพ ชฎา).
ชฎากลีบ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ดอ-ชะ-ดา-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-บอ-ไบ-ไม้ เป็นคำนาม หมายถึง ชฎารูปเหมือนชฎาเดินหน แต่มีกลีบเป็นลายประดับมาก.ชฎากลีบ น. ชฎารูปเหมือนชฎาเดินหน แต่มีกลีบเป็นลายประดับมาก.
ชฎาธาร เขียนว่า ชอ-ช้าง-ดอ-ชะ-ดา-สะ-หระ-อา-ทอ-ทง-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ เป็นคำนาม หมายถึง ผู้ทรงไว้ซึ่งชฎา.ชฎาธาร น. ผู้ทรงไว้ซึ่งชฎา.
ชฎาเดินหน เขียนว่า ชอ-ช้าง-ดอ-ชะ-ดา-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-เอ-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-หอ-หีบ-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง ชฎายอดงอนที่มีกลีบ.ชฎาเดินหน น. ชฎายอดงอนที่มีกลีบ.
ชฎาแปลง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ดอ-ชะ-ดา-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-แอ-ปอ-ปลา-ลอ-ลิง-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ชฎารูปเหมือนชฎากลีบแต่ไม่มีลวดลาย.ชฎาแปลง น. ชฎารูปเหมือนชฎากลีบแต่ไม่มีลวดลาย.
ชฎาพอก เขียนว่า ชอ-ช้าง-ดอ-ชะ-ดา-สะ-หระ-อา-พอ-พาน-ออ-อ่าง-กอ-ไก่ เป็นคำนาม หมายถึง ชฎาที่ทําสําหรับสวมพระศพเจ้านาย.ชฎาพอก น. ชฎาที่ทําสําหรับสวมพระศพเจ้านาย.
ชฎามหากฐิน เขียนว่า ชอ-ช้าง-ดอ-ชะ-ดา-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-หอ-หีบ-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ถอ-ถาน-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง ชฎาที่ทํายอดเป็น ๕ ยอด มีขนนกการเวกปักตอนบน, ชฎาห้ายอด ก็เรียก.ชฎามหากฐิน น. ชฎาที่ทํายอดเป็น ๕ ยอด มีขนนกการเวกปักตอนบน, ชฎาห้ายอด ก็เรียก.
ชฎามังษี, ชฎามังสี ชฎามังษี เขียนว่า ชอ-ช้าง-ดอ-ชะ-ดา-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อี ชฎามังสี เขียนว่า ชอ-ช้าง-ดอ-ชะ-ดา-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู-สอ-เสือ-สะ-หระ-อี เป็นคำนาม หมายถึง โกฐชฎามังษี. ในวงเล็บ ดู โกฐชฎามังษี, โกฐชฎามังสี โกฐชฎามังษี เขียนว่า สะ-หระ-โอ-กอ-ไก่-ถอ-ถาน-ชอ-ช้าง-ดอ-ชะ-ดา-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อี โกฐชฎามังสี เขียนว่า สะ-หระ-โอ-กอ-ไก่-ถอ-ถาน-ชอ-ช้าง-ดอ-ชะ-ดา-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู-สอ-เสือ-สะ-หระ-อี ที่ โกฐ เขียนว่า สะ-หระ-โอ-กอ-ไก่-ถอ-ถาน.ชฎามังษี, ชฎามังสี น. โกฐชฎามังษี. (ดู โกฐชฎามังษี, โกฐชฎามังสี ที่ โกฐ).
ชฎิล เขียนว่า ชอ-ช้าง-ดอ-ชะ-ดา-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง เป็นคำนาม หมายถึง ผู้มีผมมุ่นเป็นชฎา, นักพรตพวกหนึ่งที่เราเรียกว่า ฤษี. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต .ชฎิล น. ผู้มีผมมุ่นเป็นชฎา, นักพรตพวกหนึ่งที่เราเรียกว่า ฤษี. (ป., ส.).
ชด เขียนว่า ชอ-ช้าง-ดอ-เด็ก เป็นคำกริยา หมายถึง ทําให้ชุ่มชื่น, ใช้แทนที่เสียไป. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อ่อน, ช้อย, งอนอย่างงอนรถ.ชด ก. ทําให้ชุ่มชื่น, ใช้แทนที่เสียไป. ว. อ่อน, ช้อย, งอนอย่างงอนรถ.
ชดช้อย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ดอ-เด็ก-ชอ-ช้าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อ่อนช้อย เช่น กิริยาชดช้อย; มีลักษณะกิริยาท่าทางงดงาม เช่น คนชดช้อย, ช้อยชด ก็ว่า.ชดช้อย ว. อ่อนช้อย เช่น กิริยาชดช้อย; มีลักษณะกิริยาท่าทางงดงาม เช่น คนชดช้อย, ช้อยชด ก็ว่า.
ชดเชย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-เอ-ชอ-ช้าง-ยอ-ยัก เป็นคำกริยา หมายถึง ใช้แทนสิ่งที่เสียไป, เพิ่มเติม.ชดเชย ก. ใช้แทนสิ่งที่เสียไป, เพิ่มเติม.
ชดใช้ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-ไอ-ไม้-ม้วน-ชอ-ช้าง-ไม้-โท เป็นคำกริยา หมายถึง ใช้ค่าใช้จ่ายที่ทดรองจ่ายไปก่อนแล้ว, ให้ทดแทนสิ่งที่ใช้หรือเสียไป.ชดใช้ ก. ใช้ค่าใช้จ่ายที่ทดรองจ่ายไปก่อนแล้ว, ให้ทดแทนสิ่งที่ใช้หรือเสียไป.
ชทึง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อึ-งอ-งู[ชะ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำนาม หมายถึง แม่นํ้า เช่น ชลชทึงบึงบาง. (ประกาศพระราชพิธี), ใช้ว่า จทึง ฉทึง ชรทึง สทิง สทึง หรือ สรทึง ก็มี. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร สฺทิง เขียนว่า สอ-เสือ-พิน-ทุ-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อิ-งอ-งู ว่า คลอง .ชทึง [ชะ–] (กลอน) น. แม่นํ้า เช่น ชลชทึงบึงบาง. (ประกาศพระราชพิธี), ใช้ว่า จทึง ฉทึง ชรทึง สทิง สทึง หรือ สรทึง ก็มี. (ข. สฺทิง ว่า คลอง).
ชน เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง โดนแรง ๆ เช่น รถยนต์ชนต้นไม้, ชิดจนติด เช่น ตั้งตู้ชนฝา; บรรจบ เช่น ชนขวบ; ให้ต่อสู้กัน เช่น ชนโค ชนไก่. เป็นคำนาม หมายถึง เรียกไก่อูชนิดหนึ่งที่เลี้ยงไว้ชนกันว่า ไก่ชน.ชน ๑ ก. โดนแรง ๆ เช่น รถยนต์ชนต้นไม้, ชิดจนติด เช่น ตั้งตู้ชนฝา; บรรจบ เช่น ชนขวบ; ให้ต่อสู้กัน เช่น ชนโค ชนไก่. น. เรียกไก่อูชนิดหนึ่งที่เลี้ยงไว้ชนกันว่า ไก่ชน.
ชนช้าง เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-ชอ-ช้าง-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-งอ-งู เป็นคำกริยา หมายถึง ขี่ช้างรบกัน.ชนช้าง ก. ขี่ช้างรบกัน.
ชน ๒, ชน– ชน ความหมายที่ ๒ เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู ชน– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู [ชนนะ–] เป็นคำนาม หมายถึง คน (มักใช้ในภาษาหนังสือ).(ป., ส.).ชน ๒, ชน– [ชนนะ–] น. คน (มักใช้ในภาษาหนังสือ).(ป., ส.).
ชนบท เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-บอ-ไบ-ไม้-ทอ-ทะ-หาน[ชนนะบด] เป็นคำนาม หมายถึง บ้านนอก, เขตแดนที่พ้นจากเมืองหลวงออกไป. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต ชนปท เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-ปอ-ปลา-ทอ-ทะ-หาน.ชนบท [ชนนะบด] น. บ้านนอก, เขตแดนที่พ้นจากเมืองหลวงออกไป. (ป., ส. ชนปท).
ชนกลุ่มน้อย, ชนหมู่น้อย ชนกลุ่มน้อย เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-กอ-ไก่-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อุ-ไม้-เอก-มอ-ม้า-นอ-หนู-ไม้-โท-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก ชนหมู่น้อย เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-หอ-หีบ-มอ-ม้า-สะ-หระ-อู-ไม้-เอก-นอ-หนู-ไม้-โท-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก เป็นคำนาม หมายถึง ชนต่างเผ่าหรือต่างเชื้อชาติที่อยู่อาศัยรวมกันกับชนเผ่าอื่นหรือเชื้อชาติอื่นที่มีจํานวนมากกว่า.ชนกลุ่มน้อย, ชนหมู่น้อย น. ชนต่างเผ่าหรือต่างเชื้อชาติที่อยู่อาศัยรวมกันกับชนเผ่าอื่นหรือเชื้อชาติอื่นที่มีจํานวนมากกว่า.
ชนินทร์ เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง ผู้เป็นใหญ่ในหมู่ชน. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ชน เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู + อินฺทฺร เขียนว่า ออ-อ่าง-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-พิน-ทุ-ทอ-ทะ-หาน-พิน-ทุ-รอ-เรือ .ชนินทร์ น. ผู้เป็นใหญ่ในหมู่ชน. (ส. ชน + อินฺทฺร).
ชนก, ชนก– ชนก เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-กอ-ไก่ ชนก– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-กอ-ไก่ [ชะนก, ชะนะกะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ชายผู้ให้เกิด, พ่อ. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต .ชนก, ชนก– [ชะนก, ชะนะกะ–] น. ชายผู้ให้เกิด, พ่อ. (ป., ส.).
ชนกกรรม เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-กอ-ไก่-กอ-ไก่-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า[ชะนะกะกํา] เป็นคำนาม หมายถึง กรรมอันนําให้เกิดหรือกรรมอันเป็นต้นเค้าทั้งข้างดีหรือข้างชั่ว เช่น กรรมอันทําให้เกิดเป็นคนชั้นสูง เป็นชนกกรรมฝ่ายกุศล. ในวงเล็บ มาจาก อรรถศาสน์ พระนิพนธ์ ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส พิมพ์ครั้งที่ ๓ พ.ศ. ๒๔๕๙.ชนกกรรม [ชะนะกะกํา] น. กรรมอันนําให้เกิดหรือกรรมอันเป็นต้นเค้าทั้งข้างดีหรือข้างชั่ว เช่น กรรมอันทําให้เกิดเป็นคนชั้นสูง เป็นชนกกรรมฝ่ายกุศล. (อรรถศาสน์).
ชนนี เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-นอ-หนู-สะ-หระ-อี[ชนนะนี] เป็นคำนาม หมายถึง หญิงผู้ให้เกิด, แม่. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต .ชนนี [ชนนะนี] น. หญิงผู้ให้เกิด, แม่. (ป., ส.).
ชนม–, ชนม์ ชนม– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-มอ-ม้า ชนม์ เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-มอ-ม้า-ทัน-ทะ-คาด [ชนมะ–, ชน] เป็นคำนาม หมายถึง การเกิด. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ชนฺมนฺ เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-พิน-ทุ-มอ-ม้า-นอ-หนู-พิน-ทุ.ชนม–, ชนม์ [ชนมะ–, ชน] น. การเกิด. (ส. ชนฺมนฺ).
ชนมพรรษา เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-มอ-ม้า-พอ-พาน-รอ-เรือ-รอ-เรือ-สอ-รือ-สี-สะ-หระ-อา[ชนมะพันสา] เป็นคำนาม หมายถึง อายุ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ชนฺมวรฺษ เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-พิน-ทุ-มอ-ม้า-วอ-แหวน-รอ-เรือ-พิน-ทุ-สอ-รือ-สี ว่า ขวบปีที่เกิดมา .ชนมพรรษา [ชนมะพันสา] น. อายุ. (ส. ชนฺมวรฺษ ว่า ขวบปีที่เกิดมา).
ชนมาพิธี, ชนมายุพิธี ชนมาพิธี เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-มอ-ม้า-สะ-หระ-อา-พอ-พาน-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทง-สะ-หระ-อี ชนมายุพิธี เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-มอ-ม้า-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อุ-พอ-พาน-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทง-สะ-หระ-อี [ชนนะ–] เป็นคำนาม หมายถึง อายุ, อายุขัย, กําหนดอายุ, เช่น ครั้นว่าจะสิ้นชนมาพิธีแล้วก็เสด็จเข้าสู่นฤพานแล. ในวงเล็บ มาจาก หนังสือไตรภูมิพระร่วง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ ร.ศ. ๑๓๑, ก็อยู่จนสิ้นชนมายุพิธี ในธรณีดลน้นน. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์ทศพร. (พิธี ว่า กําหนด).ชนมาพิธี, ชนมายุพิธี [ชนนะ–] น. อายุ, อายุขัย, กําหนดอายุ, เช่น ครั้นว่าจะสิ้นชนมาพิธีแล้วก็เสด็จเข้าสู่นฤพานแล. (ไตรภูมิ), ก็อยู่จนสิ้นชนมายุพิธี ในธรณีดลน้นน. (ม. คำหลวง ทศพร). (พิธี ว่า กําหนด).
ชนมาพิธี, ชนมายุพิธี ชนมาพิธี เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-มอ-ม้า-สะ-หระ-อา-พอ-พาน-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทง-สะ-หระ-อี ชนมายุพิธี เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-มอ-ม้า-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อุ-พอ-พาน-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทง-สะ-หระ-อี ดู ชนม–, ชนม์ ชนม– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-มอ-ม้า ชนม์ เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-มอ-ม้า-ทัน-ทะ-คาด .ชนมาพิธี, ชนมายุพิธี ดู ชนม–, ชนม์.
ชนวน เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-วอ-แหวน-นอ-หนู ความหมายที่ [ชะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อหินชนิดหนึ่งเป็นแผ่นบาง ๆ ซ้อนติดกัน เนื้อแน่นและละเอียด มีสีต่าง ๆ กัน ตั้งแต่สีเทาไปจนถึงสีเทาแก่ และสีดำ สีน้ำเงิน ที่มีสีแดง สีเขียว สีม่วง ก็มี; เรียกกระดานเขียนหนังสือทําด้วยไม้ทาสมุกบ้าง ด้วยแผ่นหินชนวนบ้าง ว่า กระดานชนวน; ดินปืนที่ใช้จุดให้ไฟลุกแล่นเข้าไปติดดินระเบิด, ถ้ามีกระดาษห่อดินปืนม้วนเป็นเส้น เรียกว่า สายชนวน; เรียกเทียนที่จุดไว้เพื่อใช้จุดต่อว่า เทียนชนวน; โดยปริยายหมายความว่า ต้นเหตุให้เกิดเรื่องอื่นขึ้นต่อไป เช่น ชนวนสงคราม.ชนวน ๑ [ชะ–] น. ชื่อหินชนิดหนึ่งเป็นแผ่นบาง ๆ ซ้อนติดกัน เนื้อแน่นและละเอียด มีสีต่าง ๆ กัน ตั้งแต่สีเทาไปจนถึงสีเทาแก่ และสีดำ สีน้ำเงิน ที่มีสีแดง สีเขียว สีม่วง ก็มี; เรียกกระดานเขียนหนังสือทําด้วยไม้ทาสมุกบ้าง ด้วยแผ่นหินชนวนบ้าง ว่า กระดานชนวน; ดินปืนที่ใช้จุดให้ไฟลุกแล่นเข้าไปติดดินระเบิด, ถ้ามีกระดาษห่อดินปืนม้วนเป็นเส้น เรียกว่า สายชนวน; เรียกเทียนที่จุดไว้เพื่อใช้จุดต่อว่า เทียนชนวน; โดยปริยายหมายความว่า ต้นเหตุให้เกิดเรื่องอื่นขึ้นต่อไป เช่น ชนวนสงคราม.
ชนวน เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-วอ-แหวน-นอ-หนู ความหมายที่ [ชะ–]ดู ฉนวน เขียนว่า ฉอ-ฉิ่ง-นอ-หนู-วอ-แหวน-นอ-หนู ความหมายที่ ๔.ชนวน ๒ [ชะ–] ดู ฉนวน ๔.
ชนะ เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-สะ-หระ-อะ ความหมายที่ [ชะ–] เป็นคำกริยา หมายถึง ทําให้อีกฝ่ายหนึ่งพ่ายแพ้.ชนะ ๑ [ชะ–] ก. ทําให้อีกฝ่ายหนึ่งพ่ายแพ้.
ชนะ เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-สะ-หระ-อะ ความหมายที่ [ชะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อกลองชนิดหนึ่ง รูปเหมือนกลองแขก ใช้ตีด้วยไม้ ใช้เฉพาะในงานหลวง.ชนะ ๒ [ชะ–] น. ชื่อกลองชนิดหนึ่ง รูปเหมือนกลองแขก ใช้ตีด้วยไม้ ใช้เฉพาะในงานหลวง.
ชนัก เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่[ชะ–] เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องแทงสัตว์ชนิดหนึ่ง ทําด้วยเหล็กปลายเป็นรูปลูกศร มีด้ามยาว มีเชือกชักเมื่อเวลาพุ่งไปถูกสัตว์; เครื่องผูกคอช้างทําด้วยเชือกเป็นปมหรือห่วงห้อยพาดลงมา เพื่อให้คนที่ขี่คอใช้หัวแม่เท้าคีบกันตก. ในวงเล็บ รูปภาพ ชนัก.ชนัก [ชะ–] น. เครื่องแทงสัตว์ชนิดหนึ่ง ทําด้วยเหล็กปลายเป็นรูปลูกศร มีด้ามยาว มีเชือกชักเมื่อเวลาพุ่งไปถูกสัตว์; เครื่องผูกคอช้างทําด้วยเชือกเป็นปมหรือห่วงห้อยพาดลงมา เพื่อให้คนที่ขี่คอใช้หัวแม่เท้าคีบกันตก. (รูปภาพ ชนัก).
ชนักติดหลัง เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ-ดอ-เด็ก-หอ-หีบ-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นสำนวน เป็นคำนาม หมายถึง ความชั่วหรือความผิดที่ยังติดตัวอยู่.ชนักติดหลัง (สำ) น. ความชั่วหรือความผิดที่ยังติดตัวอยู่.
ชนา เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-สะ-หระ-อา[ชะ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำนาม หมายถึง ชน เช่น เอาลวดถักคั่นกันชนา. ในวงเล็บ มาจาก นิราศเกาะแก้วกัลกตา.ชนา [ชะ–] (กลอน) น. ชน เช่น เอาลวดถักคั่นกันชนา. (นิ. เกาะแก้วกัลกตา).
ชนาง เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-สะ-หระ-อา-งอ-งู[ชะ–] เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องดักปลาและสัตว์ป่า เช่น บ้างวงข่ายรายรอบปากชนาง. ในวงเล็บ มาจาก ไชยเชฐ บทละครนอก พระราชนิพนธ์ ในรัชกาลที่ ๒ รวม ๖ เรื่อง ฉบับ หอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๕ ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร .ชนาง [ชะ–] น. เครื่องดักปลาและสัตว์ป่า เช่น บ้างวงข่ายรายรอบปากชนาง. (ไชยเชฐ). (ข.).
ชนิด เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-สะ-หระ-อิ-ดอ-เด็ก[ชะ–] เป็นคำนาม หมายถึง อย่าง เช่น มี ๒ ชนิด, จําพวก เช่น คนชนิดนี้.ชนิด [ชะ–] น. อย่าง เช่น มี ๒ ชนิด, จําพวก เช่น คนชนิดนี้.
ชนินทร์ เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาดดู ชน ๒, ชน– ชน ความหมายที่ ๒ เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู ชน– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-นอ-หนู .ชนินทร์ ดู ชน ๒, ชน–.
ชเนตตี เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-เอ-นอ-หนู-ตอ-เต่า-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อี[ชะเนดตี] เป็นคำนาม หมายถึง แม่ เช่น ชเนตตีสมะนามกร. (ฉันท์วรรณพฤติ). (ป.; เป็นคำสรรพนาม หมายถึง ชนยิตฺรี).ชเนตตี [ชะเนดตี] น. แม่ เช่น ชเนตตีสมะนามกร. (ฉันท์วรรณพฤติ). (ป.; ส. ชนยิตฺรี).
ชบา เขียนว่า ชอ-ช้าง-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-อา[ชะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้พุ่มชนิด Hibiscus rosasinensis L. ในวงศ์ Malvaceae ดอกมีสีต่าง ๆ พันธุ์ที่สีแดงดอกและยอดใช้ทํายาได้.ชบา [ชะ–] น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Hibiscus rosasinensis L. ในวงศ์ Malvaceae ดอกมีสีต่าง ๆ พันธุ์ที่สีแดงดอกและยอดใช้ทํายาได้.
ชบาหนู เขียนว่า ชอ-ช้าง-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-อา-หอ-หีบ-นอ-หนู-สะ-หระ-อู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้พุ่ม ๒ ชนิด ในสกุล Malvaviscus วงศ์ Malvaceae ลักษณะคล้ายดอกชบาแต่ดอกเล็กกว่าและไม่บาน ชนิด M. arboreus Cav. ดอกตั้ง ชนิด M. penduliflorus DC. ดอกห้อยลง.ชบาหนู น. ชื่อไม้พุ่ม ๒ ชนิด ในสกุล Malvaviscus วงศ์ Malvaceae ลักษณะคล้ายดอกชบาแต่ดอกเล็กกว่าและไม่บาน ชนิด M. arboreus Cav. ดอกตั้ง ชนิด M. penduliflorus DC. ดอกห้อยลง.
ชปโยค เขียนว่า ชอ-ช้าง-ปอ-ปลา-สะ-หระ-โอ-ยอ-ยัก-คอ-ควาย[ชะปะโยก] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง มนตร์กระซิบ เช่น สมมุขบ่ายบูชา ชปโยค. ในวงเล็บ มาจาก โคลงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์ พระศรีมโหสถ แต่ง ฉบับราชบัณฑิตยสภา พ.ศ. ๒๔๖๘ ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ชปฺ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ปอ-ปลา-พิน-ทุ + โยค เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ยอ-ยัก-คอ-ควาย .ชปโยค [ชะปะโยก] (แบบ) น. มนตร์กระซิบ เช่น สมมุขบ่ายบูชา ชปโยค. (เฉลิมพระเกียรติพระนารายณ์). (ส. ชปฺ + โยค).
ชม เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง สรรเสริญ, ยกย่อง; ดู (ใช้ในที่สุภาพ) เช่น เชิญชมของในร้าน, ดูเพื่อให้เกิดความเพลิดเพลินใจหรือชื่นใจ เช่น ชมสวน ชมนกชมไม้.ชม ๑ ก. สรรเสริญ, ยกย่อง; ดู (ใช้ในที่สุภาพ) เช่น เชิญชมของในร้าน, ดูเพื่อให้เกิดความเพลิดเพลินใจหรือชื่นใจ เช่น ชมสวน ชมนกชมไม้.
ชมชัว เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-วอ-แหวน เป็นคำกริยา หมายถึง ชื่นชม, รื่นรมย์, เช่น สองฟากนํ้าพลชมชัว. ในวงเล็บ มาจาก สมุทรโฆษคำฉันท์ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๘, ชัวชม ก็ว่า.ชมชัว ก. ชื่นชม, รื่นรมย์, เช่น สองฟากนํ้าพลชมชัว. (สมุทรโฆษ), ชัวชม ก็ว่า.
ชมชาญ เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อา-ยอ-หยิง เป็นคำกริยา หมายถึง เหิม, รื่นเริง, เช่น เสียงโห่เอาชัยชมชาญ. ในวงเล็บ มาจาก สมุทรโฆษคำฉันท์ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๘.ชมชาญ ก. เหิม, รื่นเริง, เช่น เสียงโห่เอาชัยชมชาญ. (สมุทรโฆษ).
ชมเชย เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-สะ-หระ-เอ-ชอ-ช้าง-ยอ-ยัก เป็นคำกริยา หมายถึง ยกย่อง, สรรเสริญ; แสดงกิริยาเสน่หา.ชมเชย ก. ยกย่อง, สรรเสริญ; แสดงกิริยาเสน่หา.
ชมไช เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-ชอ-ช้าง ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ชื่นชมยินดี, รื่นเริง, เช่น พนคณนกหคชมไช. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์มหาพน.ชมไช (กลอน) ก. ชื่นชมยินดี, รื่นเริง, เช่น พนคณนกหคชมไช. (ม. คำหลวง มหาพน).
ชมเปาะ เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-สะ-หระ-เอ-ปอ-ปลา-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ เป็นคำกริยา หมายถึง ชมไม่ขาดปาก, ชมด้วยความจริงใจ.ชมเปาะ ก. ชมไม่ขาดปาก, ชมด้วยความจริงใจ.
ชม เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเพลงไทยจําพวกหนึ่ง มีชื่อขึ้นต้นด้วยคําว่า ชม เช่น ชมดง ชมตลาด.ชม ๒ น. ชื่อเพลงไทยจําพวกหนึ่ง มีชื่อขึ้นต้นด้วยคําว่า ชม เช่น ชมดง ชมตลาด.
ชมดชม้อย เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-ดอ-เด็ก-ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-ไม้-โท-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก[ชะมดชะม้อย] เป็นคำกริยา หมายถึง อายเหนียมอย่างชดช้อย.ชมดชม้อย [ชะมดชะม้อย] ก. อายเหนียมอย่างชดช้อย.
ชมนาด เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-นอ-หนู-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก[ชมมะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้เถาชนิด Vallaris glabra Kuntze ในวงศ์ Apocynaceae ดอกสีขาวเป็นช่อ กลิ่นเหมือนข้าวใหม่, ดอกข้าวใหม่ ก็เรียก, เขียนเป็น ชํามะนาด ก็มี.ชมนาด [ชมมะ–] น. ชื่อไม้เถาชนิด Vallaris glabra Kuntze ในวงศ์ Apocynaceae ดอกสีขาวเป็นช่อ กลิ่นเหมือนข้าวใหม่, ดอกข้าวใหม่ ก็เรียก, เขียนเป็น ชํามะนาด ก็มี.
ชมบ เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-บอ-ไบ-ไม้[ชะมบ] เป็นคำนาม หมายถึง ผีผู้หญิงที่ตายในป่าและสิงอยู่ในบริเวณที่ตาย มีรูปเห็นเป็นเงา ๆ แต่ไม่ทําอันตรายใคร, ฉมบ หรือ ทมบ ก็ว่า.ชมบ [ชะมบ] น. ผีผู้หญิงที่ตายในป่าและสิงอยู่ในบริเวณที่ตาย มีรูปเห็นเป็นเงา ๆ แต่ไม่ทําอันตรายใคร, ฉมบ หรือ ทมบ ก็ว่า.
ชมพู เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-พอ-พาน-สะ-หระ-อู ความหมายที่ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง ไม้หว้า. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต ชมฺพุ เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-พิน-ทุ-พอ-พาน-สะ-หระ-อุ.ชมพู ๑ (แบบ) น. ไม้หว้า. (ป., ส. ชมฺพุ).
ชมพูทวีป เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-พอ-พาน-สะ-หระ-อู-ทอ-ทะ-หาน-วอ-แหวน-สะ-หระ-อี-ปอ-ปลา ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง ดินแดนที่เป็นประเทศอินเดีย ปากีสถาน เนปาล และบังกลาเทศในปัจจุบัน; ทวีปใหญ่อยู่ทางทิศใต้ของเขาพระสุเมรุ เป็นทวีป ๑ ใน ๔ ทวีป ได้แก่ อุตรกุรุทวีปหรืออุตรกุรูทวีป บุพวิเทหทวีป ชมพูทวีป และอมรโคยานทวีป.ชมพูทวีป (แบบ) น. ดินแดนที่เป็นประเทศอินเดีย ปากีสถาน เนปาล และบังกลาเทศในปัจจุบัน; ทวีปใหญ่อยู่ทางทิศใต้ของเขาพระสุเมรุ เป็นทวีป ๑ ใน ๔ ทวีป ได้แก่ อุตรกุรุทวีปหรืออุตรกุรูทวีป บุพวิเทหทวีป ชมพูทวีป และอมรโคยานทวีป.
ชมพูนท, ชมพูนุท ชมพูนท เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-พอ-พาน-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน ชมพูนุท เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-พอ-พาน-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-สะ-หระ-อุ-ทอ-ทะ-หาน เป็นคำนาม หมายถึง ทองคําเนื้อบริสุทธิ์ (ในคัมภีร์ไตรภูมิกล่าวว่าเกิดใต้ต้นหว้า), ใช้ว่า ชามพูนท ก็มี. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ชามฺพูนท เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-พิน-ทุ-พอ-พาน-สะ-หระ-อู-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน ว่า เกิดในแม่นํ้าชมพูนที .ชมพูนท, ชมพูนุท น. ทองคําเนื้อบริสุทธิ์ (ในคัมภีร์ไตรภูมิกล่าวว่าเกิดใต้ต้นหว้า), ใช้ว่า ชามพูนท ก็มี. (ส. ชามฺพูนท ว่า เกิดในแม่นํ้าชมพูนที).
ชมพู เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-พอ-พาน-สะ-หระ-อู ความหมายที่ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สีแดงอ่อน, สีแดงเจือขาว.ชมพู ๒ ว. สีแดงอ่อน, สีแดงเจือขาว.
ชมพู่ เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-พอ-พาน-สะ-หระ-อู-ไม้-เอก เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้ต้นขนาดกลางหลายชนิดในสกุล Syzygium วงศ์ Myrtaceae ผลกินได้ เช่น ชมพู่แก้มแหม่ม [S. samarangense (Blume) Merr. et L.M. Perry] ชมพู่นํ้าดอกไม้ [S. jambos (L.) Alston] ชมพู่สาแหรก [S. malaccensis (L.) Merr. et L.M. Perry].ชมพู่ น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางหลายชนิดในสกุล Syzygium วงศ์ Myrtaceae ผลกินได้ เช่น ชมพู่แก้มแหม่ม [S. samarangense (Blume) Merr. et L.M. Perry] ชมพู่นํ้าดอกไม้ [S. jambos (L.) Alston] ชมพู่สาแหรก [S. malaccensis (L.) Merr. et L.M. Perry].
ชมพูพาดบ่า เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-พอ-พาน-สะ-หระ-อู-พอ-พาน-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก-บอ-ไบ-ไม้-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง ท่ารําชนิดหนึ่งแห่งควาญช้าง รําเมื่อนําช้างบํารูงาเสร็จครั้งแรกแล้ว.ชมพูพาดบ่า น. ท่ารําชนิดหนึ่งแห่งควาญช้าง รําเมื่อนําช้างบํารูงาเสร็จครั้งแรกแล้ว.
ชมรม เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-รอ-เรือ-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง ที่พักชั่วคราวของกลุ่มบุคคล; ที่ประชุมของกลุ่มบุคคลที่มีจุดประสงค์เพื่อประโยชน์บางประการร่วมกัน เช่น ชมรมนักวรรณศิลป์ ชมรมพุทธศาสตร์, โชมโรม ก็ว่า.ชมรม น. ที่พักชั่วคราวของกลุ่มบุคคล; ที่ประชุมของกลุ่มบุคคลที่มีจุดประสงค์เพื่อประโยชน์บางประการร่วมกัน เช่น ชมรมนักวรรณศิลป์ ชมรมพุทธศาสตร์, โชมโรม ก็ว่า.
ชมเลาะ เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-สะ-หระ-เอ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ เป็นคำกริยา หมายถึง ทะเลาะ เช่น ความชมเลาะกันก็จแรก. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์วนปเวสน์ ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร เฌฺลาะ เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ชอ-เชอ-พิน-ทุ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ ว่า ทะเลาะ .ชมเลาะ (โบ) ก. ทะเลาะ เช่น ความชมเลาะกันก็จแรก. (ม. คำหลวง วนปเวสน์). (ข. เฌฺลาะ ว่า ทะเลาะ).
ชมสวนสวรรค์ เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-สอ-เสือ-วอ-แหวน-นอ-หนู-สอ-เสือ-วอ-แหวน-รอ-เรือ-รอ-เรือ-คอ-ควาย-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.ชมสวนสวรรค์ น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.
ชม้อย เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-ไม้-โท-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก[ชะ–] เป็นคำกริยา หมายถึง ช้อนตาลอบชําเลืองดูด้วยความสนใจ.ชม้อย [ชะ–] ก. ช้อนตาลอบชําเลืองดูด้วยความสนใจ.
ชมัน เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู[ชะ–]ดู กระโดงแดง เขียนว่า กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-โอ-ดอ-เด็ก-งอ-งู-สะ-หระ-แอ-ดอ-เด็ก-งอ-งู (๑).ชมัน [ชะ–] ดู กระโดงแดง (๑).
ชมา เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-สะ-หระ-อา[ชะ–] เป็นคำนาม หมายถึง แมว. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร .ชมา [ชะ–] น. แมว. (ข.).
ชม้าย เขียนว่า ชอ-ช้าง-มอ-ม้า-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก[ชะ–] เป็นคำกริยา หมายถึง ชายหางตาดูด้วยความสนใจ.ชม้าย [ชะ–] ก. ชายหางตาดูด้วยความสนใจ.
ชไม เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-มอ-ม้า[ชะ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ทั้งคู่, ทั้ง ๒. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร .ชไม [ชะ–] ว. ทั้งคู่, ทั้ง ๒. (ข.).
ชย, ชย– ชย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ยอ-ยัก ชย– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ยอ-ยัก [ชะยะ] เป็นคำนาม หมายถึง การชนะ. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต . ในวงเล็บ ดู ชัย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยัก.ชย, ชย– [ชะยะ] น. การชนะ. (ป., ส.). (ดู ชัย).
ชยา เขียนว่า ชอ-ช้าง-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา[ชะ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง สายธนู. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี ชิยา เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อิ-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา และมาจากภาษาสันสกฤต ชฺยา เขียนว่า ชอ-ช้าง-พิน-ทุ-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อา.ชยา [ชะ–] (แบบ) น. สายธนู. (ป. ชิยา; ส. ชฺยา).
ชโย เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-โอ-ยอ-ยัก[ชะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ความชนะ. (คําเดียวกับ ชัย). เป็นคำอุทาน หมายถึง คําที่เปล่งเสียงอวยชัยให้พรหรือแสดงความดีใจเมื่อได้รับชัยชนะเป็นต้น.ชโย [ชะ–] น. ความชนะ. (คําเดียวกับ ชัย). อ. คําที่เปล่งเสียงอวยชัยให้พรหรือแสดงความดีใจเมื่อได้รับชัยชนะเป็นต้น.
ชร เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ ความหมายที่ [ชอน] เป็นคำนาม หมายถึง ลวดลาย, ลายประกอบริม, ระบาย, เช่น ขนนเขนยชร. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร .ชร ๑ [ชอน] น. ลวดลาย, ลายประกอบริม, ระบาย, เช่น ขนนเขนยชร. (ข.).
ชร เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ ความหมายที่ [ชอน] เป็นคำนาม หมายถึง น้ำ เช่น ชรเซาะเขาเราตกแต่ง. ในวงเล็บ มาจาก หนังสือคำฤษดี สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส สมเด็จกรมพระเดชาดิศร และ กรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์ ช่วยกันทรงนิพนธ์ ฉบับโรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ ร.ศ. ๑๒๔, ชรธารา. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์วนปเวสน์.ชร ๒ [ชอน] น. น้ำ เช่น ชรเซาะเขาเราตกแต่ง. (คําฤษดี), ชรธารา. (ม. คำหลวง วนปเวสน์).
ชร– เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ ความหมายที่ [ชฺระ–]เป็นพยางค์หน้าของคําที่ตั้งต้นด้วยตัว ช ในบทกลอน เช่น ชทึง เป็น ชรทึง.ชร– ๓ [ชฺระ–] เป็นพยางค์หน้าของคําที่ตั้งต้นด้วยตัว ช ในบทกลอน เช่น ชทึง เป็น ชรทึง.
ชรงำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-งอ-งู-สะ-หระ-อำ[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง คลุ้ม, มืด, งำ, เช่น เปนไพรชัฏชรงำผลู. ในวงเล็บ มาจาก สมุทรโฆษคำฉันท์ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๘.ชรงำ [ชฺระ–] (กลอน) ว. คลุ้ม, มืด, งำ, เช่น เปนไพรชัฏชรงำผลู. (สมุทรโฆษ).
ชรทึง เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อึ-งอ-งู[ชฺระ–] เป็นคำนาม หมายถึง แม่นํ้า, ใช้ว่า จทึง ฉทึง ชทึง สทิง สทึง หรือ สรทึง ก็มี. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร สฺทึง เขียนว่า สอ-เสือ-พิน-ทุ-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อึ-งอ-งู ว่า คลอง .ชรทึง [ชฺระ–] น. แม่นํ้า, ใช้ว่า จทึง ฉทึง ชทึง สทิง สทึง หรือ สรทึง ก็มี. (ข. สฺทึง ว่า คลอง).
ชรโมล เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-โอ-มอ-ม้า-ลอ-ลิง[ชฺระโมน] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำนาม หมายถึง ทโมน, ลิงตัวผู้ขนาดใหญ่, เช่น มีชระมดชรโมลตาม. ในวงเล็บ มาจาก สมุทรโฆษคำฉันท์ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๘ ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร โฌฺมล เขียนว่า สะ-หระ-โอ-ชอ-เชอ-พิน-ทุ-มอ-ม้า-ลอ-ลิง ว่า สัตว์ตัวผู้ .ชรโมล [ชฺระโมน] (กลอน) น. ทโมน, ลิงตัวผู้ขนาดใหญ่, เช่น มีชระมดชรโมลตาม. (สมุทรโฆษ). (ข. โฌฺมล ว่า สัตว์ตัวผู้).
ชรไม เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-มอ-ม้า[ชฺระ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ชไม, ทั้งคู่.ชรไม [ชฺระ–] ว. ชไม, ทั้งคู่.
ชรราง เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-งอ-งู[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ราง ๆ เช่น แฝงข่าวยินเยียชรราง. ในวงเล็บ มาจาก ประกาศแช่งน้ำโคลงห้า.ชรราง [ชฺระ–] (กลอน) ก. ราง ๆ เช่น แฝงข่าวยินเยียชรราง. (แช่งนํ้า).
ชรริน เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ประดับ เช่น ชรรินชรเรือดแฝง มณิเพ็ญดูเพรี้ยมพราย. ในวงเล็บ มาจาก สมุทรโฆษคำฉันท์ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๘.ชรริน [ชฺระ–] (กลอน) ก. ประดับ เช่น ชรรินชรเรือดแฝง มณิเพ็ญดูเพรี้ยมพราย. (สมุทรโฆษ).
ชรเรือด เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-เอ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อือ-ออ-อ่าง-ดอ-เด็ก[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง แทรก เช่น ชรรินชรเรือดแฝง มณิเพ็ญดูเพรี้ยมพราย. ในวงเล็บ มาจาก สมุทรโฆษคำฉันท์ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๘ ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร เชฺรียต เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ชอ-ช้าง-พิน-ทุ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-ตอ-เต่า เชียต เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-ตอ-เต่า .ชรเรือด [ชฺระ–] (กลอน) ก. แทรก เช่น ชรรินชรเรือดแฝง มณิเพ็ญดูเพรี้ยมพราย. (สมุทรโฆษ). (ข. เชฺรียต, เชียต).
ชรแรง เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-แอ-รอ-เรือ-งอ-งู[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง แรง ๆ, ขลัง, เช่น เยียชรแรง. ในวงเล็บ มาจาก ประกาศแช่งน้ำโคลงห้า.ชรแรง [ชฺระ–] (กลอน) ว. แรง ๆ, ขลัง, เช่น เยียชรแรง. (แช่งนํ้า).
ชรแร่ง เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-แอ-รอ-เรือ-ไม้-เอก-งอ-งู[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง แบ่ง, แยก, เช่น ฟ้าชรแร่งหกคลอง ช่วยดู. ในวงเล็บ มาจาก ประกาศแช่งน้ำโคลงห้า.ชรแร่ง [ชฺระ–] (กลอน) ก. แบ่ง, แยก, เช่น ฟ้าชรแร่งหกคลอง ช่วยดู. (แช่งนํ้า).
ชรโลง เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-โอ-ลอ-ลิง-งอ-งู[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ชโลง, จูง, พยุง, โยง.ชรโลง [ชฺระ–] (กลอน) ก. ชโลง, จูง, พยุง, โยง.
ชรอกชรัง เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-ออ-อ่าง-กอ-ไก่-ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู[ชฺรอกชฺรัง] เป็นคำกริยา หมายถึง ซอกซอน, ซอกแซก.ชรอกชรัง [ชฺรอกชฺรัง] ก. ซอกซอน, ซอกแซก.
ชรออบ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-ออ-อ่าง-ออ-อ่าง-บอ-ไบ-ไม้[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ชอบ เช่น ธมาพักชรออบ คืนเดียวชอบชีนอน. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์กุมาร.ชรออบ [ชฺระ–] (กลอน) ก. ชอบ เช่น ธมาพักชรออบ คืนเดียวชอบชีนอน. (ม. คำหลวง กุมาร).
ชรอัด เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-ออ-อ่าง-ไม้-หัน-อา-กาด-ดอ-เด็ก[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ชัด เช่น ลางหมู่งาชรอัดชรแอ้น. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์มหาราช.ชรอัด [ชฺระ–] (กลอน) ว. ชัด เช่น ลางหมู่งาชรอัดชรแอ้น. (ม. คำหลวง มหาราช).
ชรอ่ำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-ออ-อ่าง-ไม้-เอก-สะ-หระ-อำ[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ชอํ่า, มืดมัว, มืดครึ้ม, เช่น ชรอ่ำฟ้าใต้แผ่นหงาย. (แช่งน้ำ), ฟ้าหล้าเข็ดขาม ชรอื้อชรอ่ำอับทิศ. ในวงเล็บ มาจาก สมุทรโฆษคำฉันท์ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๘.ชรอ่ำ [ชฺระ–] (กลอน) ว. ชอํ่า, มืดมัว, มืดครึ้ม, เช่น ชรอ่ำฟ้าใต้แผ่นหงาย. (แช่งน้ำ), ฟ้าหล้าเข็ดขาม ชรอื้อชรอ่ำอับทิศ. (สมุทรโฆษ).
ชรอื้อ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-ออ-อ่าง-สะ-หระ-อือ-ไม้-โท-ออ-อ่าง[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ชื้อ, ชอื้อ, มืดมัว, มืดคลุ้ม, ครึ้ม, อับแสง, เช่น ด่งงไซรชรเอมชรอื้อ อรทื้อแทบทางเดอร. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์ชูชก, ฟ้าหล้าเข็ดขาม ชรอื้อชรอ่ำอับทิศ. ในวงเล็บ มาจาก สมุทรโฆษคำฉันท์ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๘.ชรอื้อ [ชฺระ–] (กลอน) ว. ชื้อ, ชอื้อ, มืดมัว, มืดคลุ้ม, ครึ้ม, อับแสง, เช่น ด่งงไซรชรเอมชรอื้อ อรทื้อแทบทางเดอร. (ม. คำหลวง ชูชก), ฟ้าหล้าเข็ดขาม ชรอื้อชรอ่ำอับทิศ. (สมุทรโฆษ).
ชรอุ่ม เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-ออ-อ่าง-สะ-หระ-อุ-ไม้-เอก-มอ-ม้า[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ชอุ่ม, มืดคลุ้ม, มืดมัว, เช่น อากาศชรอุ่มอับ ทิศบังด้วยธุลี. (สุมทรโฆษ).ชรอุ่ม [ชฺระ–] (กลอน) ว. ชอุ่ม, มืดคลุ้ม, มืดมัว, เช่น อากาศชรอุ่มอับ ทิศบังด้วยธุลี. (สุมทรโฆษ).
ชระ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ ความหมายที่ [ชฺระ] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สะอาด, บริสุทธิ์, เช่น ให้ฉลักแสบกภาพอันชระ. ในวงเล็บ มาจาก สมุทรโฆษคำฉันท์ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๘.ชระ ๑ [ชฺระ] ว. สะอาด, บริสุทธิ์, เช่น ให้ฉลักแสบกภาพอันชระ. (สมุทรโฆษ).
ชระ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ ความหมายที่ [ชฺระ]เป็นพยางค์หน้าของคําในบทกลอน เช่น ชระงม ชระง่อน.ชระ ๒ [ชฺระ] เป็นพยางค์หน้าของคําในบทกลอน เช่น ชระงม ชระง่อน.
ชระงม เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-งอ-งู-มอ-ม้า[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำนาม หมายถึง ป่ากว้าง, ป่าใหญ่. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เปลี่ยวเปล่า, เงียบสงัด, เช่น อยู่ชระงมนั้น. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์มหาราช.ชระงม [ชฺระ–] (กลอน) น. ป่ากว้าง, ป่าใหญ่. ว. เปลี่ยวเปล่า, เงียบสงัด, เช่น อยู่ชระงมนั้น. (ม. คำหลวง มหาราช).
ชระง่อน เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-งอ-งู-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-นอ-หนู[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำนาม หมายถึง ชะง่อน, หินที่เป็นปุ่มเป็นแง่ยื่นออกมาจากเขา.ชระง่อน [ชฺระ–] (กลอน) น. ชะง่อน, หินที่เป็นปุ่มเป็นแง่ยื่นออกมาจากเขา.
ชระงำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-งอ-งู-สะ-หระ-อำ[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง คลุ้ม, มืด, งำ.ชระงำ [ชฺระ–] (กลอน) ว. คลุ้ม, มืด, งำ.
ชระดัด เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ดอ-เด็ก-ไม้-หัน-อา-กาด-ดอ-เด็ก[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ดัด.ชระดัด [ชฺระ–] (กลอน) ก. ดัด.
ชระดื่น เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อือ-ไม้-เอก-นอ-หนู[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ดื่น.ชระดื่น [ชฺระ–] (กลอน) ว. ดื่น.
ชระเดียด เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-ดอ-เด็ก[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง รายไป, เรียดไป, โบราณเขียนเป็น ชรดียด ก็มี เช่น ผลักให้ตากตนอยียด ชรดียดด้าวดิ้นดรนอนอยู่แล. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์กุมาร.ชระเดียด [ชฺระ–] (กลอน) ว. รายไป, เรียดไป, โบราณเขียนเป็น ชรดียด ก็มี เช่น ผลักให้ตากตนอยียด ชรดียดด้าวดิ้นดรนอนอยู่แล. (ม. คำหลวง กุมาร).
ชระเดียดชระดัด เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-ดอ-เด็ก-ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ดอ-เด็ก-ไม้-หัน-อา-กาด-ดอ-เด็ก ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เกลื่อนกล่น, ดาษดื่น.ชระเดียดชระดัด (กลอน) ว. เกลื่อนกล่น, ดาษดื่น.
ชระบอบ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-บอ-ไบ-ไม้-ออ-อ่าง-บอ-ไบ-ไม้[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง บอบชํ้า, เมื่อยล้า.ชระบอบ [ชฺระ–] (กลอน) ก. บอบชํ้า, เมื่อยล้า.
ชระบาบ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-อา-บอ-ไบ-ไม้[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ราบเรียบ, เสมอ.ชระบาบ [ชฺระ–] (กลอน) ว. ราบเรียบ, เสมอ.
ชระมด เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-มอ-ม้า-ดอ-เด็ก[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำนาม หมายถึง ชะมด.ชระมด [ชฺระ–] (กลอน) น. ชะมด.
ชระมัว เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-มอ-ม้า-ไม้-หัน-อา-กาด-วอ-แหวน[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ขมุกขมัว, ยังไม่สว่าง, เช้าตรู่, มืด, เช่น ชระมัวทั่วทิศเอียง อากาศ. ในวงเล็บ มาจาก นิราศนรินทร์ แบบเรียนกวีนิพนธ์.ชระมัว [ชฺระ–] (กลอน) ว. ขมุกขมัว, ยังไม่สว่าง, เช้าตรู่, มืด, เช่น ชระมัวทั่วทิศเอียง อากาศ. (นิ. นรินทร์).
ชระมื่น เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-มอ-ม้า-สะ-หระ-อือ-ไม้-เอก-นอ-หนู[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ทะมื่น เช่น ผีพรายชระมื่น ดําช่วยดู. ในวงเล็บ มาจาก ประกาศแช่งน้ำโคลงห้า.ชระมื่น [ชฺระ–] (กลอน) ว. ทะมื่น เช่น ผีพรายชระมื่น ดําช่วยดู. (แช่งนํ้า).
ชระมุกชระมอม เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-มอ-ม้า-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-มอ-ม้า-ออ-อ่าง-มอ-ม้า[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ขะมุกขะมอม.ชระมุกชระมอม [ชฺระ–] (กลอน) ว. ขะมุกขะมอม.
ชระมุ่น เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-มอ-ม้า-สะ-หระ-อุ-ไม้-เอก-นอ-หนู[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มุ่น, นุ่ม, เช่น ลานโลมวิไลแถงชระมุ่น อกเอย. ในวงเล็บ มาจาก นิราศนรินทร์ แบบเรียนกวีนิพนธ์.ชระมุ่น [ชฺระ–] (กลอน) ว. มุ่น, นุ่ม, เช่น ลานโลมวิไลแถงชระมุ่น อกเอย. (นิ. นรินทร์).
ชระเมียง เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-มอ-ม้า-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-งอ-งู[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง เมียง, มองดู.ชระเมียง [ชฺระ–] (กลอน) ก. เมียง, มองดู.
ชระเมียน เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-มอ-ม้า-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-นอ-หนู[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ชม, ดู.ชระเมียน [ชฺระ–] (กลอน) ก. ชม, ดู.
ชระลอ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-ออ-อ่าง[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ชะลอ, พยุงให้เคลื่อนไป, ประคองไว้.ชระลอ [ชฺระ–] (กลอน) ก. ชะลอ, พยุงให้เคลื่อนไป, ประคองไว้.
ชระลอง, ชระล่อง ชระลอง เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-ออ-อ่าง-งอ-งู ชระล่อง เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-งอ-งู [ชฺระ–] เป็นคำนาม หมายถึง ทางล่อง, ซอกเขา, ลําธาร, เช่น ผู้ชระลองล่วงห้วงมหรรณพ. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ ทานกัณฑ์.ชระลอง, ชระล่อง [ชฺระ–] น. ทางล่อง, ซอกเขา, ลําธาร, เช่น ผู้ชระลองล่วงห้วงมหรรณพ. (ม. คำหลวง ทานกัณฑ์).
ชระลั่ง เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-ไม้-เอก-งอ-งู[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ทะลึ่งทะลั่ง เช่น จงสองเจ้าอย่าได้ทะลิ่นชระลั่งคอยนั่งเฝ้าพระบาท. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์กุมาร.ชระลั่ง [ชฺระ–] (กลอน) ก. ทะลึ่งทะลั่ง เช่น จงสองเจ้าอย่าได้ทะลิ่นชระลั่งคอยนั่งเฝ้าพระบาท. (ม. คำหลวง กุมาร).
ชระลัด เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-ดอ-เด็ก[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำนาม หมายถึง ทางลัดไปได้.ชระลัด [ชฺระ–] (กลอน) น. ทางลัดไปได้.
ชระล้ำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-ไม้-โท-สะ-หระ-อำ[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ลํ้า. ในวงเล็บ มาจาก คำฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้างของเก่า ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๗.ชระล้ำ [ชฺระ–] (กลอน) ก. ลํ้า. (ดุษฎีสังเวย).
ชระลุ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อุ[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ปรุ, สลัก, ฉลุ.ชระลุ [ชฺระ–] (กลอน) ก. ปรุ, สลัก, ฉลุ.
ชระแลง เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-แอ-ลอ-ลิง-งอ-งู[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำนาม หมายถึง ชะแลง.ชระแลง [ชฺระ–] (กลอน) น. ชะแลง.
ชระอับ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ออ-อ่าง-ไม้-หัน-อา-กาด-บอ-ไบ-ไม้[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อับ, มืดมัว, มืดคลุ้ม.ชระอับ [ชฺระ–] (กลอน) ว. อับ, มืดมัว, มืดคลุ้ม.
ชระอาบ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ออ-อ่าง-สะ-หระ-อา-บอ-ไบ-ไม้[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง อาบ, ชโลม, ทา, ทําให้ซึมซาบ.ชระอาบ [ชฺระ–] (กลอน) ก. อาบ, ชโลม, ทา, ทําให้ซึมซาบ.
ชระเอม เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-ออ-อ่าง-มอ-ม้า[ชฺระ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ร่มเย็น เช่น ดั่งฤๅดั่งไทรชระเอมชรอื้อ. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์ชูชก.ชระเอม [ชฺระ–] (กลอน) ว. ร่มเย็น เช่น ดั่งฤๅดั่งไทรชระเอมชรอื้อ. (ม. คำหลวง ชูชก).
ชรัด เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-ดอ-เด็ก[ชฺรัด] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ซัด เช่น หมู่หนึ่งชรัดด้วยทองแดง. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์มหาราช.ชรัด [ชฺรัด] (กลอน) ก. ซัด เช่น หมู่หนึ่งชรัดด้วยทองแดง. (ม. คำหลวง มหาราช).
ชรัว เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-วอ-แหวน[ชฺรัว] เป็นคำนาม หมายถึง ซอกเขา, หุบเขา.ชรัว [ชฺรัว] น. ซอกเขา, หุบเขา.
ชรา เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา[ชะ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง แก่ด้วยอายุ, ชํารุดทรุดโทรม. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต .ชรา [ชะ–] ว. แก่ด้วยอายุ, ชํารุดทรุดโทรม. (ป., ส.).
ชราธรรม เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-ทอ-ทง-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีชราเป็นธรรมดา, มีความแก่ความชํารุดทรุดโทรมเป็นธรรมดา.ชราธรรม ว. มีชราเป็นธรรมดา, มีความแก่ความชํารุดทรุดโทรมเป็นธรรมดา.
ชราภาพ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-พอ-สำ-เพา-สะ-หระ-อา-พอ-พาน เป็นคำนาม หมายถึง ความแก่ด้วยอายุ, ความชํารุดทรุดโทรม, เช่น อันทุพพลชรา ภาพแล้ว. ในวงเล็บ มาจาก แบบเรียนกวีนิพนธ์ โลกนิติคำโคลง.ชราภาพ น. ความแก่ด้วยอายุ, ความชํารุดทรุดโทรม, เช่น อันทุพพลชรา ภาพแล้ว. (โลกนิติ).
ชรากากี เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-สะ-หระ-อี[ชะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อพรรณไม้ชนิดหนึ่ง. ในวงเล็บ มาจาก ตำราพระโอสถพระนารายณ์ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐.ชรากากี [ชะ–] น. ชื่อพรรณไม้ชนิดหนึ่ง. (โอสถพระนารายณ์).
ชราบ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-บอ-ไบ-ไม้[ชฺราบ] ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ เป็นคำกริยา หมายถึง ทราบ. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร ชฺราบ เขียนว่า ชอ-ช้าง-พิน-ทุ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-บอ-ไบ-ไม้.ชราบ [ชฺราบ] (โบ) ก. ทราบ. (ข. ชฺราบ).
ชราบชรับ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-บอ-ไบ-ไม้-ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-บอ-ไบ-ไม้[ชฺราบชฺรับ] เป็นคำกริยา หมายถึง ซึมซาบ.ชราบชรับ [ชฺราบชฺรับ] ก. ซึมซาบ.
ชรายุ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อุ[ชฺรา–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง คราบงู, รกที่ห่อหุ้มลูกคนหรือลูกสัตว์. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ชรายุ [ชฺรา–] (แบบ) น. คราบงู, รกที่ห่อหุ้มลูกคนหรือลูกสัตว์. (ส.).
ชริน เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู[ชะ–] เป็นคำกริยา หมายถึง ประดับ เช่น กรุงชรินไว้.ชริน [ชะ–] ก. ประดับ เช่น กรุงชรินไว้.
ชรุก เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่[ชฺรุก] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ซุก, แอบ, แทรก, เอาของไปแอบแฝงไว้, เช่น ช่อช้อยชรุกระโยงยาน. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์จุลพน.ชรุก [ชฺรุก] (กลอน) ก. ซุก, แอบ, แทรก, เอาของไปแอบแฝงไว้, เช่น ช่อช้อยชรุกระโยงยาน. (ม. คำหลวง จุลพน).
ชรูบ เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อู-บอ-ไบ-ไม้[ชฺรูบ] ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ซูบ.ชรูบ [ชฺรูบ] (โบ) ว. ซูบ.
ชล, ชล– ชล เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง ชล– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง [ชน, ชนละ–] เป็นคำนาม หมายถึง นํ้า. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต .ชล, ชล– [ชน, ชนละ–] น. นํ้า. (ป., ส.).
ชลจร เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-จอ-จาน-รอ-เรือ เป็นคำนาม หมายถึง ทางนํ้า, สัตว์นํ้า, เช่น ค้าวเขือเชื้อชลจรและช่อนสลับ. ในวงเล็บ มาจาก สมุทรโฆษคำฉันท์ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๘.ชลจร น. ทางนํ้า, สัตว์นํ้า, เช่น ค้าวเขือเชื้อชลจรและช่อนสลับ. (สมุทรโฆษ).
ชลจัณฑ์ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-จอ-จาน-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-เนน-ทอ-มน-โท-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง นํ้าจัณฑ์ เช่น ชื่อชลจัณฑ์ ดุมุเมามน. ในวงเล็บ มาจากเรื่อง จิตรปทาฉันท์ ในหนังสือชุมนุมตำรากลอน ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๕๐๔.ชลจัณฑ์ น. นํ้าจัณฑ์ เช่น ชื่อชลจัณฑ์ ดุมุเมามน. (จิตรปทาฉันท์).
ชลชาติ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อา-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ เป็นคำนาม หมายถึง นํ้า เช่น ประพรมพระเจ้าด้วยชลชาติ. ในวงเล็บ มาจาก มหาชาติคำหลวง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ กัณฑ์มัทรี; สัตว์นํ้า เช่น ลงดําสํ่ามัจฉา ชลชาติ. ในวงเล็บ มาจาก แบบเรียนกวีนิพนธ์ โลกนิติคำโคลง.ชลชาติ น. นํ้า เช่น ประพรมพระเจ้าด้วยชลชาติ. (ม. คำหลวง มัทรี); สัตว์นํ้า เช่น ลงดําสํ่ามัจฉา ชลชาติ. (โลกนิติ).
ชลธาร เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-ทอ-ทง-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ เป็นคำนาม หมายถึง ลํานํ้า, ลําคลอง, ร่องนํ้า, ห้วย, ทะเลสาบ.ชลธาร น. ลํานํ้า, ลําคลอง, ร่องนํ้า, ห้วย, ทะเลสาบ.
ชลธารก เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-ทอ-ทง-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-กอ-ไก่ เป็นคำนาม หมายถึง สายนํ้า, กระแสนํ้า.ชลธารก น. สายนํ้า, กระแสนํ้า.
ชลธิศ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-ทอ-ทง-สะ-หระ-อิ-สอ-สา-ลา เป็นคำนาม หมายถึง ชลธี, ทะเล.ชลธิศ น. ชลธี, ทะเล.
ชลธี เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-ทอ-ทง-สะ-หระ-อี เป็นคำนาม หมายถึง ทะเล. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี .ชลธี น. ทะเล. (ป.).
ชลนัยน์, ชลนา, ชลเนตร ชลนัยน์ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-นอ-หนู-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยัก-นอ-หนู-ทัน-ทะ-คาด ชลนา เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-นอ-หนู-สะ-หระ-อา ชลเนตร เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-เอ-นอ-หนู-ตอ-เต่า-รอ-เรือ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำนาม หมายถึง นํ้าตา.ชลนัยน์, ชลนา, ชลเนตร (กลอน) น. นํ้าตา.
ชลประทาน เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-ปอ-ปลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อา-นอ-หนู[ชนละ–, ชน–] เป็นคำนาม หมายถึง การทดนํ้าและระบายนํ้าเพื่อการเพาะปลูกเป็นต้น.ชลประทาน [ชนละ–, ชน–] น. การทดนํ้าและระบายนํ้าเพื่อการเพาะปลูกเป็นต้น.
ชลมารค เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-มอ-ม้า-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ-คอ-ควาย[–มาก] เป็นคำนาม หมายถึง ทางนํ้า เช่น กระบวนเสด็จพระราชดำเนินโดยทางชลมารค. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ชลมารค [–มาก] น. ทางนํ้า เช่น กระบวนเสด็จพระราชดำเนินโดยทางชลมารค. (ส.).
ชลสถาน เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สอ-เสือ-ถอ-ถุง-สะ-หระ-อา-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง บ่อ, สระ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ชลสถาน น. บ่อ, สระ. (ส.).
ชลัมพุ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-มอ-ม้า-พอ-พาน-สะ-หระ-อุ ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง นํ้า เช่น และไขชลัมพุธารา. ในวงเล็บ มาจาก หนังสือตำราโชคต่าง ๆ เลือกคัดจากฉบับของโบราณ นาวาตรีหลวงวุฒิวารีรณ ร.น. พิมพ์ พ.ศ. ๒๔๖๗ ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี ชล เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง + อมฺพุ เขียนว่า ออ-อ่าง-มอ-ม้า-พิน-ทุ-พอ-พาน-สะ-หระ-อุ .ชลัมพุ (แบบ) น. นํ้า เช่น และไขชลัมพุธารา. (อภิไธยโพธิบาทว์). (ป. ชล + อมฺพุ).
ชลาธาร เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ทอ-ทง-สะ-หระ-อา-รอ-เรือ เป็นคำนาม หมายถึง บ่อ, สระ. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต .ชลาธาร น. บ่อ, สระ. (ส.).
ชลาพุช, ชลามพุช ชลาพุช เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-พอ-พาน-สะ-หระ-อุ-ชอ-ช้าง ชลามพุช เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-พอ-พาน-สะ-หระ-อุ-ชอ-ช้าง เป็นคำนาม หมายถึง สัตว์ที่เกิดในครรภ์. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต ชรายุช เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-อุ-ชอ-ช้าง.ชลาพุช, ชลามพุช น. สัตว์ที่เกิดในครรภ์. (ป.; ส. ชรายุช).
ชลาลัย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยัก เป็นคำนาม หมายถึง ทะเล, แม่นํ้า. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต ชล เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง + อาลย เขียนว่า ออ-อ่าง-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ยอ-ยัก = ที่อยู่ของนํ้า .ชลาลัย น. ทะเล, แม่นํ้า. (ป., ส. ชล + อาลย = ที่อยู่ของนํ้า).
ชลาศัย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยัก เป็นคำนาม หมายถึง บ่อ, สระ, ทะเล; ปลา. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี ชลาสย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-ยอ-ยัก.ชลาศัย น. บ่อ, สระ, ทะเล; ปลา. (ส.; ป. ชลาสย).
ชลาสินธุ์ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-ทอ-ทง-สะ-หระ-อุ-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำนาม หมายถึง ทะเล, แม่น้ำ, เช่น ข้าเป็นไรแทรกขนสุบรรณบิน เร็วรีบยิ่งมหาวายุพัด กวักกวัดปีกข้ามชลาสินธุ์. ในวงเล็บ มาจาก เรื่องกากีกลอนสุภาพ หนังสือวรรณคดี ของ เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ฉบับหอสมุดแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗, น้ำ เช่น พระเหลือบเล็งชลาสินธุ์ ในวารินทะเลวน ก็เห็นรูปอสุรกล ซึ่งกลายแกล้งเป็นสีดา. ในวงเล็บ มาจาก บทพากย์รามเกียรติ์ กาพย์นางลอย พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ของ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๑๙.ชลาสินธุ์ น. ทะเล, แม่น้ำ, เช่น ข้าเป็นไรแทรกขนสุบรรณบิน เร็วรีบยิ่งมหาวายุพัด กวักกวัดปีกข้ามชลาสินธุ์. (กากี), น้ำ เช่น พระเหลือบเล็งชลาสินธุ์ ในวารินทะเลวน ก็เห็นรูปอสุรกล ซึ่งกลายแกล้งเป็นสีดา. (พากย์นางลอย).
ชโลทร เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-โอ-ลอ-ลิง-ทอ-ทะ-หาน-รอ-เรือ[ชะโลทอน] เป็นคำนาม หมายถึง แม่นํ้า, ทะเล, ห้วงนํ้า, ท้องนํ้า. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต ชล เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง + อุทร เขียนว่า ออ-อ่าง-สะ-หระ-อุ-ทอ-ทะ-หาน-รอ-เรือ .ชโลทร [ชะโลทอน] น. แม่นํ้า, ทะเล, ห้วงนํ้า, ท้องนํ้า. (ป., ส. ชล + อุทร).
ชลัมพุ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-มอ-ม้า-พอ-พาน-สะ-หระ-อุดู ชล, ชล– ชล เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง ชล– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง .ชลัมพุ ดู ชล, ชล–.
ชลาธาร เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ทอ-ทง-สะ-หระ-อา-รอ-เรือดู ชล, ชล– ชล เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง ชล– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง .ชลาธาร ดู ชล, ชล–.
ชลาพุช, ชลามพุช ชลาพุช เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-พอ-พาน-สะ-หระ-อุ-ชอ-ช้าง ชลามพุช เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-พอ-พาน-สะ-หระ-อุ-ชอ-ช้าง ดู ชล, ชล– ชล เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง ชล– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง .ชลาพุช, ชลามพุช ดู ชล, ชล–.
ชลาลัย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยักดู ชล, ชล– ชล เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง ชล– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง .ชลาลัย ดู ชล, ชล–.
ชลาศัย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-สอ-สา-ลา-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยักดู ชล, ชล– ชล เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง ชล– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง .ชลาศัย ดู ชล, ชล–.
ชลาสินธุ์ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-ทอ-ทง-สะ-หระ-อุ-ทัน-ทะ-คาดดู ชล, ชล– ชล เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง ชล– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง .ชลาสินธุ์ ดู ชล, ชล–.
ชลี เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง อัญชลี, ไหว้, เช่น ชลีกรงอนงามกิริยา. ในวงเล็บ มาจาก อิเหนา พระราชนิพนธ์ ในรัชกาลที่ ๒ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๔. (ตัดมาจาก อัญชลี).ชลี (กลอน) ก. อัญชลี, ไหว้, เช่น ชลีกรงอนงามกิริยา. (อิเหนา). (ตัดมาจาก อัญชลี).
ชลูกา เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อู-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง ปลิง, ชัลลุกา ก็ใช้. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี ชลุกา เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อุ-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา ชลูกา เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อู-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา .ชลูกา (แบบ) น. ปลิง, ชัลลุกา ก็ใช้. (ส., ป. ชลุกา, ชลูกา).
ชเล เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-เอ-ลอ-ลิง ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ เป็นคำนาม หมายถึง ทะเล, ในนํ้า, ใช้เป็นส่วนหน้าสมาสก็มี เช่น ชเลจร ว่า ผู้เที่ยวไปในนํ้า.ชเล (โบ) น. ทะเล, ในนํ้า, ใช้เป็นส่วนหน้าสมาสก็มี เช่น ชเลจร ว่า ผู้เที่ยวไปในนํ้า.
ชโลง เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-โอ-ลอ-ลิง-งอ-งู[ชะ–] ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ เป็นคำกริยา หมายถึง พยุงไว้ไม่ให้เซ, จรรโลง, จูง เช่น ให้เป็นหลักชโลงจิต. ในวงเล็บ มาจาก หนังสือกฎหมาย พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงรวบรวม ฉบับโรงพิมพ์กองลหุโทษ ร.ศ. ๑๒๐.ชโลง [ชะ–] (โบ) ก. พยุงไว้ไม่ให้เซ, จรรโลง, จูง เช่น ให้เป็นหลักชโลงจิต. (กฎ. ราชบุรี).
ชโลทร เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-โอ-ลอ-ลิง-ทอ-ทะ-หาน-รอ-เรือดู ชล, ชล– ชล เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง ชล– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง .ชโลทร ดู ชล, ชล–.
ชโลม เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-โอ-ลอ-ลิง-มอ-ม้า[ชะ–] เป็นคำกริยา หมายถึง ลูบไล้ให้เปียก เช่น ชโลมยา ชโลมนํ้ามันยาง; ทำให้ชุ่มชื่น เช่น ชโลมใจ.ชโลม [ชะ–] ก. ลูบไล้ให้เปียก เช่น ชโลมยา ชโลมนํ้ามันยาง; ทำให้ชุ่มชื่น เช่น ชโลมใจ.
ชว– มีเครื่องหมายยัติภังค์ท้ายคำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-วอ-แหวน[ชะวะ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เร็ว, (มักใช้เป็นส่วนหน้าสมาส) เช่น ชวการ ชวกิจ ชวเลข, แผลงเป็น เชาว์ ก็มี.ชว– [ชะวะ–] (แบบ) ว. เร็ว, (มักใช้เป็นส่วนหน้าสมาส) เช่น ชวการ ชวกิจ ชวเลข, แผลงเป็น เชาว์ ก็มี.
ช่วง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-วอ-แหวน-งอ-งู ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ตอน, ระยะ (ที่ต่อเนื่อง). เป็นคำกริยา หมายถึง รับเป็นตอน เช่น รับช่วง เช่าช่วง.ช่วง ๑ น. ตอน, ระยะ (ที่ต่อเนื่อง). ก. รับเป็นตอน เช่น รับช่วง เช่าช่วง.
ช่วงเมือง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-วอ-แหวน-งอ-งู-สะ-หระ-เอ-มอ-ม้า-สะ-หระ-อือ-ออ-อ่าง-งอ-งู ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ เป็นคำนาม หมายถึง เมืองเล็กที่ขึ้นแก่ประเทศราช.ช่วงเมือง (โบ) น. เมืองเล็กที่ขึ้นแก่ประเทศราช.
ช่วง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-วอ-แหวน-งอ-งู ความหมายที่ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สว่าง, รุ่งโรจน์.ช่วง ๒ ว. สว่าง, รุ่งโรจน์.
ช่วงโชติ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-วอ-แหวน-งอ-งู-สะ-หระ-โอ-ชอ-ช้าง-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อิ เป็นคำกริยา หมายถึง สว่างรุ่งโรจน์, โชติช่วง ก็ว่า.ช่วงโชติ ก. สว่างรุ่งโรจน์, โชติช่วง ก็ว่า.
ช่วง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-วอ-แหวน-งอ-งู ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง มักใช้พูดเข้าคู่กับคํา ใช้ เป็น ช่วงใช้. (ไทยใหญ่ ช่วง ว่า ใช้).ช่วง ๓ ก. มักใช้พูดเข้าคู่กับคํา ใช้ เป็น ช่วงใช้. (ไทยใหญ่ ช่วง ว่า ใช้).
ช่วงใช้ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-วอ-แหวน-งอ-งู-สะ-หระ-ไอ-ไม้-ม้วน-ชอ-ช้าง-ไม้-โท เป็นคำกริยา หมายถึง รับใช้ เช่น เป็นข้าช่วงใช้.ช่วงใช้ ก. รับใช้ เช่น เป็นข้าช่วงใช้.
ช่วงบาท เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-วอ-แหวน-งอ-งู-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-อา-ทอ-ทะ-หาน เป็นคำนาม หมายถึง ผู้อยู่ในระยะเท้า “คือ ใกล้เท้า หมายความว่า ผู้รับใช้”.ช่วงบาท น. ผู้อยู่ในระยะเท้า “คือ ใกล้เท้า หมายความว่า ผู้รับใช้”.
ช่วง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-วอ-แหวน-งอ-งู ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง แย่ง, ชิง, มักใช้พูดเข้าคู่กับคํา ชิง เป็น ช่วงชิง หรือ ชิงช่วง.ช่วง ๔ ก. แย่ง, ชิง, มักใช้พูดเข้าคู่กับคํา ชิง เป็น ช่วงชิง หรือ ชิงช่วง.
ช่วงชัย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-วอ-แหวน-งอ-งู-ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-ยอ-ยัก เป็นคำนาม หมายถึง การเล่นพื้นเมืองอย่างหนึ่ง นิยมเล่นในเทศกาล เช่น สงกรานต์ มีผู้เล่นหลายคน แบ่งออกเป็น ๒ ฝ่าย ชายฝ่ายหนึ่ง หญิงฝ่ายหนึ่ง ยืนหันหน้าเข้าหากัน ห่างพอที่จะใช้ลูกช่วงที่ทําด้วยผ้าขาวม้าเป็นต้นเป็นลูกกลม ๆ ผูกให้แน่นโยนหรือปาให้กัน ถ้าฝ่ายใดรับได้แล้วปาไปถูกคนใดคนหนึ่งของฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายนั้นก็เป็นฝ่ายแพ้ มี ๓ ชนิด คือ ช่วงรํา ผู้แพ้ต้องออกไปรํา ช่วงใช้ ผู้แพ้ต้องไปอยู่อีกข้างหนึ่ง และช่วงขี้ข้า ผู้แพ้ต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งขี่คอ.ช่วงชัย น. การเล่นพื้นเมืองอย่างหนึ่ง นิยมเล่นในเทศกาล เช่น สงกรานต์ มีผู้เล่นหลายคน แบ่งออกเป็น ๒ ฝ่าย ชายฝ่ายหนึ่ง หญิงฝ่ายหนึ่ง ยืนหันหน้าเข้าหากัน ห่างพอที่จะใช้ลูกช่วงที่ทําด้วยผ้าขาวม้าเป็นต้นเป็นลูกกลม ๆ ผูกให้แน่นโยนหรือปาให้กัน ถ้าฝ่ายใดรับได้แล้วปาไปถูกคนใดคนหนึ่งของฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายนั้นก็เป็นฝ่ายแพ้ มี ๓ ชนิด คือ ช่วงรํา ผู้แพ้ต้องออกไปรํา ช่วงใช้ ผู้แพ้ต้องไปอยู่อีกข้างหนึ่ง และช่วงขี้ข้า ผู้แพ้ต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งขี่คอ.
ช่วงชิง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-วอ-แหวน-งอ-งู-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อิ-งอ-งู เป็นคำกริยา หมายถึง แย่งชิง.ช่วงชิง ก. แย่งชิง.
ช่วงทรัพย์ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-วอ-แหวน-งอ-งู-ทอ-ทะ-หาน-รอ-เรือ-ไม้-หัน-อา-กาด-พอ-พาน-ยอ-ยัก-ทัน-ทะ-คาด ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำกริยา หมายถึง เอาทรัพย์สินอันหนึ่งแทนที่ทรัพย์สินอีกอันหนึ่ง ซึ่งมีฐานะทางกฎหมายอย่างเดียวกันกับทรัพย์สินอันก่อน.ช่วงทรัพย์ (กฎ) ก. เอาทรัพย์สินอันหนึ่งแทนที่ทรัพย์สินอีกอันหนึ่ง ซึ่งมีฐานะทางกฎหมายอย่างเดียวกันกับทรัพย์สินอันก่อน.
ช่วงสิทธิ์ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-วอ-แหวน-งอ-งู-สอ-เสือ-สะ-หระ-อิ-ทอ-ทะ-หาน-ทอ-ทง-สะ-หระ-อิ-ทัน-ทะ-คาด ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในกฎหมาย เป็นคำกริยา หมายถึง เข้าสวมสิทธิของเจ้าหนี้ที่จะใช้สิทธิทั้งหลายบรรดาที่เจ้าหนี้มีอยู่โดยมูลหนี้ รวมทั้งประกันแห่งหนี้นั้นได้ในนามของตนเอง.ช่วงสิทธิ์ (กฎ) ก. เข้าสวมสิทธิของเจ้าหนี้ที่จะใช้สิทธิทั้งหลายบรรดาที่เจ้าหนี้มีอยู่โดยมูลหนี้ รวมทั้งประกันแห่งหนี้นั้นได้ในนามของตนเอง.
ชวด เขียนว่า ชอ-ช้าง-วอ-แหวน-ดอ-เด็ก ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อปีที่ ๑ ของรอบปีนักษัตร มีหนูเป็นเครื่องหมาย. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร ชูต เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อู-ตอ-เต่า.ชวด ๑ น. ชื่อปีที่ ๑ ของรอบปีนักษัตร มีหนูเป็นเครื่องหมาย. (ข. ชูต).
ชวด เขียนว่า ชอ-ช้าง-วอ-แหวน-ดอ-เด็ก ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง ผิดหวัง, ไม่ได้ดังหวัง.ชวด ๒ ก. ผิดหวัง, ไม่ได้ดังหวัง.
ชวด เขียนว่า ชอ-ช้าง-วอ-แหวน-ดอ-เด็ก ความหมายที่ ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำนาม หมายถึง พ่อหรือแม่ของปู่ ย่า ตา ยาย, ทวด ก็ว่า.ชวด ๓ (ปาก) น. พ่อหรือแม่ของปู่ ย่า ตา ยาย, ทวด ก็ว่า.
ชวน เขียนว่า ชอ-ช้าง-วอ-แหวน-นอ-หนู ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง จูงใจ, โน้มนํา, เช่น ชวนกิน; ชักนํา, ขอให้ทําตาม, เช่น ชวนไปเที่ยว.ชวน ๑ ก. จูงใจ, โน้มนํา, เช่น ชวนกิน; ชักนํา, ขอให้ทําตาม, เช่น ชวนไปเที่ยว.
ชวนหัว เขียนว่า ชอ-ช้าง-วอ-แหวน-นอ-หนู-หอ-หีบ-ไม้-หัน-อา-กาด-วอ-แหวน เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ที่ทําให้ขบขัน เช่น เรื่องชวนหัว ละครชวนหัว.ชวนหัว ว. ที่ทําให้ขบขัน เช่น เรื่องชวนหัว ละครชวนหัว.
ชวน– เขียนว่า ชอ-ช้าง-วอ-แหวน-นอ-หนู ความหมายที่ [ชะวะนะ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง ความเร็ว, ความไว, ความเร็วของปัญญาหรือความคิด, แผลงเป็น เชาวน์ ก็มี. ในวงเล็บ มาจากภาษาบาลี และมาจากภาษาสันสกฤต .ชวน– ๒ [ชะวะนะ–] (แบบ) น. ความเร็ว, ความไว, ความเร็วของปัญญาหรือความคิด, แผลงเป็น เชาวน์ ก็มี. (ป., ส.).
ชวนชม เขียนว่า ชอ-ช้าง-วอ-แหวน-นอ-หนู-ชอ-ช้าง-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้พุ่มชนิด Adenium obesum Balf. ในวงศ์ Apocynaceae ดอกมีหลายสี เช่น สีแดง ขาว ชมพู ม่วง ปลูกเป็นไม้ประดับ.ชวนชม น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Adenium obesum Balf. ในวงศ์ Apocynaceae ดอกมีหลายสี เช่น สีแดง ขาว ชมพู ม่วง ปลูกเป็นไม้ประดับ.
ชวย เขียนว่า ชอ-ช้าง-วอ-แหวน-ยอ-ยัก เป็นคำกริยา หมายถึง พัดอ่อน ๆ, พัดเรื่อย ๆ, (ใช้แก่ลม).ชวย ก. พัดอ่อน ๆ, พัดเรื่อย ๆ, (ใช้แก่ลม).
ช่วย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-วอ-แหวน-ยอ-ยัก เป็นคำกริยา หมายถึง ส่งเสริมเพื่อให้สําเร็จประโยชน์; ป้องกัน เช่น ช่วยไม่ได้.ช่วย ก. ส่งเสริมเพื่อให้สําเร็จประโยชน์; ป้องกัน เช่น ช่วยไม่ได้.
ช่วยเหลือ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-วอ-แหวน-ยอ-ยัก-สะ-หระ-เอ-หอ-หีบ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อือ-ออ-อ่าง เป็นคำกริยา หมายถึง ช่วยกิจการของเขาเพื่อให้พร้อมมูลขึ้น.ช่วยเหลือ ก. ช่วยกิจการของเขาเพื่อให้พร้อมมูลขึ้น.
ชวร, ชวระ ชวร เขียนว่า ชอ-ช้าง-วอ-แหวน-รอ-เรือ ชวระ เขียนว่า ชอ-ช้าง-วอ-แหวน-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ [ชวน, ชะวะระ] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง ไข้, ความไข้. เป็นคำกริยา หมายถึง เป็นไข้, ป่วย. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต และมาจากภาษาบาลี ชร เขียนว่า ชอ-ช้าง-รอ-เรือ.ชวร, ชวระ [ชวน, ชะวะระ] (แบบ) น. ไข้, ความไข้. ก. เป็นไข้, ป่วย. (ส.; ป. ชร).
ชวลิต เขียนว่า ชอ-ช้าง-วอ-แหวน-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ-ตอ-เต่า[ชะวะลิด] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง รุ่งเรือง, รุ่งโรจน์, สว่าง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ชฺวลิต เขียนว่า ชอ-ช้าง-พิน-ทุ-วอ-แหวน-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ-ตอ-เต่า และมาจากภาษาบาลี ชลิต เขียนว่า ชอ-ช้าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ-ตอ-เต่า.ชวลิต [ชะวะลิด] (แบบ) ว. รุ่งเรือง, รุ่งโรจน์, สว่าง. (ส. ชฺวลิต; ป. ชลิต).
ชวัก เขียนว่า ชอ-ช้าง-วอ-แหวน-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่[ชะ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรอง เป็นคำกริยา หมายถึง ชัก เช่น เคล้าฟ้าเคลือกเปลวลาม พระรามพระลักษณชวักอร. (แช่งน้ำ).ชวัก [ชะ–] (กลอน) ก. ชัก เช่น เคล้าฟ้าเคลือกเปลวลาม พระรามพระลักษณชวักอร. (แช่งน้ำ).
ชวา เขียนว่า ชอ-ช้าง-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา[ชะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเกาะสําคัญที่สุดและเป็นที่ตั้งเมืองหลวงของประเทศอินโดนีเซีย, ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ หมายถึง ใช้ว่า ยะวา ก็มี, เรียกประชาชนที่พูดภาษาชวาว่า ชาวชวา; ชื่อปี่ชนิดหนึ่ง เรียกว่า ปี่ชวา.ชวา [ชะ–] น. ชื่อเกาะสําคัญที่สุดและเป็นที่ตั้งเมืองหลวงของประเทศอินโดนีเซีย, (โบ) ใช้ว่า ยะวา ก็มี, เรียกประชาชนที่พูดภาษาชวาว่า ชาวชวา; ชื่อปี่ชนิดหนึ่ง เรียกว่า ปี่ชวา.
ชวาล เขียนว่า ชอ-ช้าง-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง[ชะ–] ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง ความรุ่งเรือง, เปลวไฟ, โคมไฟ; ความสว่าง. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ซึ่งลุกโพลง, สว่างโพลง. ในวงเล็บ มาจากภาษาสันสกฤต ชฺวาล เขียนว่า ชอ-ช้าง-พิน-ทุ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง และมาจากภาษาบาลี ชาลา เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา.ชวาล [ชะ–] (แบบ) น. ความรุ่งเรือง, เปลวไฟ, โคมไฟ; ความสว่าง. ว. ซึ่งลุกโพลง, สว่างโพลง. (ส. ชฺวาล; ป. ชาลา).
ชวาลา เขียนว่า ชอ-ช้าง-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา[ชะ–] ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องตามไฟชนิดหนึ่ง ใช้ตั้งหรือแขวน มีรูปเป็นหม้อกลม สำหรับใส่น้ำมัน มีพวยยื่นมาใช้ใส่ไส้จุดไฟ.ชวาลา [ชะ–] (โบ) น. เครื่องตามไฟชนิดหนึ่ง ใช้ตั้งหรือแขวน มีรูปเป็นหม้อกลม สำหรับใส่น้ำมัน มีพวยยื่นมาใช้ใส่ไส้จุดไฟ.
ช่อ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ใบไม้หรือดอกไม้ที่แตกออกเป็นพวง, เรียกดอกของต้นไม้บางชนิดเช่นมะม่วงและสะเดาที่ออกดอกเล็ก ๆ เป็นกลุ่มหรือเป็นพวงว่า ช่อมะม่วง ช่อสะเดา, ใบไม้หรือดอกไม้ที่ผูกเป็นกลุ่มหรือเป็นพวง, โดยปริยายเรียกสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ช่อดอกไม้ไฟ โคมช่อองุ่น.ช่อ ๑ น. ใบไม้หรือดอกไม้ที่แตกออกเป็นพวง, เรียกดอกของต้นไม้บางชนิดเช่นมะม่วงและสะเดาที่ออกดอกเล็ก ๆ เป็นกลุ่มหรือเป็นพวงว่า ช่อมะม่วง ช่อสะเดา, ใบไม้หรือดอกไม้ที่ผูกเป็นกลุ่มหรือเป็นพวง, โดยปริยายเรียกสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ช่อดอกไม้ไฟ โคมช่อองุ่น.
ช่อฟ้า เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-ฟอ-ฟัน-ไม้-โท-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อตัวไม้ที่ติดอยู่บริเวณหน้าจั่ว รูปเหมือนหัวนาคชูขึ้นเบื้องบน.ช่อฟ้า น. ชื่อตัวไม้ที่ติดอยู่บริเวณหน้าจั่ว รูปเหมือนหัวนาคชูขึ้นเบื้องบน.
ช่อม่วง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-มอ-ม้า-ไม้-เอก-วอ-แหวน-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อขนมชนิดหนึ่ง. ในวงเล็บ มาจาก กาพย์ห่อโคลงเห่เรือ แบบเรียนกวีนิพนธ์; ชื่อดอกไม้ไฟชนิดหนึ่ง.ช่อม่วง น. ชื่อขนมชนิดหนึ่ง. (เห่เรือ); ชื่อดอกไม้ไฟชนิดหนึ่ง.
ช่อ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง ชักรอก.ช่อ ๒ ก. ชักรอก.
ชอก เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-กอ-ไก่ เป็นคำกริยา หมายถึง ชํ้า, มักใช้พูดเข้าคู่กับคํา ชํ้า เป็น ชอกชํ้า หรือ ชํ้าชอก.ชอก ก. ชํ้า, มักใช้พูดเข้าคู่กับคํา ชํ้า เป็น ชอกชํ้า หรือ ชํ้าชอก.
ชอกช้ำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-กอ-ไก่-ชอ-ช้าง-ไม้-โท-สะ-หระ-อำ เป็นคำกริยา หมายถึง บอบชํ้ามาก, ชํ้าชอก ก็ว่า.ชอกช้ำ ก. บอบชํ้ามาก, ชํ้าชอก ก็ว่า.
ช็อก เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-ไต่-คู้-ออ-อ่าง-กอ-ไก่ เป็นคำนาม หมายถึง สภาวะที่ร่างกายเสียเลือดจนความดันเลือดต่ำมาก หรือถูกกระทบจิตใจอย่างรุนแรง หรือถูกกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน เป็นต้น จนทำให้เป็นลมหรือหมดสติในทันที. ในวงเล็บ มาจากภาษาอังกฤษ shock เขียนว่า เอส-เอช-โอ-ซี-เค.ช็อก น. สภาวะที่ร่างกายเสียเลือดจนความดันเลือดต่ำมาก หรือถูกกระทบจิตใจอย่างรุนแรง หรือถูกกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน เป็นต้น จนทำให้เป็นลมหรือหมดสติในทันที. (อ. shock).
ช็อกโกเลต, ช็อกโกแลต ช็อกโกเลต เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-ไต่-คู้-ออ-อ่าง-กอ-ไก่-สะ-หระ-โอ-กอ-ไก่-สะ-หระ-เอ-ลอ-ลิง-ตอ-เต่า ช็อกโกแลต เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-ไต่-คู้-ออ-อ่าง-กอ-ไก่-สะ-หระ-โอ-กอ-ไก่-สะ-หระ-แอ-ลอ-ลิง-ตอ-เต่า เป็นคำนาม หมายถึง ขนมหวานทําจากเมล็ดโกโก้และนํ้าตาล บางชนิดก็มีไส้หวาน. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เรียกสีอย่างสีนํ้าตาลไหม้ ว่า สีช็อกโกเลต หรือ สีช็อกโกแลต. ในวงเล็บ มาจากภาษาอังกฤษ chocolate เขียนว่า ซี-เอช-โอ-ซี-โอ-แอล-เอ-ที-อี.ช็อกโกเลต, ช็อกโกแลต น. ขนมหวานทําจากเมล็ดโกโก้และนํ้าตาล บางชนิดก็มีไส้หวาน. ว. เรียกสีอย่างสีนํ้าตาลไหม้ ว่า สีช็อกโกเลต หรือ สีช็อกโกแลต. (อ. chocolate).
ชอง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อชนกลุ่มน้อยเผ่าหนึ่งในตระกูลมอญ–เขมร มีมากทางตอนเหนือของจังหวัดจันทบุรี, เรียกตัวเองว่า สําเร หรือ ตําเหรด, เขมรเรียกว่า พวกปอร.ชอง น. ชื่อชนกลุ่มน้อยเผ่าหนึ่งในตระกูลมอญ–เขมร มีมากทางตอนเหนือของจังหวัดจันทบุรี, เรียกตัวเองว่า สําเร หรือ ตําเหรด, เขมรเรียกว่า พวกปอร.
ช่อง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ที่ว่างซึ่งเป็นทางเข้าออกได้ เช่น ช่องเขา ช่องหน้าต่าง ช่องลม; โอกาส เช่น ไม่มีช่องที่จะทําได้.ช่อง น. ที่ว่างซึ่งเป็นทางเข้าออกได้ เช่น ช่องเขา ช่องหน้าต่าง ช่องลม; โอกาส เช่น ไม่มีช่องที่จะทําได้.
ช่องกุด เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-งอ-งู-กอ-ไก่-สะ-หระ-อุ-ดอ-เด็ก เป็นคำนาม หมายถึง ประตูแบบมียอดที่เจาะกําแพงเมืองหรือกําแพงวังชั้นนอกเป็นทางเข้าออก.ช่องกุด น. ประตูแบบมียอดที่เจาะกําแพงเมืองหรือกําแพงวังชั้นนอกเป็นทางเข้าออก.
ช่องเขา เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-งอ-งู-สะ-หระ-เอ-ขอ-ไข่-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง เส้นทางที่ใช้เป็นทางข้ามจากทิวเขาด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง, ช่องที่อยู่ในระหว่างเขา ๒ ลูก.ช่องเขา น. เส้นทางที่ใช้เป็นทางข้ามจากทิวเขาด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง, ช่องที่อยู่ในระหว่างเขา ๒ ลูก.
ช่องแคบ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-งอ-งู-สะ-หระ-แอ-คอ-ควาย-บอ-ไบ-ไม้ เป็นคำนาม หมายถึง ทางนํ้ายาวที่อยู่ระหว่างแผ่นดินหรือเกาะ เชื่อมต่อทะเลทั้ง ๒ ข้าง.ช่องแคบ น. ทางนํ้ายาวที่อยู่ระหว่างแผ่นดินหรือเกาะ เชื่อมต่อทะเลทั้ง ๒ ข้าง.
ช่องดาล เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-งอ-งู-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง เป็นคำนาม หมายถึง รูสําหรับสอดลูกดาลเข้าไปเขี่ยดาลที่ขัดบานประตู.ช่องดาล น. รูสําหรับสอดลูกดาลเข้าไปเขี่ยดาลที่ขัดบานประตู.
ช่องตีนกา เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-งอ-งู-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อี-นอ-หนู-กอ-ไก่-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง ช่องอิฐโปร่งหรือที่ก่อเป็นช่องลึกรูปกากบาทใต้แนวใบเสมาของกำแพงเมืองหรือกำแพงวัง.ช่องตีนกา น. ช่องอิฐโปร่งหรือที่ก่อเป็นช่องลึกรูปกากบาทใต้แนวใบเสมาของกำแพงเมืองหรือกำแพงวัง.
ช่องไฟ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-งอ-งู-สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-ฟอ-ฟัน เป็นคำนาม หมายถึง ช่องว่างระหว่างตัวหนังสือ; (ศิลปะ) บริเวณที่เว้นไว้เป็นพื้นเท่า ๆ กันระหว่างลวดลายแต่ละตัว.ช่องไฟ น. ช่องว่างระหว่างตัวหนังสือ; (ศิลปะ) บริเวณที่เว้นไว้เป็นพื้นเท่า ๆ กันระหว่างลวดลายแต่ละตัว.
ช่องว่าง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-งอ-งู-วอ-แหวน-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ความเหลื่อมล้ำต่ำสูงที่ทำให้เข้ากันยาก เช่น ช่องว่างระหว่างชนชั้น ช่องว่างระหว่างวัย.ช่องว่าง น. ความเหลื่อมล้ำต่ำสูงที่ทำให้เข้ากันยาก เช่น ช่องว่างระหว่างชนชั้น ช่องว่างระหว่างวัย.
ช้อง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ผมสําหรับเสริมผมให้ใหญ่หรือยาว.ช้อง น. ผมสําหรับเสริมผมให้ใหญ่หรือยาว.
ช้องนาง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-งอ-งู-นอ-หนู-สะ-หระ-อา-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้พุ่มชนิด Thunbergia erecta T. Anders. ในวงศ์ Acanthaceae ดอกสีม่วงนํ้าเงินเข้มหรือขาว หลอดดอกด้านในสีเหลืองเข้ม.ช้องนาง น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Thunbergia erecta T. Anders. ในวงศ์ Acanthaceae ดอกสีม่วงนํ้าเงินเข้มหรือขาว หลอดดอกด้านในสีเหลืองเข้ม.
ช้องนางคลี่ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-งอ-งู-นอ-หนู-สะ-หระ-อา-งอ-งู-คอ-ควาย-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี-ไม้-เอก เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้อิงอาศัยไร้ดอกชนิด Lycopodium phlegmaria L. ในวงศ์ Lycopodiaceae ลําต้นยาวห้อยลง แยกแขนงเป็นคู่ ๆ.ช้องนางคลี่ น. ชื่อไม้อิงอาศัยไร้ดอกชนิด Lycopodium phlegmaria L. ในวงศ์ Lycopodiaceae ลําต้นยาวห้อยลง แยกแขนงเป็นคู่ ๆ.
ช้องแมว เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-งอ-งู-สะ-หระ-แอ-มอ-ม้า-วอ-แหวนดู ซ้องแมว เขียนว่า ซอ-โซ่-ไม้-โท-ออ-อ่าง-งอ-งู-สะ-หระ-แอ-มอ-ม้า-วอ-แหวน.ช้องแมว ดู ซ้องแมว.
ชองระอา เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-งอ-งู-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ออ-อ่าง-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง (๑) ชื่อไม้เถาชนิด Strychnos thorelii Pierre ex Dop. ในวงศ์ Strychnaceae ดอกสีขาวนวล ผลกลม ใช้ทํายาได้. (๒) ชื่อไม้เถาชนิด Securidaca inappendiculata Hassk. ในวงศ์ Polygalaceae ดอกสีเหลือง ผลมีปีก.ชองระอา น. (๑) ชื่อไม้เถาชนิด Strychnos thorelii Pierre ex Dop. ในวงศ์ Strychnaceae ดอกสีขาวนวล ผลกลม ใช้ทํายาได้. (๒) ชื่อไม้เถาชนิด Securidaca inappendiculata Hassk. ในวงศ์ Polygalaceae ดอกสีเหลือง ผลมีปีก.
ชอน เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-นอ-หนู เป็นคำกริยา หมายถึง ไชคดเคี้ยวไปในดินหรือภายในสิ่งอื่นด้วยอาการเช่นนั้น เช่น รากไม้ชอนไปในดิน; พุ่งแยงออกมา (ใช้แก่แสงอย่างแสงแดดแสงไฟ) เช่น แสงตะวันชอนตา.ชอน ก. ไชคดเคี้ยวไปในดินหรือภายในสิ่งอื่นด้วยอาการเช่นนั้น เช่น รากไม้ชอนไปในดิน; พุ่งแยงออกมา (ใช้แก่แสงอย่างแสงแดดแสงไฟ) เช่น แสงตะวันชอนตา.
ช่อน เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Channa striatus ในวงศ์ Channidae ลําตัวทรงกระบอก ส่วนท้ายแบนข้างเล็กน้อย มีเกล็ดในแนวเส้นข้างตัวราว ๕๒–๕๗ เกล็ด ด้านหลังลําตัวเป็นสีนํ้าตาลเทาหรือค่อนข้างดํา ด้านข้างสีอ่อนกว่าและมีลายสีดําพาดเฉียง ท้องสีขาว ครีบต่าง ๆ มีจุดหรือริ้วสีนํ้าตาลดํา พบชุกชุมทั่วไป อาจยาวได้ถึง ๘๐ เซนติเมตร, พายัพเรียก ก่อ หรือ หลิม, อีสานเรียก ค่อ.ช่อน น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Channa striatus ในวงศ์ Channidae ลําตัวทรงกระบอก ส่วนท้ายแบนข้างเล็กน้อย มีเกล็ดในแนวเส้นข้างตัวราว ๕๒–๕๗ เกล็ด ด้านหลังลําตัวเป็นสีนํ้าตาลเทาหรือค่อนข้างดํา ด้านข้างสีอ่อนกว่าและมีลายสีดําพาดเฉียง ท้องสีขาว ครีบต่าง ๆ มีจุดหรือริ้วสีนํ้าตาลดํา พบชุกชุมทั่วไป อาจยาวได้ถึง ๘๐ เซนติเมตร, พายัพเรียก ก่อ หรือ หลิม, อีสานเรียก ค่อ.
ช้อน เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องใช้สําหรับตักของกิน มีที่จับยื่นออกมา, ลักษณนามว่า คัน, ราชาศัพท์ว่า ฉลองพระหัตถ์ช้อน; เรียกเครื่องใช้ที่มีรูปคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ช้อนรองเท้า; เครื่องจับปลาชนิดหนึ่ง ใหญ่กว่าสวิง ถักเป็นร่างแห ขอบเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือวงกลม มีด้ามจับ. เป็นคำกริยา หมายถึง ตักเอาสิ่งที่อยู่ในนํ้าหรือในของเหลว เช่น ช้อนปลา ช้อนลูกนํ้า ช้อนแหน ช้อนผง; โดยปริยายหมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ช้อนหุ้น; เอามือเป็นต้นสอดลงไปข้างล่างแล้วยกขึ้น เช่น ช้อนศีรษะ; เหลือบขึ้น เช่น ช้อนตา.ช้อน น. เครื่องใช้สําหรับตักของกิน มีที่จับยื่นออกมา, ลักษณนามว่า คัน, ราชาศัพท์ว่า ฉลองพระหัตถ์ช้อน; เรียกเครื่องใช้ที่มีรูปคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ช้อนรองเท้า; เครื่องจับปลาชนิดหนึ่ง ใหญ่กว่าสวิง ถักเป็นร่างแห ขอบเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือวงกลม มีด้ามจับ. ก. ตักเอาสิ่งที่อยู่ในนํ้าหรือในของเหลว เช่น ช้อนปลา ช้อนลูกนํ้า ช้อนแหน ช้อนผง; โดยปริยายหมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ช้อนหุ้น; เอามือเป็นต้นสอดลงไปข้างล่างแล้วยกขึ้น เช่น ช้อนศีรษะ; เหลือบขึ้น เช่น ช้อนตา.
ช้อนหอย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-นอ-หนู-หอ-หีบ-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเรียกช้อนกระเบื้อง.ช้อนหอย ๑ น. ชื่อเรียกช้อนกระเบื้อง.
ช้อนนาง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-นอ-หนู-นอ-หนู-สะ-หระ-อา-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ต้นรางจืด. ในวงเล็บ มาจาก พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๔๙๓.ช้อนนาง น. ต้นรางจืด. (พจน. ๒๔๙๓).
ช้อนหอย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-นอ-หนู-หอ-หีบ-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก ความหมายที่ ดูใน ช้อน เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-นอ-หนู.ช้อนหอย ๑ ดูใน ช้อน.
ช้อนหอย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-นอ-หนู-หอ-หีบ-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อนกหลายชนิดในวงศ์ Threskiornithidae ปากยาวโค้ง ปลายแหลม หากินในนํ้าตื้น กินปลา ปู และสัตว์นํ้าเล็ก ๆ ในประเทศไทยมี ๔ ชนิด คือ ช้อนหอยขาว หรือ กุลาขาว (Threskiornis melanocephalus) ช้อนหอยดํา หรือ กุลาดํา (Pseudibis davisoni) ช้อนหอยใหญ่ หรือ กุลาใหญ่ (P. gigantea) และ ช้อนหอยดำเหลือบ (Plegadis falci ellus), กุลา หรือ ค้อนหอย ก็เรียก.ช้อนหอย ๒ น. ชื่อนกหลายชนิดในวงศ์ Threskiornithidae ปากยาวโค้ง ปลายแหลม หากินในนํ้าตื้น กินปลา ปู และสัตว์นํ้าเล็ก ๆ ในประเทศไทยมี ๔ ชนิด คือ ช้อนหอยขาว หรือ กุลาขาว (Threskiornis melanocephalus) ช้อนหอยดํา หรือ กุลาดํา (Pseudibis davisoni) ช้อนหอยใหญ่ หรือ กุลาใหญ่ (P. gigantea) และ ช้อนหอยดำเหลือบ (Plegadis falci ellus), กุลา หรือ ค้อนหอย ก็เรียก.
ชอบ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-บอ-ไบ-ไม้ เป็นคำกริยา หมายถึง พอใจ เช่น ชอบอ่านหนังสือ ชอบเที่ยว; ถูกต้อง เช่น คิดชอบ ชอบแล้ว; เหมาะ เช่น ชอบด้วยกาลเทศะ; ถูกใจ, ถูกกัน, เช่น เขาชอบกันมาก, บางทีใช้หมายความไปในเชิงว่ารักใคร่ ก็มี เช่น หนุ่มสาวชอบกัน; มีสิทธิ์ เช่น ชอบที่จะทําได้.ชอบ ก. พอใจ เช่น ชอบอ่านหนังสือ ชอบเที่ยว; ถูกต้อง เช่น คิดชอบ ชอบแล้ว; เหมาะ เช่น ชอบด้วยกาลเทศะ; ถูกใจ, ถูกกัน, เช่น เขาชอบกันมาก, บางทีใช้หมายความไปในเชิงว่ารักใคร่ ก็มี เช่น หนุ่มสาวชอบกัน; มีสิทธิ์ เช่น ชอบที่จะทําได้.
ชอบกล เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-บอ-ไบ-ไม้-กอ-ไก่-ลอ-ลิง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ต้องด้วยชั้นเชิง, เข้าที, แปลก, น่าคิด.ชอบกล ว. ต้องด้วยชั้นเชิง, เข้าที, แปลก, น่าคิด.
ชอบใจ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-ไอ-ไม้-ม้วน-จอ-จาน เป็นคำกริยา หมายถึง ถูกใจ, ยินดี, พอใจ.ชอบใจ ก. ถูกใจ, ยินดี, พอใจ.
ชอบธรรม เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-บอ-ไบ-ไม้-ทอ-ทง-รอ-เรือ-รอ-เรือ-มอ-ม้า เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ถูกตามหลักธรรม, ถูกตามนิตินัย.ชอบธรรม ว. ถูกตามหลักธรรม, ถูกตามนิตินัย.
ชอบพอ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-บอ-ไบ-ไม้-พอ-พาน-ออ-อ่าง เป็นคำกริยา หมายถึง รักใคร่กัน, ถูกอัธยาศัยกัน.ชอบพอ ก. รักใคร่กัน, ถูกอัธยาศัยกัน.
ชอบมาพากล เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-บอ-ไบ-ไม้-มอ-ม้า-สะ-หระ-อา-พอ-พาน-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ลอ-ลิง เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ชอบกล, มักใช้ในความปฏิเสธว่า ไม่ชอบมาพากล.ชอบมาพากล ว. ชอบกล, มักใช้ในความปฏิเสธว่า ไม่ชอบมาพากล.
ชอม เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-มอ-ม้า ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง ชม.ชอม ๑ ก. ชม.
ชอม เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-มอ-ม้า ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง จ่อม, จม.ชอม ๒ ก. จ่อม, จม.
ช่อย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก ในวงเล็บ เป็นคำโบราณ เป็นคำกริยา หมายถึง ช่วย. ในวงเล็บ มาจาก ประชุมจารึกสยาม ภาคที่ จารึกสุโขทัย, ศาสตราจารย์ ยอช เซเดส์ ชำระและแปล ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๗.ช่อย (โบ) ก. ช่วย. (จารึกสยาม).
ช้อย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง งอนงาม.ช้อย ว. งอนงาม.
ช้อยชด เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก-ชอ-ช้าง-ดอ-เด็ก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อ่อนช้อย, งามกิริยาท่าทาง, ชดช้อย ก็ว่า.ช้อยชด ว. อ่อนช้อย, งามกิริยาท่าทาง, ชดช้อย ก็ว่า.
ช้อยช่างรำ, ช้อยนางรำ ช้อยช่างรำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก-ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา-งอ-งู-รอ-เรือ-สะ-หระ-อำ ช้อยนางรำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก-นอ-หนู-สะ-หระ-อา-งอ-งู-รอ-เรือ-สะ-หระ-อำ ดู กระช้อยนางรํา เขียนว่า กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ชอ-ช้าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก-นอ-หนู-สะ-หระ-อา-งอ-งู-รอ-เรือ-นิก-คะ-หิด-สะ-หระ-อา.ช้อยช่างรำ, ช้อยนางรำ ดู กระช้อยนางรํา.
ชอล์ก เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-ลอ-ลิง-ทัน-ทะ-คาด-กอ-ไก่ ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อแร่ชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนต มีซิลิกาปนอยู่เล็กน้อย เกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยการรวมตัวของหินปูนจากซากสัตว์ พืช และเปลือกหอยในทะเล, หินดินสอพอง ก็เรียก. ในวงเล็บ มาจากภาษาอังกฤษ chalk เขียนว่า ซี-เอช-เอ-แอล-เค.ชอล์ก ๑ น. ชื่อแร่ชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนต มีซิลิกาปนอยู่เล็กน้อย เกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยการรวมตัวของหินปูนจากซากสัตว์ พืช และเปลือกหอยในทะเล, หินดินสอพอง ก็เรียก. (อ. chalk).
ชอล์ก เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-ลอ-ลิง-ทัน-ทะ-คาด-กอ-ไก่ ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องเขียนกระดานดําชนิดหนึ่งที่เป็นสีขาวทําจากแคลเซียมซัลเฟต ซึ่งได้จากเกลือจืดหรือยิปซัมผสมนํ้า, ที่มีสีอื่น ๆ ผสมด้วยดินสีหรือสีสําเร็จรูป เรียกว่า ชอล์กสี. ในวงเล็บ มาจากภาษาอังกฤษ chalk เขียนว่า ซี-เอช-เอ-แอล-เค.ชอล์ก ๒ น. เครื่องเขียนกระดานดําชนิดหนึ่งที่เป็นสีขาวทําจากแคลเซียมซัลเฟต ซึ่งได้จากเกลือจืดหรือยิปซัมผสมนํ้า, ที่มีสีอื่น ๆ ผสมด้วยดินสีหรือสีสําเร็จรูป เรียกว่า ชอล์กสี. (อ. chalk).
ช่อลำดวน เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อำ-ดอ-เด็ก-วอ-แหวน-นอ-หนูดู สำลี เขียนว่า สอ-เสือ-สะ-หระ-อำ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อี ความหมายที่ ๓.ช่อลำดวน ดู สำลี ๓.
ช่ออินทนิล เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-ออ-อ่าง-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-นอ-หนู-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิงดู สร้อยอินทนิล เขียนว่า สอ-เสือ-รอ-เรือ-ไม้-โท-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก-ออ-อ่าง-สะ-หระ-อิ-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-นอ-หนู-สะ-หระ-อิ-ลอ-ลิง.ช่ออินทนิล ดู สร้อยอินทนิล.
ชอ่ำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-ไม้-เอก-สะ-หระ-อำ[ชะ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มืดมัว, มืดครึ้ม.ชอ่ำ [ชะ–] ว. มืดมัว, มืดครึ้ม.
ชอื้อ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-สะ-หระ-อือ-ไม้-โท-ออ-อ่าง[ชะ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ชื้อ, มืดมัว, มืดคลุ้ม, ครึ้ม, อับแสง.ชอื้อ [ชะ–] ว. ชื้อ, มืดมัว, มืดคลุ้ม, ครึ้ม, อับแสง.
ชอุ่ม เขียนว่า ชอ-ช้าง-ออ-อ่าง-สะ-หระ-อุ-ไม้-เอก-มอ-ม้า[ชะ–] เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ชุ่ม, สดชื่น, เช่น เขียวชอุ่ม; ชุ่มด้วยละอองนํ้าจนเห็นเป็นมืดคลุ้มหรือมืดมัว เช่น ท้องฟ้าชอุ่ม.ชอุ่ม [ชะ–] ว. ชุ่ม, สดชื่น, เช่น เขียวชอุ่ม; ชุ่มด้วยละอองนํ้าจนเห็นเป็นมืดคลุ้มหรือมืดมัว เช่น ท้องฟ้าชอุ่ม.
ชะ เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง ทําให้สิ่งที่ติดอยู่หลุดไปหรือหมดไปด้วยนํ้า ในลักษณะและอาการอย่างชะแผล; ชําระล้างด้วยอาการคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ฝนชะลาน ฝนชะช่อมะม่วง.ชะ ๑ ก. ทําให้สิ่งที่ติดอยู่หลุดไปหรือหมดไปด้วยนํ้า ในลักษณะและอาการอย่างชะแผล; ชําระล้างด้วยอาการคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ฝนชะลาน ฝนชะช่อมะม่วง.
ชะ ๒, ชะชะ ชะ ความหมายที่ ๒ เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ ชะชะ เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ เป็นคำอุทาน หมายถึง คําที่เปล่งออกมาเมื่อเวลาโกรธหรือไม่ชอบใจเป็นต้น, ชะช้า หรือ ชัดช้า ก็ว่า.ชะ ๒, ชะชะ อ. คําที่เปล่งออกมาเมื่อเวลาโกรธหรือไม่ชอบใจเป็นต้น, ชะช้า หรือ ชัดช้า ก็ว่า.
ชะคราม เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-คอ-ควาย-รอ-เรือ-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า[–คฺราม] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้พุ่มขนาดเล็กชนิด Suaeda maritima (L.) Dumort. ในวงศ์ Chenopodiaceae ขึ้นตามเลนใกล้ทะเล กิ่งก้านและใบพองกลมปลายแหลมสีเขียว เขียวอมม่วง ชมพู มีนวล กินได้, ชักคราม ก็เรียก.ชะคราม [–คฺราม] น. ชื่อไม้พุ่มขนาดเล็กชนิด Suaeda maritima (L.) Dumort. ในวงศ์ Chenopodiaceae ขึ้นตามเลนใกล้ทะเล กิ่งก้านและใบพองกลมปลายแหลมสีเขียว เขียวอมม่วง ชมพู มีนวล กินได้, ชักคราม ก็เรียก.
ชะงอก เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-งอ-งู-ออ-อ่าง-กอ-ไก่ เป็นคำนาม หมายถึง หินที่งอกออกไป.ชะงอก น. หินที่งอกออกไป.
ชะง่อน เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-งอ-งู-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง หินที่เป็นปุ่มเป็นแง่ยื่นออกมาจากเขา.ชะง่อน น. หินที่เป็นปุ่มเป็นแง่ยื่นออกมาจากเขา.
ชะงัก เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-งอ-งู-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่ เป็นคำกริยา หมายถึง หยุดลงกลางคันทันที.ชะงัก ก. หยุดลงกลางคันทันที.
ชะงัด เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-งอ-งู-ไม้-หัน-อา-กาด-ดอ-เด็ก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง แม่นยํา, ขลัง, แน่, ได้จริง, เช่น ยาขนานนี้แก้โรคปวดหัวได้ชะงัดนัก.ชะงัด ว. แม่นยํา, ขลัง, แน่, ได้จริง, เช่น ยาขนานนี้แก้โรคปวดหัวได้ชะงัดนัก.
ชะงาบ เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-งอ-งู-สะ-หระ-อา-บอ-ไบ-ไม้ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง อ้าปากงาบ ๆ ด้วยอาการชัก.ชะงาบ ว. อ้าปากงาบ ๆ ด้วยอาการชัก.
ชะง้ำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-งอ-งู-ไม้-โท-สะ-หระ-อำ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สูงและยื่นงํ้าออกมา.ชะง้ำ ว. สูงและยื่นงํ้าออกมา.
ชะงุ้ม เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-งอ-งู-สะ-หระ-อุ-ไม้-โท-มอ-ม้า เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เป็นเพิงงุ้มลงมา.ชะงุ้ม ว. เป็นเพิงงุ้มลงมา.
ชะเง้อ เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-งอ-งู-ไม้-โท-ออ-อ่าง เป็นคำกริยา หมายถึง ชูคอขึ้นดู.ชะเง้อ ก. ชูคอขึ้นดู.
ชะเงื้อม เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-งอ-งู-สะ-หระ-อือ-ไม้-โท-ออ-อ่าง-มอ-ม้า เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ยื่นออกจากที่สูง.ชะเงื้อม ว. ยื่นออกจากที่สูง.
ชะแง้ เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-แอ-งอ-งู-ไม้-โท เป็นคำกริยา หมายถึง เหลียวแลดู, เฝ้าคอยดู.ชะแง้ ก. เหลียวแลดู, เฝ้าคอยดู.
ชะโงก เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-โอ-งอ-งู-กอ-ไก่ เป็นคำกริยา หมายถึง ยื่นหน้าหรือส่วนหน้าออกไป.ชะโงก ก. ยื่นหน้าหรือส่วนหน้าออกไป.
ชะโงกผา เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-โอ-งอ-งู-กอ-ไก่-ผอ-ผึ้ง-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง หินซึ่งยื่นออกไปจากหน้าผา.ชะโงกผา น. หินซึ่งยื่นออกไปจากหน้าผา.
ชะฉ่า เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ฉอ-ฉิ่ง-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เสียงลูกคู่ที่รับเพลงปรบไก่.ชะฉ่า ว. เสียงลูกคู่ที่รับเพลงปรบไก่.
ชะช่อง เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ชอ-ช้าง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ช่อง, รูที่ผ่านได้, โอกาส, ทาง.ชะช่อง น. ช่อง, รูที่ผ่านได้, โอกาส, ทาง.
ชะช้า เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ชอ-ช้าง-ไม้-โท-สะ-หระ-อา เป็นคำอุทาน หมายถึง คําที่เปล่งออกมาเมื่อเวลาโกรธหรือไม่ชอบใจเป็นต้น, ชะ ชะชะ หรือ ชัดช้า ก็ว่า.ชะช้า อ. คําที่เปล่งออกมาเมื่อเวลาโกรธหรือไม่ชอบใจเป็นต้น, ชะ ชะชะ หรือ ชัดช้า ก็ว่า.
ชะชิด เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อิ-ดอ-เด็ก เป็นคำกริยา หมายถึง ชิด, สนิท, ใกล้, เคียง.ชะชิด ก. ชิด, สนิท, ใกล้, เคียง.
ชะดีชะร้าย เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อี-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-รอ-เรือ-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เผื่อว่า, บางทีแสดงถึงความไม่แน่นอน, โดยปรกติมักใช้ในลักษณะเหตุการณ์ที่สังหรณ์หรือกริ่งเกรงว่าอาจจะเกิดขึ้นตามที่คาดไว้.ชะดีชะร้าย (ปาก) ว. เผื่อว่า, บางทีแสดงถึงความไม่แน่นอน, โดยปรกติมักใช้ในลักษณะเหตุการณ์ที่สังหรณ์หรือกริ่งเกรงว่าอาจจะเกิดขึ้นตามที่คาดไว้.
ชะโด เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-โอ-ดอ-เด็ก เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Channa micropeltes ในวงศ์ Channidae รูปร่างคล้ายปลาช่อน ซึ่งอยู่ในสกุลเดียวกันแต่เกล็ดเล็กและมีจํานวนมากกว่า เฉพาะบนเส้นข้างตัวมี ๘๒–๙๕ เกล็ด ข้างลําตัวมีแถบสีดําเรียงคู่กันจากนัยน์ตาถึงหาง ระหว่างแถบเป็นสีแดงแถบนี้อาจแตกเป็นแต้มหรือจุดในปลาที่โตเต็มที่ ขนาดยาวได้ถึง ๙๐ เซนติเมตร, แมลงภู่ อ้ายป๊อก หรือ โด ก็เรียก.ชะโด น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Channa micropeltes ในวงศ์ Channidae รูปร่างคล้ายปลาช่อน ซึ่งอยู่ในสกุลเดียวกันแต่เกล็ดเล็กและมีจํานวนมากกว่า เฉพาะบนเส้นข้างตัวมี ๘๒–๙๕ เกล็ด ข้างลําตัวมีแถบสีดําเรียงคู่กันจากนัยน์ตาถึงหาง ระหว่างแถบเป็นสีแดงแถบนี้อาจแตกเป็นแต้มหรือจุดในปลาที่โตเต็มที่ ขนาดยาวได้ถึง ๙๐ เซนติเมตร, แมลงภู่ อ้ายป๊อก หรือ โด ก็เรียก.
ชะตา เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง ลักษณะหรืออัธยาศัยบางอย่างที่ทําให้รู้สึกชอบหรือไม่ชอบในทันทีทันใด เช่น ถูกชะตากัน ไม่ถูกชะตากัน, ลักษณะที่บังเกิดสําแดงเหตุดีและร้าย เช่น ชะตาดีชะตาร้าย; แบบรูปราศีที่บอกดาวพระเคราะห์เดินถึงราศีนั้น ๆ ในเวลาเกิดของคน หรือเวลาสร้างสิ่งสําคัญเช่นบ้านเมืองเป็นต้นที่โหรคํานวณไว้ โดยแบ่งเป็น ๑๒ ราศี เรียกว่า ดวงชะตา หรือ ดวง, ชาตา ก็ว่า.ชะตา น. ลักษณะหรืออัธยาศัยบางอย่างที่ทําให้รู้สึกชอบหรือไม่ชอบในทันทีทันใด เช่น ถูกชะตากัน ไม่ถูกชะตากัน, ลักษณะที่บังเกิดสําแดงเหตุดีและร้าย เช่น ชะตาดีชะตาร้าย; แบบรูปราศีที่บอกดาวพระเคราะห์เดินถึงราศีนั้น ๆ ในเวลาเกิดของคน หรือเวลาสร้างสิ่งสําคัญเช่นบ้านเมืองเป็นต้นที่โหรคํานวณไว้ โดยแบ่งเป็น ๑๒ ราศี เรียกว่า ดวงชะตา หรือ ดวง, ชาตา ก็ว่า.
ชะต้า เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ตอ-เต่า-ไม้-โท-สะ-หระ-อา ในวงเล็บ เป็นคำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป เป็นคำอุทาน หมายถึง คําที่เปล่งออกมาเมื่อเวลาโกรธหรือชอบใจ เช่น ชะต้าเขาเป็นหญิงยังทำได้. (ขุนช้างขุนแผนแจ้ง), ใช้ว่า ฉะต้า ก็มี.ชะต้า (แบบ) อ. คําที่เปล่งออกมาเมื่อเวลาโกรธหรือชอบใจ เช่น ชะต้าเขาเป็นหญิงยังทำได้. (ขุนช้างขุนแผนแจ้ง), ใช้ว่า ฉะต้า ก็มี.
ชะนี เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-นอ-หนู-สะ-หระ-อี ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ Hylobatidae แขนยาวมาก ไม่มีหาง ขนยาวนุ่ม เดินตัวตั้งตรงได้ ห้อยโหนอยู่ตามต้นไม้สูง ๆ ร้องเสียงดัง เสียงร้องแสดงถึงอาณาเขตของแต่ละคู่ แต่ละชนิดมีเสียงร้องไม่เหมือนกัน กินผลไม้และใบไม้ ในประเทศไทยมี ๓ ชนิด คือ ชะนีมือขาว (Hylobates lar) สีดําและนํ้าตาล, ชะนีหัวมงกุฎ (H. pileatus) ตัวผู้สีดํา ตัวเมียสีเทา, ชะนีมือดํา (H. agilis) สีดํา นํ้าตาล และเทา.ชะนี ๑ น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ Hylobatidae แขนยาวมาก ไม่มีหาง ขนยาวนุ่ม เดินตัวตั้งตรงได้ ห้อยโหนอยู่ตามต้นไม้สูง ๆ ร้องเสียงดัง เสียงร้องแสดงถึงอาณาเขตของแต่ละคู่ แต่ละชนิดมีเสียงร้องไม่เหมือนกัน กินผลไม้และใบไม้ ในประเทศไทยมี ๓ ชนิด คือ ชะนีมือขาว (Hylobates lar) สีดําและนํ้าตาล, ชะนีหัวมงกุฎ (H. pileatus) ตัวผู้สีดํา ตัวเมียสีเทา, ชะนีมือดํา (H. agilis) สีดํา นํ้าตาล และเทา.
ชะนีร่ายไม้ เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-นอ-หนู-สะ-หระ-อี-รอ-เรือ-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก-สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-มอ-ม้า-ไม้-โท เป็นคำนาม หมายถึง ท่าละครท่าหนึ่ง.ชะนีร่ายไม้ น. ท่าละครท่าหนึ่ง.
ชะนี เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-นอ-หนู-สะ-หระ-อี ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อทุเรียนพันธุ์หนึ่ง.ชะนี ๒ น. ชื่อทุเรียนพันธุ์หนึ่ง.
ชะนุง เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-นอ-หนู-สะ-หระ-อุ-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ไม้คู่สําหรับขึงเข็ดด้ายให้ตึง แล้วใช้แปรงขนหมีหวีเพื่อแยกเส้นด้าย.ชะนุง น. ไม้คู่สําหรับขึงเข็ดด้ายให้ตึง แล้วใช้แปรงขนหมีหวีเพื่อแยกเส้นด้าย.
ชะเนาะ เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-นอ-หนู-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-อะ เป็นคำนาม หมายถึง ไม้สั้น ๆ สำหรับขันบิดเชือกที่ผูกให้แน่นเช่นในการทํานั่งร้าน, ลูกชะเนาะ ก็เรียก.ชะเนาะ น. ไม้สั้น ๆ สำหรับขันบิดเชือกที่ผูกให้แน่นเช่นในการทํานั่งร้าน, ลูกชะเนาะ ก็เรียก.
ชะเนียง เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-นอ-หนู-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-งอ-งู ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาถิ่นจันทบุรี เป็นคำนาม หมายถึง ต้นเนียง. ในวงเล็บ ดู เนียง เขียนว่า สะ-หระ-เอ-นอ-หนู-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-งอ-งู ความหมายที่ ๒.ชะเนียง (ถิ่น–จันทบุรี) น. ต้นเนียง. (ดู เนียง ๒).
ชะพลู เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-พอ-พาน-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อู[–พฺลู]ดู ช้าพลู เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-พอ-พาน-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อู.ชะพลู [–พฺลู] ดู ช้าพลู.
ชะเพลิง เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-พอ-พาน-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ-งอ-งูดู กระดูกค่าง เขียนว่า กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-อู-กอ-ไก่-คอ-ควาย-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา-งอ-งู.ชะเพลิง ดู กระดูกค่าง.
ชะมด เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-มอ-ม้า-ดอ-เด็ก ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ Viverridae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับอีเห็นและพังพอน หน้าแหลม รูปร่างเพรียว สีเทาหรือนํ้าตาล มีลายจุดสีดําตามยาวทั่วตัว หางและขนหางยาว มีลายเป็นปล้อง มีต่อมกลิ่นใกล้เครื่องเพศ มักออกหากินในเวลากลางคืน ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น ชะมดเช็ด (Viverricula malaccensis) เป็นชนิดที่ใช้นํ้ามันจากต่อมกลิ่นทําเครื่องหอม, ชะมดแผงหางปล้อง (Viverra zibetha), ชะมดแผงสันหางดํา (V. megaspila), อีสานเรียก เห็นอ้ม.ชะมด ๑ น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ Viverridae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับอีเห็นและพังพอน หน้าแหลม รูปร่างเพรียว สีเทาหรือนํ้าตาล มีลายจุดสีดําตามยาวทั่วตัว หางและขนหางยาว มีลายเป็นปล้อง มีต่อมกลิ่นใกล้เครื่องเพศ มักออกหากินในเวลากลางคืน ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น ชะมดเช็ด (Viverricula malaccensis) เป็นชนิดที่ใช้นํ้ามันจากต่อมกลิ่นทําเครื่องหอม, ชะมดแผงหางปล้อง (Viverra zibetha), ชะมดแผงสันหางดํา (V. megaspila), อีสานเรียก เห็นอ้ม.
ชะมด เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-มอ-ม้า-ดอ-เด็ก ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อมะกรูดพันธุ์หนึ่ง.ชะมด ๒ น. ชื่อมะกรูดพันธุ์หนึ่ง.
ชะมด เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-มอ-ม้า-ดอ-เด็ก ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อขนมชนิดหนึ่ง ทําด้วยข้าวเม่า มะพร้าวขูด และน้ำตาล กวนให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลมแบน ชุบด้วยแป้งข้าวเจ้าแล้วทอดน้ำมัน.ชะมด ๓ น. ชื่อขนมชนิดหนึ่ง ทําด้วยข้าวเม่า มะพร้าวขูด และน้ำตาล กวนให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลมแบน ชุบด้วยแป้งข้าวเจ้าแล้วทอดน้ำมัน.
ชะมดเชียง เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-มอ-ม้า-ดอ-เด็ก-สะ-หระ-เอ-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเครื่องหอมชนิดหนึ่งซึ่งได้จากกวางชะมดตัวผู้ ใช้แต่งกลิ่นเครื่องหอมและทํายาได้. ในวงเล็บ ดู กวางชะมด ประกอบ เขียนว่า กอ-ไก่-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-งอ-งู-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-มอ-ม้า-ดอ-เด็ก ปอ-ปลา-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-กอ-ไก่-ออ-อ่าง-บอ-ไบ-ไม้ .ชะมดเชียง น. ชื่อเครื่องหอมชนิดหนึ่งซึ่งได้จากกวางชะมดตัวผู้ ใช้แต่งกลิ่นเครื่องหอมและทํายาได้. (ดู กวางชะมด ประกอบ).
ชะมดต้น เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-มอ-ม้า-ดอ-เด็ก-ตอ-เต่า-ไม้-โท-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้พุ่มชนิด Abelmoschus moschatus Medic. subsp. moschatus ในวงศ์ Malvaceae ดอกสีเหลือง โคนกลีบสีนํ้าตาลเข้ม เมล็ดมีกลิ่นคล้ายกลิ่นชะมดเช็ด ใช้ทํายาได้, ฝ้ายผี ก็เรียก.ชะมดต้น น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Abelmoschus moschatus Medic. subsp. moschatus ในวงศ์ Malvaceae ดอกสีเหลือง โคนกลีบสีนํ้าตาลเข้ม เมล็ดมีกลิ่นคล้ายกลิ่นชะมดเช็ด ใช้ทํายาได้, ฝ้ายผี ก็เรียก.
ชะมบ เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-มอ-ม้า-บอ-ไบ-ไม้ เป็นคำนาม หมายถึง ไม้ปักเป็นเครื่องหมายสําหรับขุดหลุมจะปลูกเรือน. ในวงเล็บ มาจาก อักขราภิธานศรับท์ ของ หมอปรัดเล.ชะมบ น. ไม้ปักเป็นเครื่องหมายสําหรับขุดหลุมจะปลูกเรือน. (ปรัดเล).
ชะมวง เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-มอ-ม้า-วอ-แหวน-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้ต้นชนิด Garcinia cowa Roxb. ในวงศ์ Guttiferae ใบมีรสเปรี้ยว ใช้เป็นผัก.ชะมวง น. ชื่อไม้ต้นชนิด Garcinia cowa Roxb. ในวงศ์ Guttiferae ใบมีรสเปรี้ยว ใช้เป็นผัก.
ชะมัง เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-มอ-ม้า-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งูดู ทํามัง เขียนว่า ทอ-ทะ-หาน-นิก-คะ-หิด-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู.ชะมัง ดู ทํามัง.
ชะมัด เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-มอ-ม้า-ไม้-หัน-อา-กาด-ดอ-เด็ก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มาก, ยิ่ง, เช่น เก่งชะมัด, ชะมัดยาด ก็ว่า.ชะมัด ว. มาก, ยิ่ง, เช่น เก่งชะมัด, ชะมัดยาด ก็ว่า.
ชะแม่ เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-แอ-มอ-ม้า-ไม้-เอก เป็นคำนาม หมายถึง หัวหน้าโขลน.ชะแม่ น. หัวหน้าโขลน.
ชะรอย เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-รอ-เรือ-ออ-อ่าง-ยอ-ยัก เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เห็นจะ, เห็นทีจะ, ท่าจะ, บางที, ในบทกลอนใช้ว่า รอย ก็มี.ชะรอย ว. เห็นจะ, เห็นทีจะ, ท่าจะ, บางที, ในบทกลอนใช้ว่า รอย ก็มี.
ชะลอ เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-ออ-อ่าง เป็นคำกริยา หมายถึง อาการที่ลากเลื่อนสิ่งของที่หนักให้ค่อย ๆ เคลื่อนไปจากที่, พยุงไว้, ประคองไว้, ค่อย ๆ ประคองไป เช่น โคลงชะลอพระพุทธไสยาสน์, ค่อย ๆ พยุงขึ้น; ทําให้ช้าลง, ทําให้ช้าลงเพื่อรอ เช่น ชะลอเวลา ชะลอการเกิด.ชะลอ ก. อาการที่ลากเลื่อนสิ่งของที่หนักให้ค่อย ๆ เคลื่อนไปจากที่, พยุงไว้, ประคองไว้, ค่อย ๆ ประคองไป เช่น โคลงชะลอพระพุทธไสยาสน์, ค่อย ๆ พยุงขึ้น; ทําให้ช้าลง, ทําให้ช้าลงเพื่อรอ เช่น ชะลอเวลา ชะลอการเกิด.
ชะลอม เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-ออ-อ่าง-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องสานชนิดหนึ่ง รูปทรงกระบอก สานด้วยตอกเป็นต้น ตาห่าง ๆ สําหรับใส่สิ่งของ, อีสานเรียก กระลอม ก็มี.ชะลอม น. เครื่องสานชนิดหนึ่ง รูปทรงกระบอก สานด้วยตอกเป็นต้น ตาห่าง ๆ สําหรับใส่สิ่งของ, อีสานเรียก กระลอม ก็มี.
ชะล่า เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อเรือขุดชนิดหนึ่ง ท้องแบน หัวเชิดขึ้นเล็กน้อย หัวตัดท้ายตัด มีขนาดยาวมาก.ชะล่า ๑ น. ชื่อเรือขุดชนิดหนึ่ง ท้องแบน หัวเชิดขึ้นเล็กน้อย หัวตัดท้ายตัด มีขนาดยาวมาก.
ชะล่า เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง เหิมใจ, ได้ใจ, กําเริบ, กล้าล่วงเกิน.ชะล่า ๒ ก. เหิมใจ, ได้ใจ, กําเริบ, กล้าล่วงเกิน.
ชะลาน เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อา-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อหนึ่งของฝนชะช่อมะม่วง ชาวนาเรียกว่า ฝนชะลาน เพราะมักตกในระยะเวลาที่ยังนวดข้าวไม่เสร็จ.ชะลาน น. ชื่อหนึ่งของฝนชะช่อมะม่วง ชาวนาเรียกว่า ฝนชะลาน เพราะมักตกในระยะเวลาที่ยังนวดข้าวไม่เสร็จ.
ชะลิน เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อิ-นอ-หนูดู นวลจันทร์ทะเล เขียนว่า นอ-หนู-วอ-แหวน-ลอ-ลิง-จอ-จาน-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ทอ-ทะ-หาน-รอ-เรือ-ทัน-ทะ-คาด-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-ลอ-ลิง.ชะลิน ดู นวลจันทร์ทะเล.
ชะลูด เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อู-ดอ-เด็ก ความหมายที่ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เรียวยาวสูงขึ้นไป.ชะลูด ๑ ว. เรียวยาวสูงขึ้นไป.
ชะลูด เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อู-ดอ-เด็ก ความหมายที่ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้เถาชนิด Alyxia reinwardtii Blume ในวงศ์ Apocynaceae เปลือกหอม ใช้ทํายาและปรุงเครื่องหอม.ชะลูด ๒ น. ชื่อไม้เถาชนิด Alyxia reinwardtii Blume ในวงศ์ Apocynaceae เปลือกหอม ใช้ทํายาและปรุงเครื่องหอม.
ชะลูด เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อู-ดอ-เด็ก ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง ลงท้อง, ท้องเดิน, (ใช้แก่ช้าง).ชะลูด ๓ ก. ลงท้อง, ท้องเดิน, (ใช้แก่ช้าง).
ชะเลง เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-ลอ-ลิง-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องดักปลาชนิดหนึ่งคล้ายชนาง.ชะเลง น. เครื่องดักปลาชนิดหนึ่งคล้ายชนาง.
ชะเลย เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-ลอ-ลิง-ยอ-ยัก เป็นคำกริยา หมายถึง ชะล่า เช่น พระทําเฉยจะให้นางชะเลยใจ. ในวงเล็บ มาจาก อิเหนา พระราชนิพนธ์ ในรัชกาลที่ ๒ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๔.ชะเลย ก. ชะล่า เช่น พระทําเฉยจะให้นางชะเลยใจ. (อิเหนา).
ชะแล็ก เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-แอ-ลอ-ลิง-ไม้-ไต่-คู้-กอ-ไก่ ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นภาษาปาก เป็นคำนาม หมายถึง เชลแล็ก. ในวงเล็บ มาจากภาษาอังกฤษ shellac เขียนว่า เอส-เอช-อี-แอล-แอล-เอ-ซี.ชะแล็ก (ปาก) น. เชลแล็ก. (อ. shellac).
ชะแลง เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-แอ-ลอ-ลิง-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง เครื่องมือชนิดหนึ่ง ทําด้วยท่อนเหล็กมีปลายแบน สําหรับงัดสิ่งของหรือขุดดิน.ชะแลง น. เครื่องมือชนิดหนึ่ง ทําด้วยท่อนเหล็กมีปลายแบน สําหรับงัดสิ่งของหรือขุดดิน.
ชะวัง เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-วอ-แหวน-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อหวายชนิดหนึ่งผิวงาม โดยมากใช้ทําไม้ถือ. ในวงเล็บ มาจาก พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๔๙๓.ชะวัง น. ชื่อหวายชนิดหนึ่งผิวงาม โดยมากใช้ทําไม้ถือ. (พจน. ๒๔๙๓).
ชะวาก เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่ เป็นคำนาม หมายถึง ช่องที่เวิ้งว้างเข้าไป.ชะวาก น. ช่องที่เวิ้งว้างเข้าไป.
ชะวากทะเล เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่-ทอ-ทะ-หาน-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-ลอ-ลิง เป็นคำนาม หมายถึง ฝั่งทะเลที่เว้าเป็นช่องเข้าไปยังปากแม่นํ้า ซึ่งนํ้าจืดไหลมาผสมกับนํ้าทะเล.ชะวากทะเล น. ฝั่งทะเลที่เว้าเป็นช่องเข้าไปยังปากแม่นํ้า ซึ่งนํ้าจืดไหลมาผสมกับนํ้าทะเล.
ชะวาด เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-ดอ-เด็ก เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อปลาชนิดหนึ่ง เช่น ชะวาดแอบแปบปนปลอม. ในวงเล็บ มาจาก กาพย์ห่อโคลงเห่เรือ แบบเรียนกวีนิพนธ์.ชะวาด น. ชื่อปลาชนิดหนึ่ง เช่น ชะวาดแอบแปบปนปลอม. (เห่เรือ).
ชะวุ้ง เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อุ-ไม้-โท-งอ-งู เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เป็นคุ้ง, คด, อ้อม, เช่น หว่างเวิ้งชะวุ้งศิขร. ในวงเล็บ มาจาก กุมารคำฉันท์ พระนิพนธ์ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงมณฑา กับพระองค์เจ้าหญิงอุบล ฉบับโรงพิมพ์ โสภณพิพรรฒธนากร พ.ศ. ๒๔๖๖.ชะวุ้ง ว. เป็นคุ้ง, คด, อ้อม, เช่น หว่างเวิ้งชะวุ้งศิขร. (กุมารคําฉันท์).
ชะเวิกชะวาก เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อิ-กอ-ไก่-ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-กอ-ไก่ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เปิดกว้างและลึก เช่น สวมเสื้อคอกว้างชะเวิกชะวาก.ชะเวิกชะวาก ว. เปิดกว้างและลึก เช่น สวมเสื้อคอกว้างชะเวิกชะวาก.
ชะแวง เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-แอ-วอ-แหวน-งอ-งู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อปลาชนิดหนึ่ง เช่น ชะแวงแฝงฝั่งแนบ. ในวงเล็บ มาจาก กาพย์ห่อโคลงเห่เรือ แบบเรียนกวีนิพนธ์.ชะแวง น. ชื่อปลาชนิดหนึ่ง เช่น ชะแวงแฝงฝั่งแนบ. (เห่เรือ).
ชะอม เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ออ-อ่าง-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้พุ่มรอเลื้อยชนิด Acacia pennata (L.) Willd. subsp. insuavis (Lace) Nielsen ในวงศ์ Leguminosae มีหนาม กลิ่นแรง ใบเล็กเป็นฝอย ยอดและใบอ่อนกินได้.ชะอม น. ชื่อไม้พุ่มรอเลื้อยชนิด Acacia pennata (L.) Willd. subsp. insuavis (Lace) Nielsen ในวงศ์ Leguminosae มีหนาม กลิ่นแรง ใบเล็กเป็นฝอย ยอดและใบอ่อนกินได้.
ชะอ้อน เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-ออ-อ่าง-ไม้-โท-ออ-อ่าง-นอ-หนู เป็นคำกริยา หมายถึง แสดงกิริยาวาจาเพื่อให้เขาเมตตา, ฉะอ้อน ก็ใช้. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง กล้องแกล้ง, แน่งน้อย, รูปเล็กบาง, ฉะอ้อน ก็ใช้.ชะอ้อน ก. แสดงกิริยาวาจาเพื่อให้เขาเมตตา, ฉะอ้อน ก็ใช้. ว. กล้องแกล้ง, แน่งน้อย, รูปเล็กบาง, ฉะอ้อน ก็ใช้.
ชะเอม เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-เอ-ออ-อ่าง-มอ-ม้า เป็นคำนาม หมายถึง (๑) ชื่อไม้เถาชนิด Myriopteron extensum (Wight) K. Schum. ในวงศ์ Asclepiadaceae เถามีรสหวาน ใช้ทํายา ผลมีครีบโดยรอบ กินได้, ข้าวสาร ก็เรียก. (๒) ชื่อพรรณไม้ ๓ ชนิดในวงศ์ Leguminosae คือ ชะเอมไทย หรือ ชะเอมป่า (Albizia myriophylla Benth.) เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง เถามีรสหวาน ใช้ทํายาได้, ชะเอมเทศ (Glycyrrhiza glabra L.) และ ชะเอมขาไก่ (G. uralensis Fish.) เป็นไม้พุ่มต่างประเทศ รากมีรสหวานชุ่มคอ ใช้ทํายาได้. ในวงเล็บ มาจากภาษาเขมร เฌีแอม เขียนว่า สะ-หระ-เอ-ชอ-เชอ-สะ-หระ-อี-สะ-หระ-แอ-ออ-อ่าง-มอ-ม้า ว่า ไม้หวาน .ชะเอม น. (๑) ชื่อไม้เถาชนิด Myriopteron extensum (Wight) K. Schum. ในวงศ์ Asclepiadaceae เถามีรสหวาน ใช้ทํายา ผลมีครีบโดยรอบ กินได้, ข้าวสาร ก็เรียก. (๒) ชื่อพรรณไม้ ๓ ชนิดในวงศ์ Leguminosae คือ ชะเอมไทย หรือ ชะเอมป่า (Albizia myriophylla Benth.) เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง เถามีรสหวาน ใช้ทํายาได้, ชะเอมเทศ (Glycyrrhiza glabra L.) และ ชะเอมขาไก่ (G. uralensis Fish.) เป็นไม้พุ่มต่างประเทศ รากมีรสหวานชุ่มคอ ใช้ทํายาได้. (ข. เฌีแอม ว่า ไม้หวาน).
ชะโอน เขียนว่า ชอ-ช้าง-สะ-หระ-อะ-สะ-หระ-โอ-ออ-อ่าง-นอ-หนู เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อปลานํ้าจืด ไม่มีเกล็ด ในวงศ์ Siluridae มีฟันเล็กแต่แหลมคม ลําตัวด้านหลังสีนํ้าตาลครีบต่าง ๆ มีจุดประสีเทาดํา เป็นพวกปลาเนื้ออ่อน มี ๒ ชนิด คือ ชนิด Ompok bimaculatus ซึ่งมีครีบหลัง ปากเชิดขึ้น เหนือครีบอกมีจุดกลมสีดํา ๑ จุด, เนื้ออ่อน โอน หน้าสั้น สยุมพร หรือ นาง ก็เรียก; และชนิด Kryptopterus apogon ไม่มีครีบหลัง ปากอยู่ปลายสุดของหัว ไม่มีจุดดําบนลําตัว, เนื้ออ่อน แดง นํ้าเงิน หรือ นาง ก็เรียก.ชะโอน น. ชื่อปลานํ้าจืด ไม่มีเกล็ด ในวงศ์ Siluridae มีฟันเล็กแต่แหลมคม ลําตัวด้านหลังสีนํ้าตาลครีบต่าง ๆ มีจุดประสีเทาดํา เป็นพวกปลาเนื้ออ่อน มี ๒ ชนิด คือ ชนิด Ompok bimaculatus ซึ่งมีครีบหลัง ปากเชิดขึ้น เหนือครีบอกมีจุดกลมสีดํา ๑ จุด, เนื้ออ่อน โอน หน้าสั้น สยุมพร หรือ นาง ก็เรียก; และชนิด Kryptopterus apogon ไม่มีครีบหลัง ปากอยู่ปลายสุดของหัว ไม่มีจุดดําบนลําตัว, เนื้ออ่อน แดง นํ้าเงิน หรือ นาง ก็เรียก.
ชัก เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่ ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง ดึงสายเชือกเป็นต้นที่ผูกอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อให้สิ่งนั้นเคลื่อนไหวไปตามต้องการ เช่น ชักว่าว ชักรอก; ดึง, ดึงออกมา, ดึงขึ้น, เช่น ชักดาบออกจากฝัก ชักลิ้นชักโต๊ะ; ดึงเอามา เช่น ชักผ้าป่า ชักผ้าบังสุกุล; ดึงออกแล้วดันเข้า เช่น ชักสูบ ชักเข้าชักออก; นํา เช่น ชักนํ้าเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน; นําเอามาอ้าง, ยกเอามาอ้าง, เช่น ชักตัวอย่าง; เอาออก, หักออก, เช่น ชักค่าอาหาร ชักค่านายหน้า; ขยายแนวให้ยืดออก เช่น ชักปีกกา ชักกําแพง; สี เช่น ชักซอ; กระตุก เช่น ชักจ้องหน่อง. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ค่อนข้าง, เกือบ, เริ่ม, เช่น ชักโกรธ ชักหิว.ชัก ๑ ก. ดึงสายเชือกเป็นต้นที่ผูกอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อให้สิ่งนั้นเคลื่อนไหวไปตามต้องการ เช่น ชักว่าว ชักรอก; ดึง, ดึงออกมา, ดึงขึ้น, เช่น ชักดาบออกจากฝัก ชักลิ้นชักโต๊ะ; ดึงเอามา เช่น ชักผ้าป่า ชักผ้าบังสุกุล; ดึงออกแล้วดันเข้า เช่น ชักสูบ ชักเข้าชักออก; นํา เช่น ชักนํ้าเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน; นําเอามาอ้าง, ยกเอามาอ้าง, เช่น ชักตัวอย่าง; เอาออก, หักออก, เช่น ชักค่าอาหาร ชักค่านายหน้า; ขยายแนวให้ยืดออก เช่น ชักปีกกา ชักกําแพง; สี เช่น ชักซอ; กระตุก เช่น ชักจ้องหน่อง. ว. ค่อนข้าง, เกือบ, เริ่ม, เช่น ชักโกรธ ชักหิว.
ชักกระบี่สี่ท่า เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-อี-ไม้-เอก-สอ-เสือ-สะ-หระ-อี-ไม้-เอก-ทอ-ทะ-หาน-ไม้-เอก-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง ท่าละครท่าหนึ่ง.ชักกระบี่สี่ท่า น. ท่าละครท่าหนึ่ง.
ชักครอก เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-คอ-ควาย-รอ-เรือ-ออ-อ่าง-กอ-ไก่[–คฺรอก] เป็นคำนาม หมายถึง เรียกลูกปลาจำพวกปลาช่อนที่ตามพ่อเป็นฝูง ๆ ว่า ลูกชักครอก, ลูกครอก ก็ว่า.ชักครอก [–คฺรอก] น. เรียกลูกปลาจำพวกปลาช่อนที่ตามพ่อเป็นฝูง ๆ ว่า ลูกชักครอก, ลูกครอก ก็ว่า.
ชักโครก เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สะ-หระ-โอ-คอ-ควาย-รอ-เรือ-กอ-ไก่[–โคฺรก] เป็นคำนาม หมายถึง ที่นั่งถ่ายอุจจาระมีที่เปิดนํ้าขับล้างได้.ชักโครก [–โคฺรก] น. ที่นั่งถ่ายอุจจาระมีที่เปิดนํ้าขับล้างได้.
ชักเงา เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สะ-หระ-เอ-งอ-งู-สะ-หระ-อา เป็นคำกริยา หมายถึง ทําให้เกิดเงา. เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ที่ทําให้เกิดเงา เช่น นํ้ามันชักเงา.ชักเงา ก. ทําให้เกิดเงา. ว. ที่ทําให้เกิดเงา เช่น นํ้ามันชักเงา.
ชักจูง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-จอ-จาน-สะ-หระ-อู-งอ-งู เป็นคำกริยา หมายถึง จูงใจเพื่อให้เห็นคล้อยตาม.ชักจูง ก. จูงใจเพื่อให้เห็นคล้อยตาม.
ชักชวน เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ชอ-ช้าง-วอ-แหวน-นอ-หนู เป็นคำกริยา หมายถึง ชวนให้ทําด้วยกัน.ชักชวน ก. ชวนให้ทําด้วยกัน.
ชักซอสามสาย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ซอ-โซ่-ออ-อ่าง-สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-สอ-เสือ-สะ-หระ-อา-ยอ-ยัก เป็นคำนาม หมายถึง ท่าละครท่าหนึ่ง.ชักซอสามสาย น. ท่าละครท่าหนึ่ง.
ชักซุงตามขวาง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ซอ-โซ่-สะ-หระ-อุ-งอ-งู-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อา-มอ-ม้า-ขอ-ไข่-วอ-แหวน-สะ-หระ-อา-งอ-งู ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นสำนวน เป็นคำกริยา หมายถึง ทําอะไรที่ไม่ถูกวิธีย่อมได้รับความลําบาก; ขัดขวางผู้มีอํานาจย่อมได้รับความเดือดร้อน.ชักซุงตามขวาง (สำ) ก. ทําอะไรที่ไม่ถูกวิธีย่อมได้รับความลําบาก; ขัดขวางผู้มีอํานาจย่อมได้รับความเดือดร้อน.
ชักตะพานแหงนเถ่อ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ตอ-เต่า-สะ-หระ-อะ-พอ-พาน-สะ-หระ-อา-นอ-หนู-สะ-หระ-แอ-หอ-หีบ-งอ-งู-นอ-หนู-สะ-หระ-เอ-ถอ-ถุง-ไม้-เอก-ออ-อ่าง ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นสำนวน เป็นคำกริยา หมายถึง ตั้งใจทําอะไรแล้วไม่เป็นผลสําเร็จ ต้องคอยค้างอยู่.ชักตะพานแหงนเถ่อ (สำ) ก. ตั้งใจทําอะไรแล้วไม่เป็นผลสําเร็จ ต้องคอยค้างอยู่.
ชักนำ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-นอ-หนู-สะ-หระ-อำ เป็นคำกริยา หมายถึง เกลี้ยกล่อมหรือโน้มนําให้เห็นคล้อยตาม.ชักนำ ก. เกลี้ยกล่อมหรือโน้มนําให้เห็นคล้อยตาม.
ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-นอ-หนู-ไม้-โท-สะ-หระ-อำ-สะ-หระ-เอ-ขอ-ไข่-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-ลอ-ลิง-สะ-หระ-อึ-กอ-ไก่ ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สอ-สา-ลา-สะ-หระ-อึ-กอ-ไก่-สะ-หระ-เอ-ขอ-ไข่-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-บอ-ไบ-ไม้-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-นอ-หนู ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นสำนวน เป็นคำกริยา หมายถึง นําศัตรูเข้าบ้าน.ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน (สำ) ก. นําศัตรูเข้าบ้าน.
ชักเนื้อ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สะ-หระ-เอ-นอ-หนู-สะ-หระ-อือ-ไม้-โท-ออ-อ่าง เป็นคำกริยา หมายถึง เอาทรัพย์หรือผลประโยชน์ของตนออกใช้ทดแทน, ใช้เงินเกินกว่าจํานวนที่เขากําหนดไว้ แล้วเรียกเอาส่วนเกินคืนไม่ได้, ชักทุนเดิม.ชักเนื้อ ก. เอาทรัพย์หรือผลประโยชน์ของตนออกใช้ทดแทน, ใช้เงินเกินกว่าจํานวนที่เขากําหนดไว้ แล้วเรียกเอาส่วนเกินคืนไม่ได้, ชักทุนเดิม.
ชักใบให้เรือเสีย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สะ-หระ-ไอ-ไม้-ม้วน-บอ-ไบ-ไม้-สะ-หระ-ไอ-ไม้-ม้วน-หอ-หีบ-ไม้-โท-สะ-หระ-เอ-รอ-เรือ-สะ-หระ-อือ-ออ-อ่าง-สะ-หระ-เอ-สอ-เสือ-สะ-หระ-อี-ยอ-ยัก ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นสำนวน เป็นคำกริยา หมายถึง พูดหรือทําขวาง ๆ ให้การสนทนาหรือการงานเขวออกนอกเรื่องไป.ชักใบให้เรือเสีย (สำ) ก. พูดหรือทําขวาง ๆ ให้การสนทนาหรือการงานเขวออกนอกเรื่องไป.
ชักแป้งผัดหน้า เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สะ-หระ-แอ-ปอ-ปลา-ไม้-โท-งอ-งู-ผอ-ผึ้ง-ไม้-หัน-อา-กาด-ดอ-เด็ก-หอ-หีบ-นอ-หนู-ไม้-โท-สะ-หระ-อา เป็นคำนาม หมายถึง ท่าละครท่าหนึ่ง.ชักแป้งผัดหน้า น. ท่าละครท่าหนึ่ง.
ชักพระ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-พอ-พาน-รอ-เรือ-สะ-หระ-อะ เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อประเพณีอย่างหนึ่งทางภาคใต้ ถือว่าเป็นประเพณีสําคัญ นิยมมีในวันแรม ๑ คํ่า เดือน ๑๑ ซึ่งถือว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์กลับจากโปรดพระพุทธมารดา คล้ายวันตักบาตรเทโวของภาคกลาง, การชักพระมี ๒ อย่าง คือ ชักพระทางบกกับทางน้ำ, ถ้าชักพระทางบก ก็อัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานไว้บนบุษบกซึ่งตั้งอยู่บนยานพาหนะแล้วช่วยกันชักลากไป, ถ้าชักพระทางน้ำ ก็อัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานบนบุษบกในเรือ แล้วใช้เชือกผูกเรือพระช่วยกันลากไปยังสถานที่ที่กำหนด แล้วจึงถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์ มักจะมีการโยนข้าวต้มรูปสามเหลี่ยมห่อด้วยใบกะพ้อเป็นต้นใส่กัน บางทีก็มีแข่งเรือและอื่น ๆ ด้วย.ชักพระ น. ชื่อประเพณีอย่างหนึ่งทางภาคใต้ ถือว่าเป็นประเพณีสําคัญ นิยมมีในวันแรม ๑ คํ่า เดือน ๑๑ ซึ่งถือว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์กลับจากโปรดพระพุทธมารดา คล้ายวันตักบาตรเทโวของภาคกลาง, การชักพระมี ๒ อย่าง คือ ชักพระทางบกกับทางน้ำ, ถ้าชักพระทางบก ก็อัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานไว้บนบุษบกซึ่งตั้งอยู่บนยานพาหนะแล้วช่วยกันชักลากไป, ถ้าชักพระทางน้ำ ก็อัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานบนบุษบกในเรือ แล้วใช้เชือกผูกเรือพระช่วยกันลากไปยังสถานที่ที่กำหนด แล้วจึงถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์ มักจะมีการโยนข้าวต้มรูปสามเหลี่ยมห่อด้วยใบกะพ้อเป็นต้นใส่กัน บางทีก็มีแข่งเรือและอื่น ๆ ด้วย.
ชักแม่น้ำทั้งห้า เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สะ-หระ-แอ-มอ-ม้า-ไม้-เอก-นอ-หนู-ไม้-โท-สะ-หระ-อำ-ทอ-ทะ-หาน-ไม้-หัน-อา-กาด-ไม้-โท-งอ-งู-หอ-หีบ-ไม้-โท-สะ-หระ-อา ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นสำนวน หมายถึง ก.พูดจาหว่านล้อมยกยอบุญคุณเพื่อขอสิ่งที่ประสงค์ เช่น เถ้าก็พูดจาหว่านล้อมด้วยคํายอ ชักเอาแม่นํ้าทั้งห้าเข้ามาล่อ. ในวงเล็บ มาจาก มหาเวสสันดรชาดก ในวงเล็บ แบบเรียน กัณฑ์กุมาร.ชักแม่น้ำทั้งห้า (สำ) ก.พูดจาหว่านล้อมยกยอบุญคุณเพื่อขอสิ่งที่ประสงค์ เช่น เถ้าก็พูดจาหว่านล้อมด้วยคํายอ ชักเอาแม่นํ้าทั้งห้าเข้ามาล่อ. (ม. ร่ายยาว กุมาร).
ชักยันต์ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-ยอ-ยัก-ไม้-หัน-อา-กาด-นอ-หนู-ตอ-เต่า-ทัน-ทะ-คาด เป็นคำกริยา หมายถึง ลากเส้นและลงอักขระเป็นรูปยันต์ต่าง ๆ พร้อมทั้งบริกรรมคาถา; ขี่ม้าแปรขบวนเป็นรูปคล้ายยันต์.ชักยันต์ ก. ลากเส้นและลงอักขระเป็นรูปยันต์ต่าง ๆ พร้อมทั้งบริกรรมคาถา; ขี่ม้าแปรขบวนเป็นรูปคล้ายยันต์.
ชักเย่อ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สะ-หระ-เอ-ยอ-ยัก-ไม้-เอก-ออ-อ่าง[ชักกะ–] เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อการเล่นอย่างหนึ่ง โดยแบ่งผู้เล่นออกเป็น ๒ ฝ่าย แต่ละฝ่ายจะมีจำนวนเท่า ๆ กันหรือกำลังพอ ๆ กัน มักใช้เชือกขนาดพอกำรอบ ยาวพอที่จะให้ผู้เล่นทั้ง ๒ ฝ่ายเรียงแถวจับได้ โดยมีที่ว่างระหว่างกลางเหลือไว้ประมาณ ๒ เมตร กลางเชือกคาดด้วยผ้าหรือใช้สีป้ายเป็นเครื่องหมายไว้ วางกึ่งกลางเชือกไว้บนพื้นที่ที่มีเส้นขีดกลางเป็นเส้นแบ่งเขตแดน เมื่อกรรมการให้สัญญาณ ผู้เล่นทั้ง ๒ ฝ่ายต่างก็จะพยายามดึงเชือกให้กึ่งกลางของเชือกเข้ามาในแดนของตน ถ้าฝ่ายใดสามารถดึงกึ่งกลางเชือกเข้ามาในแดนของตนได้ ถือว่าชนะ ตามปรกติจะแข่งกัน ๓ ครั้ง ฝ่ายที่ชนะ ๒ ใน ๓ ครั้งถือว่าชนะเด็ดขาด. เป็นคำกริยา หมายถึง ดึง, รั้ง.ชักเย่อ [ชักกะ–] น. ชื่อการเล่นอย่างหนึ่ง โดยแบ่งผู้เล่นออกเป็น ๒ ฝ่าย แต่ละฝ่ายจะมีจำนวนเท่า ๆ กันหรือกำลังพอ ๆ กัน มักใช้เชือกขนาดพอกำรอบ ยาวพอที่จะให้ผู้เล่นทั้ง ๒ ฝ่ายเรียงแถวจับได้ โดยมีที่ว่างระหว่างกลางเหลือไว้ประมาณ ๒ เมตร กลางเชือกคาดด้วยผ้าหรือใช้สีป้ายเป็นเครื่องหมายไว้ วางกึ่งกลางเชือกไว้บนพื้นที่ที่มีเส้นขีดกลางเป็นเส้นแบ่งเขตแดน เมื่อกรรมการให้สัญญาณ ผู้เล่นทั้ง ๒ ฝ่ายต่างก็จะพยายามดึงเชือกให้กึ่งกลางของเชือกเข้ามาในแดนของตน ถ้าฝ่ายใดสามารถดึงกึ่งกลางเชือกเข้ามาในแดนของตนได้ ถือว่าชนะ ตามปรกติจะแข่งกัน ๓ ครั้ง ฝ่ายที่ชนะ ๒ ใน ๓ ครั้งถือว่าชนะเด็ดขาด. ก. ดึง, รั้ง.
ชักใย เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สะ-หระ-ไอ-ไม้-ม้วน-ยอ-ยัก ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นสำนวน เป็นคำกริยา หมายถึง บงการอยู่เบื้องหลัง.ชักใย (สำ) ก. บงการอยู่เบื้องหลัง.
ชักรอก เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-รอ-เรือ-ออ-อ่าง-กอ-ไก่ เป็นคำกริยา หมายถึง อาการที่ทำให้เส้นเชือกหรือเส้นลวดเคลื่อนผ่านร่องของรอกเพื่อยก ลาก หรือดึงของหนักหรือคนเป็นต้น ให้เบาแรงและสะดวกคล่องขึ้น. เป็นคำนาม หมายถึง เรียกโขนที่ชักรอกผู้แสดง เช่น หนุมาน เบญกาย ขึ้นไปจากพื้นเวทีแสดงท่าเหาะว่า โขนชักรอก.ชักรอก ก. อาการที่ทำให้เส้นเชือกหรือเส้นลวดเคลื่อนผ่านร่องของรอกเพื่อยก ลาก หรือดึงของหนักหรือคนเป็นต้น ให้เบาแรงและสะดวกคล่องขึ้น. น. เรียกโขนที่ชักรอกผู้แสดง เช่น หนุมาน เบญกาย ขึ้นไปจากพื้นเวทีแสดงท่าเหาะว่า โขนชักรอก.
ชักรูป เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-รอ-เรือ-สะ-หระ-อู-ปอ-ปลา เป็นคำกริยา หมายถึง บันทึกภาพโดยวิธีให้แสงจากสิ่งที่จะถ่ายไปลงบนแผ่นวัสดุใสเช่นฟิล์ม กระจกถ่ายรูป, ถ่ายรูป ก็ว่า.ชักรูป ก. บันทึกภาพโดยวิธีให้แสงจากสิ่งที่จะถ่ายไปลงบนแผ่นวัสดุใสเช่นฟิล์ม กระจกถ่ายรูป, ถ่ายรูป ก็ว่า.
ชักศพ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สอ-สา-ลา-พอ-พาน เป็นคำกริยา หมายถึง ถือสายสิญจน์ที่โยงจากศพและนําศพให้เคลื่อนที่ไปยังที่เก็บ ที่ตั้ง หรือที่เผาศพ (ใช้แก่พระ).ชักศพ ก. ถือสายสิญจน์ที่โยงจากศพและนําศพให้เคลื่อนที่ไปยังที่เก็บ ที่ตั้ง หรือที่เผาศพ (ใช้แก่พระ).
ชักสองแถว เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สอ-เสือ-ออ-อ่าง-งอ-งู-สะ-หระ-แอ-ถอ-ถุง-วอ-แหวน เป็นคำกริยา หมายถึง ยอมแพ้ (ใช้แก่ปลากัดซึ่งมีตัวซีด มีเส้นดําขึ้นที่ตัวเป็น ๒ แถว).ชักสองแถว ก. ยอมแพ้ (ใช้แก่ปลากัดซึ่งมีตัวซีด มีเส้นดําขึ้นที่ตัวเป็น ๒ แถว).
ชักสีหน้า เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สอ-เสือ-สะ-หระ-อี-หอ-หีบ-นอ-หนู-ไม้-โท-สะ-หระ-อา เป็นคำกริยา หมายถึง ทำสีหน้าโกรธไม่พอใจ, ชักหน้า ก็ว่า.ชักสีหน้า ก. ทำสีหน้าโกรธไม่พอใจ, ชักหน้า ก็ว่า.
ชักสื่อ เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-สอ-เสือ-สะ-หระ-อือ-ไม้-เอก-ออ-อ่าง เป็นคำกริยา หมายถึง แนะนําชายหญิงให้รู้จักกันในฐานชู้สาว.ชักสื่อ ก. แนะนําชายหญิงให้รู้จักกันในฐานชู้สาว.
ชักหน้า เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-หอ-หีบ-นอ-หนู-ไม้-โท-สะ-หระ-อา ความหมายที่ เป็นคำกริยา หมายถึง ทําสีหน้าโกรธไม่พอใจ เช่น นางนั่งก้มพักตร์แล้วชักหน้า. ในวงเล็บ มาจาก อิเหนา พระราชนิพนธ์ ในรัชกาลที่ ๒ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พ.ศ. ๒๔๖๔, ชักสีหน้า ก็ว่า.ชักหน้า ๑ ก. ทําสีหน้าโกรธไม่พอใจ เช่น นางนั่งก้มพักตร์แล้วชักหน้า. (อิเหนา), ชักสีหน้า ก็ว่า.
ชักหน้าไม่ถึงหลัง เขียนว่า ชอ-ช้าง-ไม้-หัน-อา-กาด-กอ-ไก่-หอ-หีบ-นอ-หนู-ไม้-โท-สะ-หระ-อา-สะ-หระ-ไอ-ไม้-มะ-ลาย-มอ-ม้า-ไม้-เอก-ถอ-ถุง-สะ-หระ-อึ-งอ-งู-หอ-หีบ-ลอ-ลิง-ไม้-หัน-อา-กาด-งอ-งู ในวงเล็บ เป็นคำที่เป็นสำนวน เป็นคำกริยา หมายถึง มีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย.ชักหน้าไม่ถึงหลัง (สำ) ก. มีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย.